กัวลาลัมเปอร์ (เอเอฟพี/รอยเตอร์) - ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเผยว่า ประเทศกำลังแบกรับภาระหนี้สาธารณะกว่า 1 ล้านล้านริงกิต (กว่า 8 ล้านล้านบาท) และโทษว่าเป็นเพราะรัฐบาลชุดก่อนของนายนาจิบ ราซัค
ดร.มหาเธร์กล่าวกับคณะเจ้าหน้าที่สำนักนายกรัฐมนตรีครั้งแรกตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งหลังชนะเลือกตั้งว่า ฐานะการเงินของประเทศถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดจนประเทศกำลังมีปัญหาในการชำระหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นไปแตะ 1 ล้านล้านริงกิต(กว่า 8 ล้านล้านบาท) มาเลเซียไม่เคยมีปัญหาเช่นนี้มาก่อน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีหนี้สูงเกิน 300,000 ล้านริงกิต (ราว 2.43 ล้านล้านบาท)
ดร.มหาเธร์ประกาศตั้งแต่สัปดาห์แรกที่เข้ารับตำแหน่งว่า จะลดภาษีสินค้าและบริการ (GST) ร้อยละ 6 ที่ใช้มาตั้งแต่ 1 เมษายน 2558 ให้เหลือร้อยละ 0 แล้วจะแทนที่ด้วยภาษีขายละบริการ (SST) ขณะเดียวกัน จะนำมาตรการอุดหนุนราคาเชื้อเพลิงกลับมาใช้อีกครั้งตามที่ได้หาเสียงไว้ว่าจะลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ขณะที่บริษัทจัดอันดับเครดิตมูดี้ส์อินเวสเตอร์เซอร์วิสติงว่า หากใช้นโยบายเหล่านี้โดยไม่มีมาตรการชดเชยใดๆ ยอดขาดดุลการคลังของมาเลเซียจะยิ่งมากขึ้นและจะไม่เป็นผลดีต่ออันดับเครดิตของมาเลเซีย ก่อนหน้านี้ ดร.มหาเธร์เผยว่า มาเลเซียต้องปฏิรูประบบเศรษฐกิจและการคลังให้มีความเป็นระบบระเบียบมากกว่านี้ เนื่องจากมีช่องโหว่ให้ผู้ประสงค์ดีนำไปใช้ในทางมิชอบหลายต่อหลายครั้ง
ขณะเดียวกัน สำนักนายกรัฐมนตรีมาเลเซียแถลงว่า ได้ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นสอบสวนข้อกล่าวเรื่องมีการยักยอกเงินจำนวนมหาศาลจากกองทุนพัฒนามาเลเซีย (1MDB) ในสมัยอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ รัฐบาลหวังว่าการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจที่ประกอบด้วยตัวแทนจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายหลายแห่ง จะช่วยกอบกู้ศักดิ์ศรีของมาเลเซียที่มัวหมองเพราะโจราธิปไตยใน 1MDB หัวหน้าคณะทำงานคือ นายอับดุล กานี ปาตาอิล อดีตอัยการสูงสุดที่ถูกปลดจากตำแหน่งในปี 2558 ขณะสอบสวนเรื่องนี้ และจะนำสมาชิกจากคณะทำงานเฉพาะกิจชุดเดิมที่นาจิบตั้งขึ้นและยุบไปเพราะมีข่าวลือว่าเขาจะถูกตั้งข้อหา กลับมาร่วมทำงานด้วย
ภารกิจของคณะทำงานเฉพาะกิจคือ ตามยึดทรัพย์สินและดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับกองทุนนี้ควบคู่ไปกับการประสานงานกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในต่างประเทศที่สอบสวนเรื่องนี้เช่นกัน ได้แก่ สหรัฐ สวิตเซอร์แลนด์สิงคโปร์ และแคนาดา เชื่อว่าเงินจำนวนมากที่ยักยอกจาก 1MDB ถูกผ่องถ่ายผ่านการทำธุรกรรมซับซ้อนในระดับโลก นายนาจิบตั้งกองทุนนี้ขึ้นในปี 2552 เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (เอฟบีไอ) ซึ่งสืบสวนเรื่องนี้คู่ขนานไปด้วยเผยว่า มีการยักยอกเงินไปแล้ว 5,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 172,800 ล้านบาท) ในจำนวนนี้ 681ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 21,790 ล้านบาท)อยู่ในบัญชีเงินฝากของนายนาจิบ แต่เขาและกองทุนยืนกรานว่าไม่ได้กระทำผิดใดๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี