วอชิงตัน/โซล (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐประกาศด้วยความยินดีว่า การที่เขาทำความตกลงกับนายคิม จอง อึนผู้นำเกาหลีเหนือสามารถยุติภัยคุกคามทางนิวเคลียร์ได้ ขณะเดียวกันรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวคาดหวังว่าจะได้เห็นการปลดอาวุธครั้งใหญ่ของเกาหลีเหนือภายในปี 2563
ประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตข้อความว่า จะไม่มีภัยคุกคามนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนืออีกต่อไปแล้ว และบอกว่าทุกคนจะรู้สึกได้ว่าตอนนี้มีความมั่นคงปลอดภัยขึ้นจากวันที่เขาเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐ และจะได้นอนหลับฝันดี แม้ว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดในข้อตกลงหรือแถลงการณ์ร่วมของผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือ นักวิเคราะห์บอกว่าการพบกันระหว่างนายคิมกับนายทรัมป์เป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์มากกว่าการเน้นเนื้อหาสาระสำคัญ
ทางด้านนายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐแถลงกับผู้สื่อข่าวที่กรุงโซลของเกาหลีใต้ว่า สหรัฐคาดหวังว่าจะได้เห็นการปลดอาวุธครั้งใหญ่ของเกาหลีเหนือภายในสิ้นปี 2563 หรือก่อนที่การดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐจะสิ้นสุดลง อย่างไรก็ดี ยังมีงานอีกมากที่จะต้องจัดการ เพื่อให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างที่ตรวจสอบได้และไม่หวนกลับไปอีก
ขณะเดียวกัน นายคริสโตเฟอร์ ฮิลล์ อดีตหัวหน้าผู้แทนเจรจากับเกาหลีเหนือ ในสมัยอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ได้วิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงที่ทรัมป์ลงนามร่วมกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือว่า ควรจะถูกลืมไปเป็นดีที่สุด และเขายังเชื่อว่าประเด็นบางประเด็นที่ถูกระบุในแถลงการณ์ร่วมระหว่างทรัมป์กับคิมถูกเขียนขึ้นโดยคนเกาหลีเหนือมากกว่าชาวอเมริกัน ฮิลล์ยังบอกด้วยว่า เพียงแค่ได้นั่งหารือกับคิมตัวต่อตัวเพียง 45 นาที ทรัมป์ก็รีบด่วนตัดสินว่านายคิมเป็นคนที่สหรัฐไว้ใจได้
ในอีกด้านหนึ่ง สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานระบุว่า หลังจากสื่อทั่วโลกพากันรายงานข่าวนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือเที่ยวชมบรรยากาศยามค่ำคืนของสิงคโปร์ที่โรงแรมมารีนาเบย์แซนด์และการ์เด้น บายเดอะเบย์ สวนพฤกษศาสตร์ที่อยู่ใกล้กัน ตามด้วยข่าวการเปิดฉากประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างคิมกับประธานาธิบดีทรัมป์ ปรากฏว่าในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงหลังจากนั้น ผู้ใช้กูเกิ้ลในสหรัฐสืบค้นคำที่เกี่ยวกับสิงคโปร์ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านครั้ง เช่น Where is Singapore, Singapore summit และ time in Singapore
ชาวสิงคโปร์บางคนวิจารณ์รัฐบาลที่ใช้งบบประมาณ 20 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 480 ล้านบาท) เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม แต่นักการตลาดมองว่า เป็นการลงทุนที่แสนจะคุ้มค่า เพราะการประชาสัมพันธ์ประเทศให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกขนาดนี้ จะต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 200 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (กว่า 4,800 ล้านบาท) ชาวเอเชียจำนวนมากมองว่า การเลือกสิงคโปร์เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของทั้งภูมิภาคว่า เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ส่วนชาวอเมริกันอีกมากที่ไม่คุ้นเคยกับเอเชียก็จะรู้จักสิงคโปร์ ประเทศเกาะเล็กๆ ในคราวนี้ เพราะแม้แต่ประกาศของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐยังระบุว่า สิงคโปร์เป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซีย จนถูกโลกออนไลน์ล้อเลียนความผิดพลาด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี