เจสซี่ ดอร์ซี่,วรรณศิริ คงมั่น,มิลิน ยุวจรัสกุล,ปิยวรา ทีขะระ เนตรน้อย ,ศิริชัย ทหรานนท์,กุลวิทย์ เลาสุขศรี, เอก ทองประเสริฐ และอารยา อินทรา
เปิดบริการให้ประชาชนไทยและนักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความงดงาม ตระการตาของฉลองพระองค์ชุดผ้าไหมไทยและชุดไทยแบบต่างๆ ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รวมถึงให้ความรู้ ประวัติความเป็นมาของผ้าไทยมาจนครบ ๒ ปีเต็มแล้ว สำหรับพิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โอกาสนี้จึงเชิญเหล่าไทยดีไซเนอร์แบรนด์ดังอย่าง เธียเตอร์, มิลิน เอก ทองประเสริฐ, เพนคิลเลอร์, บอยแบ็ค มาร่วมออกแบบผลิตภัณฑ์จากผ้าไทย พร้อมเสวนาเรื่อง “ผลลัพธ์ผ้าไทยในศิลปาชีพและการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผ้าไทย” โดยมีสองกูรูแฟชั่น กุลวิทย์ เลาสุขศรีและ อารยา อินทรา กูรูแฟชั่นสไตลิสต์ เป็นผู้ดำเนินการเสวนา พร้อมมินิแฟชั่นโชว์ โดยวรัทยา นิลคูหา, มทิรา ตันติประสุต และแม็ทธิว ดีน ฉันทวานิช เมื่อเร็วๆ นี้
ศิริชัย ทหรานนท์ ดีไซเนอร์และเจ้าของห้องเสื้อแบรนด์เธียเตอร์ เผยถึงแนวคิดในการออกแบบผ้าไทย หลังจากได้เลือกผ้าไหมมัดหมี่สีเขียวก้านมะลิ ในการรังสรรค์ชุด “Evening dress”ว่า “เมื่อนึกถึงผ้าไทยเราอยากจะทำอะไรที่งามสง่า ใส่แล้วต้องดูโก้ ชุดที่ออกแบบครั้งนี้ จึงใช้การวางผ้าที่หน้าผ้าของผ้าไทยได้ แล้วเพิ่มโวลุ่มให้ชุดด้วยการจับเฉลียง จากนั้นนำมาตกแต่งด้วยการปักทำให้ผ้าดูมีมิติมากขึ้น โดยเราต้องการสื่อสารความเป็นไทย จึงนำสิ่งที่คุ้นเคยที่ได้รับจากครอบครัวอย่างการทำดอกไม้ไทยในงานพิธีมงคลต่างๆ มาประยุกต์ ทั้งการจับเลื่อมให้เหมือนการพับใบบายศรี การตกแต่งด้วยลูกปัด ทำฟอร์มวงกลมเป็นไซส์เล็ก ไซส์ใหญ่แล้วจัดรูปทรงให้เห็นว่ามันมีความนูนเป็นสามมิติ”
ทางด้านดีไซเนอร์สาว มิลิน ยุวจรัสกุล ดีไซเนอร์และเจ้าของห้องเสื้อแบรนด์มิลิน เผยว่าผ้าไหมไทยค่อนข้างเป็นสิ่งที่ไกลตัว เพราะรู้สึกว่าเป็นผ้าที่ทรงคุณค่าจนไม่กล้านำมาใช้กับเสื้อผ้าในชีวิตประจำวัน แต่เมื่อมีโอกาสได้ลองสัมผัสและร่วมออกแบบเป็นครั้งแรก เธอรู้สึกตกหลุมรักผ้าไทยและเกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานดีไซน์ขึ้นมาทันที และเธอกล่าวถึงความท้าทายในการออกแบบผ้าไทยว่า
“หลังจากได้ลองออกแบบทำให้รู้สึกประหลาดใจกับตัวเองมากกว่า ผ้าไหมไม่ได้ออกแบบยากอย่างที่คิด และสามารถทำเสื้อผ้าสไตล์ในแบบที่เป็นเราได้ ผ้าไหมสำหรับเรามีคุณค่ามาก เป็นวัตถุดิบที่ไม่สามารถทำผิดแล้วกลับมาทำใหม่ กว่าจะทำแพทเทิร์นแต่ละแพทเทิร์นขึ้นมาต้องนำผ้าที่มีความใกล้เคียงมาลองขึ้น แพทเทิร์นทำชุดจนกว่าจะสวย จนเราและทีมงานพอใจถึงจะทำเป็นผ้าไหมจริงได้ ระหว่างทำเราก็ได้เรียนรู้เรื่องความหดของเนื้อผ้า หน้าผ้า การติดผ้ากาว พอได้เริ่มทำชุดนี้แล้วจากที่ไม่เคยคิดจะใช้ผ้าไหมในการออกงาน หรือทำงานหรือการทำคอลเล็คชั่นต่างๆ ก็เปลี่ยนไป ตอนนี้อยากหาซื้อผ้าไหมมาเป็นของตัวเองไว้ออกแบบชุดสำหรับใส่เวลาออกงานบ้าง ทำแล้วติดใจ ความที่เป็นผ้าทอสามารถทำทรง ซิลลูเอททรงตามที่เราต้องการได้ เพราะผ้ามีความแข็งและความอ่อนในตัว ประทับใจผ้าไหมไทยมาก”
นอกจากนี้ ในงานยังจัดเสวนาเรื่อง “ผลลัพธ์ผ้าไทยในศิลปาชีพและการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผ้าไทย” เพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่าผ้าไทยสามารถนำไปใช้ในงานแฟชั่นได้หลากหลายแขนง ไม่ใช่แค่เสื้อผ้าเท่านั้น แต่ยังสามารถนำผ้าไทยมาใช้ในงานออกแบบกระเป๋า และเครื่องประดับได้อีกด้วย
วรรณศิริ คงมั่น และ เจสซี่ ดอร์ซีย์ สองดีไซเนอร์ เจ้าของแบรนด์กระเป๋าชื่อดัง Boyy กล่าวถึงการนำผ้าไทยมาออกแบบเป็นกระเป๋าในสไตล์ของบอยแบ็คว่า อยากสื่อสารให้คนเข้าใจว่าผ้าไทยสามารถออกแบบเป็นกระเป๋าที่เห็นอยู่ในชีวิตประจำวัน กระเป๋าที่ผู้หญิงใช้อยู่ในแบบต่างๆ ไม่ได้ทำจากหนังได้แค่อย่างเดียว แต่เราสามารถนำผ้าไทยมาประยุกต์ได้
“ครั้งนี้เราออกแบบกระเป๋าทั้งหมด ๒ แบบ แบบแรกคือกระเป๋า Slash เป็นไอโคนิคของแบรนด์ ที่นอกจากจะเป็นกระเป๋าแล้วยังเปรียบเหมือนเครื่องประดับชิ้นหนึ่งของผู้หญิง ส่วน Sameul สามารถใช้เป็นกระเป๋าเดินทาง สำหรับถือขึ้นเครื่องบินได้ เพราะใบไม่ใหญ่มากแต่มีความจุ ทั้งสองแบบเราได้นำผ้าไหมเข้ามาเป็นวัตถุดิบหลัก โดยเลือกผ้าไหมสีน้ำเงิน อยากให้คนมองความสวยงามของผ้าไหมที่มีลายในตัว ซึ่งกว่าจะทอได้แต่ละผืนนั้นยากมากอยากให้เขาเห็นความสวยงามนั้นแล้วรู้สึกว่ามันทันสมัย อยากจะให้ทุกคนรู้สึกว่าไม่ใช่แค่คนสูงอายุเท่านั้นที่ใช้ผ้าไหม ”
ด้าน เอก ทองประเสริฐ ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าเครื่องประดับแบรนด์ เอก ทองประเสริฐ ดีไซเนอร์ผู้ได้รับโจทย์ให้นำผ้าไหมไทยมาออกแบบเป็นสร้อยสำหรับงานครั้งนี้ กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ใช้ผ้าไทยเป็นวัตถุดิบในการออกแบบเครื่องประดับ ความที่ผ้าไทยเป็นงานที่มีคุณค่า เป็นเหมือนตัวแทนวัฒนธรรมไทย จึงได้นำผ้าไหมมาประยุกต์เข้ากับงานแฟชั่นแบบสตรีท เพื่อให้คนสามารถเลือกใส่ผ้าไหมไทยในชีวิตประจำวันได้
ผู้สนใจสามารถมาศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับผ้าไทย และประวัติศาสตร์เครื่องแต่งกายของคนไทย ตลอดจนจัดแสดงงานหัตถศิลป์จากผ้าอันทรงคุณค่าของราชสำนักและผ้าพื้นเมืองต่างๆ ได้ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตั้งอยู่ ณ หอรัษฎากรพิพัฒน์ ในพระบรมมหาราชวัง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ๐ ๒๒๒๕ ๙๔๓๐ ต่อ ๐
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี