พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี
การจัดกระบวนพยุหยาตราทางชลมารคอย่างโบราณนั้น เห็นจะเหลือแห่งเดียวในโลกอยู่ที่ประเทศไทย ในพระราชพิธีโบราณนั้นเมื่อพระมหากษัตริย์เสด็จพระราชดำเนินไปในการต่างๆ ทั้งส่วนพระองค์และพระราชพิธีสำคัญ เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก การเสด็จพระราชดำเนินนมัสการรอยพระพุทธบาท การอัญเชิญพระพุทธรูปที่สำคัญจากหัวเมืองเข้าประดิษฐานในเมืองหลวง และการต้อนรับทูตต่างประเทศ นั้นการจัดกระบวนพยุหตราทางชลมาคจึงถือเป็นพระราชพิธีสำคัญยิ่ง อาทิตยนี้ได้ติดตามกรมศิลปากร ไปที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากคลองบางกอกน้อย เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ด้วยเป็นสถานที่แห่งเดียวที่เก็บรักษาเรือพระราชพิธีอันเป็นมรดกของแผ่นดินนั้นไว้ โดยปัจจุบันนี้ได้มีการปรับปรุงให้เป็นศูนย์ศึกษาเรือพระราชพิธีแห่งชาติ และสร้างมาตราฐานในการเป็นแหล่งเรียนรู้และการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาวตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช)ขึ้นใหม่
บัลลังก์กัญญาเรือพระที่นั่ง
ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้นอกจากโขนเรือพระที่นั่งรูปพระนารายณ์ทรงครุฑของเก่าที่ถือว่าเป็นครูของงานช่างเรือหลวงแล้ว ยังมีเรือพระราชพิธีสำคัญ ๘ ลำจากเรือทั้งหมด๕๒ลำ เรือพระที่นั่งและเรือสำคัญนี้เป็นโขนเรือและงานศิลปกรรมชั้นเยี่ยมของช่างหลวงที่สืบทอดรักษาฝีมือกันมานาน คือ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ ๙ เรือครุฑเหินเห็จ เรือกระบี่ปราบเมืองมาร เรืออสุรวายุภักษ์ และเรือเอกไชยเหินหาว ซึ่งล้วนแล้วมีความวิจิตรงดงามจนเป็นที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างประเทศแล้ว ยังเป็นเรือพระที่นั่งที่พร้อมนำออกใช้งานในพระราชพิธีสำคัญได้ทุกเวลา
บัลลังก์บุษบกบนเรือพระที่นั่งของเก่าฝีมือชั้้นครู
โขนเรือเก่าพระนารายณ์ทรงครุฑ
นอกจากเรือพระที่นั่งและเรือสำคัญที่ใช้ในกระบวนพยุหยาตราทางชลมารคแล้ว ยังจัดแสดงเครื่องประกอบและสิ่งของเครื่องใช้ในพระราชพิธีที่เกี่ยวข้องกันไว้ด้วย ได้แก่ บัลลังก์บุษบก บัลลังก์กัญญา ใบพายชนิดต่าง ๆ และเครื่องแต่งกายของเหล่าฝีพาย เป็นต้น ส่วนเรือลำอื่นนั้นได้แยกเก็บรักษาที่ท่าวาสกุรี ๖ ลำในความดูแลของสำนักพระราชวัง และอีก๓๘ ลำอยู่ในกองเรือเล็ก กองทัพเรือที่ตั้งอยู่ใกล้กัน
เรือพระที่นั่งที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เดิมเป็นอู่หรือโรงเก็บเรือพระราชพิธี อยู่ในการควบคุมดูแลของสำนักพระราชวังและกองทัพเรือ ต่อมาพ.ศ.๒๔๘๗ อู่และเรือพระราชพิธีบางส่วนได้ถูกระเบิดจากเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ ๒ได้รับความเสียหายมีสภาพทรุดโทรมจนเมื่อพ.ศ.๒๔๙๐ สำนักพระราชวังและกองทัพเรือจึงได้มอบหมายให้กรมศิลปากรบูรณะซ่อมแซมเรือพระที่นั่งและเรือเก่าที่ใช้ในพระราชพิธี ซึ่งล้วนแล้วมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศิลปกรรมมากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่เสด็จทอดพระเนตรเรือพระที่นั่งแห่งนี้เมื่อวันที่๑๓กุมภาพันธ์พ.ศ.๒๔๙๕ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้รักษาโรงเรือและเรือพระที่นั่งให้มากยิ่งขึ้น ในปีพ.ศ.๒๕๑๗กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเรือพระที่นั่งต่าง ๆ เป็นมรดกของชาติ พร้อมกับยกฐานะของอู่เรือหลวงขึ้นเป็น“พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี” เมื่อครั้งสมัยอยุธยานั้นมีงานที่ใช้เรืออยู่ในการเห่เรือหลวง ในงานพระราชพิธี และการเห่เรือเล่น ของชาวบ้านในงานต่างๆ
เรือพระทีั่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ
แม้เวลาจะล่วงเลยมากว่า๔๐๐ปีแล้วการใช้เรือนั้นยังคงรักษาอยู่ ดังปรากฏแบบแผนอยู่ในลิลิตพยุหยาตราเพชรพวง ลิลิตพรรณนากระบวนเรือ ซึ่งแต่งโดยเจ้าพระยาพระคลัง (หน) เมื่อพ.ศ.๒๔๓๐ ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ในปีพ.ศ.๒๕๐๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯให้ฟื้นฟูจารีตประเพณีการเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยกระบวนพยุหยาตราชลมารคขึ้นใหม่ พร้อมกับมีการเห่เรือหลวงในงานสำคัญต่างๆ
เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์
ดังนั้นพิพิธภัณฑ์เรือพระราชพิธีแห่งนี้จึงได้พัฒนาการไปสู่ศูนย์การศึกษาเรือพระราชพิธีของแผ่นดิน ซึ่งเรือพระที่นั่งแต่ละลำนั้นล้วนเป็นงานศิลปกรรมชั้นเยี่ยมของช่างหลวง ที่มีการสืบทอดการสร้างเรือ และแบบแผนราชประเพณีว่าด้วยการเสด็จพระราชดำเนินทางน้ำของสถาบันพระมหากษัตริย์จากอดีตไว้จนถึงทุกวันนี้ได้.. เป็นแห่งเดียวในโลก
เสาเก่าประจำโรงเรือหลวงที่อยู่มาแต่เดิม
เครื่องแต่งตัวฝีพายเรือพระที่นั่ง
กระบวนเรือพระราชพิธีในสมัยอยุธยา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี