สวัสดีครับ วันนี้ผมมีเรื่องราวที่น่าสนใจจาก ผศ.น.สพ. สุวิชา จุฑาเทพ เกี่ยวกับการตรวจโดยใช้กล้องส่องตรวจ หรือ endoscope มาฝากครับ พบว่าการตรวจวินิจฉัยโรค ด้วยกล้องส่องตรวจอวัยวะภายใน (endoscopic examination ) ในทางสัตวแพทย์นั้น ได้ถูกนำมาใช้ในคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วด้วยครับ ซึ่งนำไปใช้ประโยชน์ทั้งในส่วนของการตรวจวินิจฉัย และการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อจากอวัยวะภายใน รวมถึงเป็นอุปกรณ์เสริมที่ใช้ช่วยในการรักษาอีกด้วยครับ
สภาวะของสัตว์ป่วยที่สามารถใช้กล้องส่องตรวจมาใช้ประโยชน์ ได้แก่ การส่องตรวจความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร และระบบทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น
การส่องตรวจระบบทางเดินหายใจนั้น สัตว์ป่วยมักจะมีปัญหาความผิดปกติของโพรงจมูก (nasal cavity) โดยพบได้ทั้งการเกิดเนื้องอก และการติดเชื้อเรื้อรังอันเนื่องมาจากเชื้อรา
ในการตรวจพบเนื้องอกนั้น สัตวแพทย์จะทำการเก็บตัวอย่างไปทำการตรวจวินิจฉัยทางพยาธิวิทยา เพื่อระบุถึงชนิดของเนื้องอก และนำผลมาใช้เป็นแนวทางในการรักษาต่อไปครับ
การตรวจพบการติดเชื้อราในโพรงจมูก คุณหมอก็จะส่องกล้องเข้าไปเพื่อทำการรักษาโดยการใช้ยาฆ่าเชื้อราที่เป็นน้ำในกลุ่ม cotrimazole solution ไปทำการล้างโพรงจมูก ซึ่งให้ผลในทางการรักษาที่ผ่านๆ มา ได้ผลเป็นอย่างดีทีเดียวครับ
นอกจากนี้แล้วการใช้กล้องส่องตรวจยังนำมาใช้ในการตรวจวินิจฉัยความผิดปกติของหลอดลมตีบได้อีกด้วย โดยสามารถใช้ระบุช่วงความยาวและบริเวณที่มีการตีบแคบของหลอดลม เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการทำท่อขยายหลอดลม โดยให้ผลในการรักษาที่ดีมากครับ โดยเฉพาะหลอดลมที่อยู่ลึกลงไปในช่องอก (thoracic trachea)
การส่องตรวจในระบบทางเดินอาหาร สามารถแยกได้เป็น 2 ส่วน คือ ระบบทางเดินอาหารส่วนต้นและส่วนท้าย โดยความสามารถในการตรวจวินิจฉัยด้วยการส่องกล้องในระบบนี้ค่อนข้างมีขีดจำกัด จากเรื่องความยาวของตัวกล้อง
ในระบบทางเดินอาหารส่วนต้นพบว่าการใช้กล้องส่อง สามารถส่องตรวจได้ในช่วงของหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้ส่วนต้นเท่านั้น โดยส่วนมากจะเป็นการใช้กล้องส่องเพื่อแก้ไขภาวะการอุดตัน อันเนื่องมาจากการกินสิ่งแปลกปลอม เช่น กระดูกหมู กระดูกไก่ หรือการกินเบ็ดตกปลา เป็นต้น คุณหมอจะใช้กล้องส่องพร้อมอุปกรณ์คีบดึงที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อนำสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ออกมาครับ ทั้งนี้ตัวสัตว์จำเป็นต้องได้รับการรักษาทางอายุรกรรมเพื่อรักษาแผลที่เกิดขึ้นต่อไปด้วย
การส่องตรวจความผิดปกติของกระเพาะอาหาร มักเป็นการตรวจในสุนัขที่ผ่านการตรวจทางรังสีวิทยา (X-ray) มาแล้ว และพบว่ามีการอุดตัน หรือ มีปัญหาในการผ่านของอาหารจากกระเพาะอาหารไปยังลำไส้เล็ก โดยส่วนมากแล้วมักพบสภาวะของเนื้องอกในผนังของกระเพาะอาหาร โดยการส่องตรวจสามารถที่จะทำการเก็บตัวอย่างมาทำการตรวจวินิจฉัยของความผิดปกตินั้นๆ ต่อไปได้ด้วย
สำหรับการตรวจทางเดินอาหารส่วนท้าย มักจะเป็นการส่องตรวจถึงภาวะการอุดตัน หรืออักเสบเรื้อรังของลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย หรือไส้ตรง ซึ่งส่วนมากมักใช้เป็นอุปกรณ์ในการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อเพื่อนำมาทำการตรวจทางพยาธิวิทยาต่อไปครับ
นอกจากนี้การใช้กล้องส่องตรวจยังสามารถนำมาใช้ในการตรวจระบบทางเดินปัสสาวะได้อีกด้วยครับ ส่วนมากจะทำการส่องตรวจในสุนัขเพศเมียพันธุ์ใหญ่ เช่นโกลเด้น ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ เป็นต้น เนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องขนาดของอุปกรณ์ส่องตรวจนั่นเองครับ โดยสุนัขที่มารับการส่องกล้องมักได้รับการเอ็กซ์เรย์ และอุลตร้าซาวด์มาแล้ว โดยกรณีสัตว์ป่วยที่พบมักเป็นเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ หรือ กระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง
นอกจากนี้การใช้กล้องส่องตรวจยังสามารถใช้ในการวินิจฉัยสภาวะการเปิดผิดตำแหน่งของท่อไต (ectopic ureter) ในสุนัขเพศเมียได้อีกด้วยครับ โดยจะพบว่าท่อไตที่เปิดผิดปกติจะมีขนาดขยายใหญ่มากพอที่สัตวแพทย์ผู้ตรวจสามารถส่องกล้องเข้าไปดูความผิดปกติเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน
การตรวจวินิจฉัยอวัยวะภายในทางสัตวแพทย์ โดยใช้ส่องกล้องตรวจนั้น มีใช้กันค่อนข้างแพร่หลาย แต่ยังต้องอาศัยการพัฒนาในส่วนของอุปกรณ์ที่ครบครัน ความชำนาญ และประสบการณ์ของสัตวแพทย์ผู้ตรวจต่อไป โดยสามารถที่จะขยายวงกว้างในการตรวจ และรักษาในระบบต่างๆ เช่น ระบบหัวใจและหลอดเลือด หรือการผ่าตัดช่องท้องผ่านกล้องอีกต่อไปได้ในอนาคตอันใกล้นี้ครับ อดใจรอกันนะครับ
อ.น.สพ.ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี