โตเกียว (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเร่งระดมค้นหาผู้รอดชีวิตท่ามกลางความหวังอันเลือนราง ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งทะลุเกิน 140 คนแล้ว หลังจากเกิดน้ำท่วมและดินถล่มครั้งใหญ่นับเป็นภัยพิบัติครั้งรุนแรงในรอบหลายสิบปี
นายโยชิฮิเดะ ซูกะ โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่งขึ้นเป็นอย่างน้อย 141 คน และยังมีผู้สูญหายอีก 10 คน ขณะที่บรรดาสื่อมวลชนระบุว่า ยังมีผู้สูญหายอีกจำนวนมากและคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก โฆษกรัฐบาลระบุว่าอุณหภูมิในบางพื้นที่อาจพุ่งสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส พร้อมเตือนให้ระวังโรคลมแดด หรือฮีทสโตรก หากอยู่ภายนอกอาคาร และเฝ้าระวังแผ่นดินถล่ม อย่างไรก็ตาม คาดว่า นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ จะเดินทางเยือนพื้นที่ประสบภัยในเร็วๆ นี้ ด้านนายทาโร อาโสะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นระบุ ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะนำเงิน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 660 ล้านบาท) จากกองทุนสำรองของปีงบประมาณ 2561 มาใช้ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมและฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน ที่เสียหายจากน้ำท่วมในภาคตะวันตกของญี่ปุ่น และหากเงินกองทุนสำรองดังกล่าวยังไม่เพียงพอ รัฐบาลจะพิจารณาตั้งงบประมาณพิเศษเพิ่มเติม
รายงานระบุว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเริ่มหยุดตกและระดับน้ำเริ่มลด เมืองคุราชิกิเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ มีประชาชนบางส่วนต้องอพยพขึ้นไปบนหลังคา ขณะรอความช่วยเหลือ ล่าสุดในเช้าวานนี้ หน่วยกู้ภัยตำรวจและทหาร รวม 75,000 คน ระดมกำลังออกค้นหาผู้รอดชีวิตตามบ้านเรือนทุกหลัง เพื่อดูว่ายังมีประชาชนติดค้างอยู่ภายในหรือไม่ โดยที่ความหวังจะพบผู้รอดชีวิต เกือบจะหมดลงแล้ว ทั้งนี้ เกิดฝนตกหนักสุดเป็นประวัติการณ์ในหลายพื้นที่ทั่วญี่ปุ่น และตกหนักอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักสุดในรอบ 35 ปี และเกิดดินถล่มหลายแห่ง โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ เกิดจากการที่บ้านถูกดินถล่มทับ ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนมากถึง 5 ล้านคน และผู้อพยพหลายพันคนยังอยู่ในศูนย์พักพิง
ในอีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่แคนาดากล่าวว่า สภาวะคลื่นความร้อนปกคลุมในรัฐควิเบกทางตะวันออกของแคนาดา ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 70 คนแล้ว สำนักงานสาธารณสุขท้องถิ่นแคนาดารายงานว่า มีรายงานผู้เสียชีวิต 34 คน ในนครมอนทรีออล จากเดิมที่มียอดผู้เสียชีวิตรวม 54 คน คลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมทางภาคตะวันออกของแคนาดามาตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม แต่ที่รัฐควิเบกมีรายงานยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นตามอุณหภูมิที่ทะยานขึ้น เมื่อปี 2553 ประชาชนราว 100 คน เสียชีวิตในนครมอนทรีออล จากสภาพอากาศร้อนอบอ้าวรุนแรง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี