นักวิชาการด้านโภชนาการเตือน คุณแม่ช่วงให้นมบุตรพบอาการ อ่อนเพลีย เหน็บชา เป็นตะคริว เบื่ออาหาร กล้ามเนื้ออ่อนแรง หัวใจเต้นเร็ว หรือเป็นแผลหายช้า แสดงว่ากำลังขาดสารอาหารที่จำเป็น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ประสิทธิภาพในการเลี้ยงดูลูกน้อย รวมถึงคุณภาพชีวิตในระยาว ต้องรีบปรับการบริโภคอาหารโดยด่วน
รศ.ดร.ประไพศรี ศิริจักรวาล
รศ.ดร.ประไพศรี ศิริจักรวาล นักวิชาการด้านโภชนาการระดับประเทศ กล่าวว่า“แม่รุ่นใหม่ทราบดีว่านมแม่คืออาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูก ทำให้อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยิ่งสูงขึ้นและนานขึ้น แต่แม่ชาวไทยกลับไม่ทราบว่ากำลังเสี่ยงต่อการได้รับสารอาหารบางชนิดในระยะให้นมบุตรเพียงประมาณ 30% ของความต้องการของร่างกาย เท่านั้น เพราะระยะให้นมบุตรร่างกายต้องการสารอาหารบางอย่างในปริมาณที่มากกว่าช่วงก่อนหรือระหว่างตั้งครรภ์เสียอีกเนื่องจากต้องใช้สารอาหารทั้งสำหรับตัวเอง และผลิตน้ำนมให้ลูก
“ผลสำรวจการบริโภคอาหารของหญิงให้นมบุตรโดยกระทรวงสาธารณสุขพบว่าช่วงเวลาดังกล่าวแม่มีความเสี่ยงขาดสารอาหารเช่น แคลเซียม วิตามินเอ และวิตามินซีถึงเกือบร้อยละ 70ของปริมาณที่ควรได้รับ อีกทั้งควรได้รับสารอาหารได้แก่ เหล็ก วิตามินบี 1 และ วิตามิน บี 2 เพิ่มอีกเท่าตัวด้วย ไม่เช่นนั้นจะบั่นทอนสุขภาพแม่ และกระทบต่อศักยภาพในการเลี้ยงดูลูกการขาดสารอาหารนั้นบอกไม่ได้จากรูปร่าง แม่จำนวนมากขาดสารอาหารทั้งๆที่มีรูปร่างสมส่วนและรับประทานอิ่มทุกมื้อ เพราะอาจได้พลังงานเพียงพอแต่ได้รับสารอาหารบางอย่างน้อยเกินไปสัญญาณเตือนที่จะรู้สึกได้ คือรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า เป็นตะคริว เจ็บลิ้น ผิวหนังแห้งเป็นสะเก็ด ปรับการมองเห็นในที่มืดได้ช้าเป็นเหน็บชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง หัวใจเต้นเร็ว ปากนกกระจอก เลือดออกตามไรฟัน แผลหายช้า เบื่ออาหาร และอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่มองไม่เห็น เช่น โลหิตจาง และกระดูกพรุนในอนาคต”
รศ.ดร.ประไพศรี แนะว่าแม่ให้นมบุตรควรได้รับวิตามินเอมากกว่าปกติ 60% ด้วยการรับประทานไข่วันละ 1 ฟอง ตับสัปดาห์ละ 1-2 ช้อนกินข้าวและมะละกอสุก 200 กรัมต่อวัน และผักใบเขียวและแคลเซียม ควรได้รับอย่างน้อย 800 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งปกติจะได้รับอยู่เพียงประมาณ 30% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวันเท่านั้น จึงควรเสริมด้วยการดื่มนมจืดทั่วๆไปวันละ 2 แก้วหรืออาจพิจารณานมสูตรเฉพาะหรือแคลเซียมเม็ด จึงจะได้รับสารอาหารเพียงพอต่อความต้องการของทั้งแม่และลูก
นอกจากนี้ แม่ในระยะตั้งครรภ์นั้น ก็ยังคงพบปัญหาแม่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอได้เช่นกันถึง แม้ว่าแม่ตั้งครรภ์ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับโภชนาการดีกว่าระยะให้นมบุตร แต่จากผลการสำรวจโดยกระทรวงสาธารณสุขก็ยังพบว่ามีความเสี่ยงได้รับสารอาหารบางชนิดไม่เพียงพอ เช่นแคลเซียม ธาตุเหล็ก และวิตามินเอ ซึ่งควรได้รับเพิ่มอีกอย่างน้อยประมาณเท่าตัว
ดังนั้นคุณแม่วันนี้ควรใส่ใจกับสุขภาพของตนเองให้มากขึ้น เพราะบทบาทของแม่นั้นมีความสำคัญยิ่งใหญ่ต้องมีโภชนาการที่ดีเป็นรากฐานเพื่อสนับสนุนให้แม่ได้ดูแลอีก 1 ชีวิตอย่างเต็มศักยภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี