สมชาย เจริญอำนวยสุข (ที่สองจากขวา)
สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว หรือ สค. สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำโดย นายสมชาย เจริญอำนวยสุข ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว จัดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ: พลังบวกสาม ภาครัฐ สื่อ และประชาสังคม เพื่อสตรีและครอบครัว ปีที่ 3 ประจำปี 255 ณ จังหวัดระยอง พุ่งเป้าปัญหาความรุนแรงในผู้หญิงและครอบครัว สถิตสูงขึ้นทุกปี ชี้ปัญหาเหล่านี้ต้องช่วยกันสอดส่อง ไม่ใช่เรื่องบ้านใครบ้านมันอีกต่อไป โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ได้แก่ เจ้าหน้าที่ พม. และ สค. หน่วยงานภาครัฐ ภาคสื่อมวลชน ภาคประชาชน พร้อมด้วยสตรีจากชุมชนต่างๆ ในจังหวัดระยอง และจังหวัดใกล้เคียงกว่า 400 คน
การสัมมนาได้ชี้ประเด็นให้เห็นถึงปัญหาการกระทำความรุนแรงในครอบครัวมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามสถิต พ.ศ. 2556 พบว่ามีเด็กและสตรีถูกทำร้าย 31,866 ราย เฉลี่ยวันละ 87 ราย หรือในทุกๆ 15 นาที จะมีเด็กและสตรีที่ถูกกระทำความรุนแรงถึง 1 รายด้วยกัน ซึ่งบุคคลที่เป็นอันตรายต่อผู้หญิงและเด็กมากที่สุดคือ คนคุ้นเคย รองลงมาคือบุคคลแปลกหน้า และจากข้อมูลของศูนย์พึ่งได้ (ตุลาคม 2553 - กันยายน 2554) มีผู้เข้ารับบริการจากศูนย์ฯ ในประเด็นความรุนแรง 22,565 ราย เป็นเด็ก 11,491 ราย (เด็กชาย 1,214 ราย และเด็กหญิง 10,277 ราย) และเป็นสตรี 11,074 ราย โดยลักษณะการถูกกระทำความรุนแรงมีหลายรูปแบบ อาทิ การถูกทุบตี ทำร้ายร่างกาย หรือการทำร้ายทางจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการพูดจาดูถูกเหยียดหยาม การด่าว่าด้วยคำหยาบคาย รวมไปถึงการใช้ความรุนแรงทางเพศ
แสดงพลังบวกสาม ภาครัฐ สื่อ และประชาสังคม
นายสมชาย เจริญอำนวยสุข ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ให้ความเห็นว่า “ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงและครอบครัว สามารถเข้าแก้ไขได้ค่อนข้างยาก เพราะความเชื่อผิดๆ ที่ว่า ความรุนแรงในครอบครัวเป็นเรื่องส่วนตัว จึงทำให้ผู้ถูกระทำปกปิดปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ขอความช่วยเหลือ แม้สามารถทำได้ก็ตาม ทาง สค. มองว่าการแก้ปัญหาไม่สามารถทำได้สำเร็จโดยหน่วยงานภาครัฐเพียงฝ่ายเดียว จะต้องเชื่อมโยงความช่วยเหลือ 3 ส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ สื่อมวลชน และประชาสังคม”
ชาวระยองร่วมต่อต้านความรุนแรงต่อผู้หญิงและครอบครัว
เมื่อเกิดความรุนแรงขึ้น จนไม่สามารถรับมือได้ สิ่งที่ผู้ถูกกระทำความรุนแรงหวังพึ่งพามากที่สุด คงหนีไม่พ้นกฎหมาย ซึ่งในปัจจุบัน มีการให้ความสนใจในปัญหาเรื่องนี้อย่างมาก ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ..... ได้ระบุไว้ว่า ผู้ถูกกระทำหรือผู้ที่พบเห็นการกระทำความรุนแรงในครอบครัวมีหน้าที่แจ้งต่อเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการ ซึ่งสามารถทำได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งด้วยคำพูด ยื่นเป็นหนังสือ โทรศัพท์ แจ้งทางอีเมล หรือวิธีการอื่นๆ ซึ่งผู้แจ้งโดยสุจริตจะได้รับการคุ้มครองและไม่ต้องรับความผิดใดๆ แต่โดยมากแล้ว ผู้ที่ถูกกระทำความรุนแรงที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว มักยอมความและไม่เอาผิด เปรียบเสมือนปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไข
ดังนั้น จึงเห็นได้ว่าถึงแม้จะมีกฎหมายคุ้มครอง ก็ยังพบว่ามีผู้ประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัวอีกมาก เพราะแม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนกฎหมายต่างๆ เพื่อพัฒนาไปสู่ความเสมอภาคระหว่างชายหญิง แต่ก็ยังไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของกระแสสังคมและความเชื่อผิดๆ ในครอบครัว ซึ่งได้มีการศึกษาผลกระทบจากแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกระทารุณแรงในครอบครัว
อย่างไรก็ตาม ปัญหาความรุนแรงในผู้หญิงและครอบครัว ไม่ใช่เพียงแค่ปัญหาส่วนตัวอีกต่อไป หากเราทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตา ให้ความใส่ใจและแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง เราควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้จากเครือข่ายต่างๆ ดังนี้ สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ศูนย์ประสานงานตามพระราชบัญญัติคุ้มครอง ผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว, ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันการกระทำความรุนแรงในครอบครัว กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ, สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, บ้านพักเด็กและครอบครัว กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และศูนย์ประชาบดี ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือ พร้อมเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาผู้หญิงและครอบครัวเสมอมา
นอกจากนี้ เพื่อแก้ปัญหาความรุนแรงในผู้หญิงและครอบครัว สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวได้กำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือ คุ้มครอง และสร้างความเข้มแข็งแก่สตรีในทุกกลุ่ม สค. จึงเร่งผลักดันบทบาทของสตรีและครอบครัว เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมไทยอย่างยั่งยืน เช่น โครงการ "รณรงค์ให้ทุกวันเป็นวันของครอบครัว" ที่สนับสนุนให้ครอบครัวมีการทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการสานความสัมพันธ์ภายในครอบครัวให้แน่นแฟ้น, โครงการ "เสียงพลังประชาชน ยุติความรุนแรง" เพื่อรณรงค์ยุติความรุนแรง ในเด็ก สตรีและครอบครัว เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี