พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ
ต้นเดือนกรกฏาคมที่จะถึงข้างหน้านี้ กรมศิลปากรได้จัดนิทรรศการพิเศษเรื่อง”พิพิธสมบัติพระราชา” ณ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนคร อาทิตย์นี้ ขอนำเรื่องราวของกษัตริย์องค์ที่สองของสยาม ซึ่งหลายคนไม่ทราบว่าพระองค์คือพระอนุชาธิราช ของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๔มีพระนามว่าเจ้าฟ้า จุฑามณี
เมื่อพระชมมายุ๔๓ พรรษา วันอาทิตย์ที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๓๙๔นั้นได้มีพระราชพิธีบวรราชาภิเษกให้เจ้าฟ้าพระองค์นี้ มีพระเกียรติยศเป็นพระเจ้าแผ่นดินองค์ที่สองเสมอด้วยรัชกาลที่๔ ดังมีพระนามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า”สมเด็จพระปวเรนทราเมศ มหิศเรศ รังสรรค์ มหรรต วรรคโชไชย มโหฬารคุณอดุลยพิเศษ สรรพเทเวศรานุรักษ์ บวรจักรพรรดิราช บวรนาถบพิตร พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว”
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า-กษัตริย์ องค์ที่ 2
พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระนามเดิมว่า เจ้าฟ้าจุฑามณี เป็นที่รู้จักกันในพระนามว่า ทูลกระหม่อมฟ้าน้อย เป็นพระราชโอรส ในสมเด็จแผ่นดินกลางคือ รัชกาลที่๒ประสูติแต่สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี พระองค์พระราชสมภพวันอาทิตย์ เดือน ๑๐ ขึ้น๑๕ค่ำ ปีมะโรง ตรงกับวันที่๔กันยายน พ.ศ.๒๓๕๑ ณ พระราชวังเดิม คลองบางกอกใหญ่ ขณะนั้นเป็นที่ประทับของพระราชบิดา เรียกว่า พระบวรราชวังใหม่ เนื่องจากพระราชบิดา(ร.๒)ดำรงพระอิสริยยศที่กรมพระราชวังบวรสถานมงคล โดยมีคุณหญิงนกเป็นพระพี่เลี้ยง พระองค์มีพระเชษฐาร่วมพระราชมารดา ๓ พระองค์ ได้แก่ สมเด็จเจ้าฟ้าชาย สิ้นพระชนม์เมื่อประสูติ สมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฏ คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) และสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑามณีคือพระองค์เอง
พระเจ้าแผ่นดินองค์ที่ 2
หลังจากพระองค์ประสูติได้ประมาณเดือนเศษนั้นสมเด็จแผ่นดินต้น คือรัชกาลที่ ๑ สวรรคต พระราชบิดาจึงเสด็จขึ้นครองราชย์เป็น สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินกลาง รัชกาลที่๒ ภายหลังจึงถวายพระนามตามพระพุทธรูปยืนว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเช่นเดียวกับ รัชกาลที่ ๑ เจ้าฟ้าจุฑามณีจึงได้เสด็จตามพระราชบิดา(ร.๒)มาประทับในพระบรมมหาราชวังพร้อมกันกับพระราชมารดาและพระเชษฐา(ร.๔)
พระราชสมบัติกษัตริย์องค์ที่สอง
เมื่อพระองค์มีพระชนมายุได้๑๓ พรรษาได้ ผนวชเป็นสามเณร ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อลาผนวชแล้วจึงได้เล่าเรียนในสำนักสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ขุน) วัดโมลีโลกยาราม ร่วมพระอาจารย์เดียวกับสมเด็จพระเชษฐา(ร.๔)ของพระองค์ ต่อมาเมื่อพระองค์มีพระชนมายุ๑๖ พรรษานั้นพระราชบิดา(ร.๒)ทรงประชวรและเสด็จสวรรคต พระเจ้าลูกเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ พระราชโอรสพระองค์ใหญ่เสด็จขึ้นครองราชย์มีพระนามว่า พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ทำให้พระองค์เสด็จกลับไปประทับ ณ พระราชวังเดิม พร้อมกับพระราชมารดา ส่วนสมเด็จพระเชษฐานั้นทรงสมณเพศประทับอยู่ ณ วัดมหาธาตุและวัดสมอราย
พระราชสมบัติกษัตริย์องค์ที่สอง
เมื่อพระองค์มีพระชนมายุ๒๑ พรรษาได้ ผนวชเป็นพระภิกษุ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และเสด็จประทับ ณ วัดระฆังโฆษิตาราม หลังลาผนวชแล้วพระองค์ได้เข้ารับราชการในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว สังกัดทหารปืนใหญ่ กรมทหารแม่นปืนหน้าปืนหลัง และญวนอาสารบแขก อาสาจาม ครั้นเมื่อสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล เสด็จสวรรคต จึงเป็นเหตุให้รัชกาลที่ ๓ แต่งตั้งเจ้านายทรงกรมรวม ๘ พระองค์ โดยมี เจ้าฟ้าจุฑามณี พระชนมายุ ๒๔พรรษา ได้เป็นเจ้าฟ้าต่างกรมมีพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์ เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๓๗๕ พระองค์เป็นพระกำลังสำคัญยิ่งในรัชกาลที่๓ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้นพระองค์ได้มีบทบาทในการเจรจาทำสัญญาพระราชไมตรีกับต่างประเทศ เช่น สนธิสัญญาเบาริง ทำให้มีพระเกียรติยศชื่อเสียง ในความรอบรู้ภาษา หลายภาษา และวิชาวิทยาศาสตร์ชั้นสูงหลายวิชา จนรู้จักดีหมู่ชาติตะวันออกมากจนแพร่สะพัดถึงสหรัฐอเมริกา
ตราประจำพระองค์กษัตริย์องค์ที่สอง
หลังจากพระราชพิธีบวรราชาภิเษกแล้ว๑๐ ปี พระองค์เริ่มทรงพระประชวรบ่อยครั้ง หาสมุฏฐานของพระโรคไม่ได้ เสด็จสวรรคตเมื่อวันอาทิตย์ เดือน๒ แรม๖ ค่ำ เวลาเช้าย่ำรุ่ง ตรงกับ วันที่๗มกราคมพ.ศ.๒๔๐๘ มีพระชนมายุ๕๘ พรรษา ทรงอยู่ในบวรราชสมบัติทั้งสิ้น ๑๕ปี พระองค์มีความรู้ทางด้านการทหารทางตะวันตกและภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี มีพระราชนิพนธ์ตำราปืนใหญ่ ดังนั้นสมบัติของพระราชาองค์ที่สองนี้จึงเป็นหลักฐานของการสานสัมพันธ์ระหว่างตะวันออกกับตะวันตกให้ปรากฏในแผ่นดินรัชกาลที่ ๔อย่างน่าสนใจยิ่ง
ท้องพระโรงออกว่าราชการของกษัตริย์ องค์ที่สอง
อธิบดีกรมศิิลปากรกับคณะผู้จัดนิทรรศการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี