อพยพล้านคน
หนีไต้ฝุ่น‘เชบี’ถล่มญี่ปุ่น
ใหญ่สุดในรอบ25ปี
เท่าเฮอริเคนระดับ4
สั่งระงับ600เที่ยวบิน
‘ไทย’ฝนยังตกหนัก
ญี่ปุ่นสั่งอพยพปชช.มากกว่า 1 ล้านคน หนี ไต้ฝุ่น “เชบี” ใหญ่สุดรอบ 25 ปี จ่อถล่ม “โอซากา” ระงับเที่ยวบิน 600 เที่ยว นายกฯ “ชินโสะ อาเบะ” งดลงพื้นที่ พร้อมนั่งบัญชาการ ขณะสถานทูตไทยเตือนคนไทยในญี่ปุ่นรับมือ ไต้ฝุ่น “เชบี”นายกฯ“สั่งปรับระบายน้ำให้เหมาะสม รับฝนแล้ง หลังพ้นมรสุม สนทช.เตือน17จว.ฝนตกหนักรับมือน้ำท่วม ดินถล่ม หลายจว.เจอฝนกระหน่ำจมบาดาล
เมื่อวันที่ 4 กันยายน สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นว่าสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของญี่ปุ่น(เจเอ็มเอ) ออกแถลงการณ์ว่า ไต้ฝุ่น”เชบี”ซึ่งเป็นภาษาเกาหลี หมายความว่า “นกนางแอ่น”ขึ้นฝั่งที่จังหวัดโทคุชิมะ บนเกาะชิโกกุ ทางตะวันตกของประเทศเมื่อช่วงเช้าของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นโดยพายุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 216 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เทียบเท่าเฮอริเคน ระดับ 4 ตามมาตรวัด พายุซัฟเฟอร์-ซิมป์สันและถือเป็นพายุหมุนซึ่งมีความเร็วลมรุนแรงที่สุดในรอบ 25ปีที่ขึ้นฝั่งญี่ปุ่น
อพยพ1ล้านหนีไต้ฝุ่นเชบิถล่ม
โดยเจเอ็มเอ พยากรณ์ปริมาณน้ำในสะสมในช่วง1ชั่วโมงแรกที่พายุเคลื่อนตัวผ่านไว้ที่ 87 มิลลิเมตร แต่ปริมาณน้ำฝนสะสมภายในรอบระยะเวลา 24 ชั่วโมงต่อจากนั้น อาจสูงถึง500มิลลิเมตร โดยการที่ทิศทางการเคลื่อนที่ของไต้ฝุ่นเชบีค่อนข้างมุ่งทิศตะวันตก หมายความว่าเมืองโอซาก้าซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2ของประเทศอยู่ในรัศมีอิทธิพลของพายุลูกนี้ซึ่งมีทิศทางเคลื่อนที่แบบเดียวกับไต้ฝุ่น”ซิมารอน”ที่ขึ้นฝั่งบริเวณภาคตะวันตกของประเทศเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ขณะเดียวกัน เจเอ็มเอ ได้ประกาศขอความร่วมมือการอพยพประชาชนอาศัยอยู่มากกว่า 1ล้านคน ครอบคลุมหลายจังหวัด ในภาคตะวันตกของเกาะฮอนชู
ระงับเที่ยวบินมากกว่า600เที่ยว
ขณะที่สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค รายงานว่าเที่ยวบินภายในประเทศมากกว่า600เที่ยวบิน ระงับให้บริการเช่นเดียวกับ ขบวนรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น ระงับให้บริการเส้นทางระหว่างเมืองโอซาก้ากับเมืองฮิโรชิมา ส่วน นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ ยกเลิกกำหนดลงพื้นที่ภูมิภาคคิวชูช่วงกลางสัปดาห์นี้เพื่อจับตาสถานการณ์ไต้ฝุ่นเชบี และเตรียมความพร้อมบัญชาการการช่วยเหลือเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น
สถานทูตไทยเตือนคนไทยในญี่ปุ่น
มีรายงานข่าวว่าเพจสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นได้โพสต์ภาพพายุไต้ฝุ่น หมายเลข 21หรือ“เชบี”พร้อมข้อความเตือนประชาชนไทยในประเทศญี่ปุ่นให้ใช้ความระมัดระวังและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด มีเนื้อหาระบุว่า“ประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาประเทศญี่ปุ่น ได้แจ้งเตือนภัยพายุไต้ฝุ่นหมายเลข 21 หรือ JEBI ที่มีการคาดการณ์ว่าอาจเป็นไต้ฝุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่ขึ้นฝั่งญี่ปุ่นในรอบ 25 ปี และถูกจัดอยู่ในระดับรุนแรงมาก พายุไต้ฝุ่นกำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้เขตคินคิภูมิภาคคันไซ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดฝนตกรุนแรงในพื้นที่ดังกล่าวรวมถึงเขตคันโต(บริเวณรอบกรุงโตเกียว)ตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันพรุ่งนี้ (4 กันยายน 2561) และมีแนวโน้มจะเคลื่อนที่ไปทางทิศเหนือต่อไป จึงขอประกาศเตือนภัยให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ ระวังฝนตกหนัก คลื่นสูง รวมถึงลมกรรโชกแรงในช่วงเวลาดังกล่าว ถ้าไม่มีเหตุเร่งด่วนไม่ควรออกมานอกบ้าน สำหรับผู้ที่วางแผนจะเดินทางในช่วงนี้ ควรเช็กสถานะเที่ยวบิน และรถไฟ ซึ่งล่าช้าหรืออาจประกาศยกเลิก รวมถึงเผื่อเวลาการเดินทางด้วย”
ทั้งนี้ การประกาศเตือนมีขึ้น หลังบริษัทการบิน ประกาศยกเลิกเที่ยวบินที่จะเดินทางไปยังญี่ปุ่นในวันที่ 4 ก.ย. จำนวน 4 เที่ยวบิน
“นายกฯ”สั่งปรับระบายน้ำรับฝนแล้ง
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ถึงสถานการณ์น้ำขณะนี้ว่าวันนี้ถ้าติดตามจากกรมอุตุนิยมวิทยาข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)และข้อมูลสถานการณ์ฝนในบริเวณพื้นที่อาเซียนเรา ให้สำนักงานบริหารจัดการน้ำ ได้เอาการประเมินสภาพ ลม ฟ้าอากาศในภูมิภาคมาด้วยเพื่อให้เกิดการประสานสอดคล้องว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต
“วันนี้เท่าที่ได้รับการสรุปมาในเดือนกันยายนคาดว่าฝนจะลดลงบ้างหรืออาจลดลงมากก็ขึ้นอยู่กับมรสุมผมจึงสั่งสำนักงานบริหารจัดการน้ำทบทวน เรื่องการระบายน้ำ การพร่องน้ำ เพื่อไม่ให้ฤดูแล้งหน้า เกิดปัญหาขึ้นอีก จากการดูข้อมูลต่างประเทศด้วย ปีนี้จะมีฝนทิ้งช่วงและอาจเกิดภาวะภัยแล้งขึ้นในหลายพื้นที่ในภูมิภาคเอเชียซึ่งประเทศไทยก็ต้องระมัดระวังทั้งน้ำท่วมและฝนแล้ง นั่นเป็นสิ่งที่เราพยายามบริหารจัดการให้ได้เต็มที่”นายกรัฐมนตรี ย้ำ
สทนช.แจ้งบริหารน้ำรองรับฤดูแล้ง
ด้านนายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ เปิดเผยว่าเขื่อนขนาดใหญ่และกลางที่มีปริมาณน้ำเกิน 80 % ได้เร่งพร่องน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ปกติให้ทุกหน่วยงานบริหารน้ำอย่างสมดุลกับปริมาณน้ำเข้าและกันน้ำต้นทุนไว้ใช้ตลอดช่วงฤดูแล้งด้วย ขณะนี้ เริ่มมีแนวโน้มน้ำลดลง โดยเป็นเขื่อนใหญ่ 2 แห่ง ที่มีน้ำเกินร้อยละ100เช่น เขื่อนน้ำอูน ร้อยละ107เขื่อนแก่งกระจานร้อยละ 106 และขนาดกลาง 16 แห่ง โดยยังเฝ้าระวังความจุ ร้อยละ 80-100 เป็นขนาดใหญ่ 4 แห่ง ได้แก่ เขื่อนวชิราลงกรณ 94% เขื่อนศรีนครินทร์ 91% เขื่อนรัชชประภา 86% เขื่อนขุนด่านปราการชล 88% ซึ่งรวมขนาดใหญ่-กลาง ทั้งหมด87 แห่ง
เตือนฝนหนัก17จว.รับมือน้ำท่วม
ในส่วนสถานการณ์ฝน มีปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคเหนือ ได้แก่ จ.น่าน 212.5 มม. อุตรดิตถ์ 108 มม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จ.นครพนม 113 มม. อุดรธานี 104 มม. และภาคตะวันออก ได้แก่ จ.ตราด 121 มม.ภาคกลาง จ.ลพบุรี 146.2 มม. ปทุมธานี 100.2 มม. ภาคใต้ จ.พังงา 109.4 มม. โดยยังมีพื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนัก 17 จังหวัด ใน ภาคเหนือ จ. เชียงราย พะเยา น่าน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร มุกดาหาร อำนาจเจริญ ภาคตะวันออก จ.ระยอง จันทบุรีและจ.ตราด
ผู้ว่าฯ น่านสั่งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง
นายไพศาล วิมลรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่านได้กำชับทุกหน่วยเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง หลังฝนตกหนัก ลำน้ำสาขาและแม่น้ำน่านอาจขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ขณะที่นายชัยณรงค์ นันตาสาย นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน พ.อ.รัตนะ พัฒนโสภณ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพราน32พร้อมชุดปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัยกองร้อยทหารพรานที่ 3207 ประสาน นายบุญยืน สุยะ ผู้ใหญ่บ้านปางหก หมู่5 ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ ลงพื้นที่สำรวจดินโคลนถล่มหมู่บ้านปางหก หลังฝนตกต่อเนื่อง ดินโคลนไหลลงมาทับโรงเลี้ยงไก่ชาวบ้านเสียหายทั้งหลัง สายไฟฟ้าขาด ไฟฟ้าในหมู่บ้านดับ เป็นวงกว้าง
กรุงเก่าตั้งเครื่องสูบน้ำป้องเขตศก.
ด้านนายโบว์แดง ทาแก้ว ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา กล่าวถึงการเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำจากฝนตกหนักในช่วง2เดือนนี้ว่าได้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่หรือท่อพญานาค ขนาดท่อ12นิ้ว จำนวน 4เครื่องมีประสิทธิภาพสูงในการสูบน้ำ ติดตั้งบริเวณประตูน้ำคลองหันตราเพื่อพร่องน้ำจากลำคลองหันตรา คลองข้าวเม่า และคลองกระมัง ลงสู่แม่น้ำป่าสักเพื่อรักษาระดับน้ำในคลองทั้ง 3 แห่งให้อยู่ต่ำกว่าตลิ่งและอยู่ในระดับที่ปลอดภัย เพราะทั้ง3คลอง อยู่ในเขตพื้นที่ชลประทานและอยู่ในเขตอำเภอพระนครศรีอยุธยา อ.อุทัย อ.บางปะอิน และ อ.วังน้อย เป็นที่ตั้งชุมชนเมืองขนาดใหญ่ ตลาดย่านเศรษฐกิจ นิคมอุตสาหกรรม ศูนย์ราชการและถนนสายสำคัญ เมื่อคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนักในพื้นที่ ช่วงเดือนกันยายนและตุลาคมนี้ การพร่องน้ำ การควบคุมระดับน้ำในพื้นที่ด้านในจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งโดยเครื่องสูบน้ำทั้งหมดนี้เตรียมพร้อมตลอด24ชั่วโมงเพื่อทำหน้าที่สูบน้ำทันทีหากฝนตกหนักหรือน้ำด้านในมีจำนวนมาก”นายโบว์แดง ย้ำ
ลพบุรีฝนถล่ม-น้ำป่าจม5ตำบล
ที่ จ.ลพบุรี หลังเกิดฝนตกอย่างหนักต่อเนื่องนานกว่า 5โมง ส่งผลให้เกิดเกิดน้ำป่าสีแดงเข้มไหลเฉี่ยวกาดจากเทือกเขาสูง ไหลทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ ต.โคกตูม ต.ท่าศาลา ต.กกโกและ ต.นิคมสร้างตนเอง ในเขต อ.เมืองลพบุรี วัดปริมาณน้ำฝน ได้กว่า141.61มิลิเมตร ท่วมผิวการจราจรบนถนนหลายสาย รวมถึงบ้านเรือนประชาชน พื้นที่เศรษฐกิจ มวลน้ำจำนวนมากได้ไหลหลากมารวมกันบริเวณสี่แยกนิคม ถนนสายลพบุรี-วังม่วงและถนนสายโคกตูม ตัดกับถนนพหลโยธิน ส่งผลตอนเช้าการจราจรติดขัดเป็นทางยาวมีรถยนต์จอดเสียหลายคันระดับน้ำท่วมสูงกว่า 50เซนติเมตร เบื้องต้น นายแปลก เทพารักษ์ นายอำเภอเมืองลพบุรีนำเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ลงเข้าช่วยเหลือและต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดเพราะยังมีฝนตกอีก
ปราจีนฯน้ำท่วมตลาดเทศบาล
ขณะที่ จ.ปราจีนบุรี หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัด ตั้งแต่ช่วงเย็นถึงค่ำเมื่อวันที่ 3ก.ย.ประกอบกับน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นตลิ่งทำให้น้ำในท่อระบายน้ำในเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรีไม่สามรถระบายน้ำออกไปได้ ส่งผลให้น้ำไหลเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมือง แม้ทางเทศบาลฯจะมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำจากท่อระบายน้ำส่งสู่แม่น้ำปราจีนบุรี แต่ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน ทำให้ พื้นที่ด้านในย่านธุรกิจ น้ำได้เอ่อล้นจนไหลเข้าถนนในเขตเทศบาลหลายสาย และน้ำได้ไหลเข้าท่วมร้านค้า สูง 30 เซนติเมตร เจ้าของร้านต้องเร่งก่ออิฐพร้อมวางแนวกระสอบทราย พร้อมตั้งเครื่องสูบน้ำออกจากร้าน
ท่าตะโกน้ำล้นคลองท่วมวงกว้าง
จ.นครสวรรค์ หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัด ติดต่อกันหลายวัน ส่งผลทำให้ประชาชนในพื้นที่ อ.ท่าตะโก ที่พักอาศัย อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องรีบเก็บของขึ้นที่สูงเพื่อป้องกันความเสียหาย ประชาชนยังไม่ไว้วางใจในสถานการณ์น้ำ หลังระดับน้ำตามลำน้ำต่างๆ ที่ไหลผ่าน อ.ท่าตะโก ยังมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นพบหลายจุดมีน้ำเอ่อล้นออกจากคลองสาธารณะไหลบ่าเข้าท่วมทุ่งนาของชาวบ้านหลายแห่งและขยายวงกว้างออกไป
ราชบุรีสั่ง5อ.รับมือ2เขื่อนพร่องน้ำ
จ.ราชบุรี นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าฯราชบุรีได้ออกหนังสือด่วนที่สุดถึงส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและอำเภอที่อยู่ติดกับแม่น้ำแม่กลอง หลัง กฟผ.ออกประกาศฉบับที่ 2แจ้งเรื่องการปรับเพิ่มการระบายน้ำ 2 เขื่อนโดยเขื่อนวชิราลงกรณ จะระบายน้ำผ่านสปิลเวย์อีกเพิ่มวันละ5 ล้าน ลบ.ม.เป็นวันละ58ล้าน ลบ.ม. ช่วงวันที่ 4-10 ก.ย.และเขื่อนศรีนครินทร์ จะระบายน้ำเพิ่มวันละ6ล้านลบ.ม.เป็นวันละ28 ล้าน ลบ.ม.ช่วงวันที่ 7-13 ก.ย. อาจส่งผลให้พื้นที่รับน้ำท้ายเขื่อนตามแนวริมลำน้ำได้รับผลกระทบได้แก่อ.บ้านโป่ง อ.โพธาราม อ.เมืองราชบุรี อ.ดำเนินสะดวก และ อ.วัดเพลง ให้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย ดินโคลนถล่มและเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยง พร้อมสั่งการให้ติดตามสถานการณ์ ติดตามระดับน้ำอย่างใกล้ชิด หลังเขื่อนระบายแล้ว 3-4วันมวลน้ำจะไหลผ่านเข้าเขตราชบุรี
บ้านแหลม จ.เพชรบุรีอ่วมน้ำเน่า
ในส่วนของ จ.เพชรบุรี เจ้าหน้าที่ยังคงระบายน้ำออกจากเขื่อนแก่งกระจานล่าสุดเขื่อนมีปริมาณน้ำ753.22 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)ร้อยละ106.09 มี ระบายออก 170 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือวันละ 14.69 ล้านลบ.ม.ไหลหลากเข้าท่วม ต.บางครก และ ต.ท่าแร้ง ในพื้นที่ อ.บ้านแหลมโดยเฉพาะบ้านหัวกระทุ่ม ต.ท่าแร้ง น้ำท่วมถนนบ้านท่าแร้ง-บางขุนไทร บ้านเรือนชาวบ้าน พื้นที่การเกษตรบางแห่งน้ำสูงกว่า 50 เซนติเมตรและน้ำท่วมขังนานเริ่มเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็น พืชผลการเกษตรยืนต้นตายเป็นบริเวณกว้าง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี