สมาคมสตรีภาคพื้นแปซิฟิคฯ และเอเซียอาคเนย์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ (สปอท.) นำโดย มณฑิยา แพ่งสภานายกสมาคมฯ และ วราภรณ์ พวงเกตุแก้วประธานฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ นำ ฯพณฯ เอกอัครราชทูต โรบินา แพทริเชีย มาร์คสแห่งสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ และคณะภริยาเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ ทัศนศึกษากิจการของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และสวนพฤกษศาสตร์ดาษดา โดยมี จิตรา พรหมชุติมา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และ นพ.เอนก พึ่งผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ต้อนรับคณะผู้มาเยือนด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
โอกาสนี้ นพ.เอนก พึ่งผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร บรรยายสรุปประวัติและการทำงานของโรงพยาบาล
พอเป็นสังเขปว่า โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาสิริโสภาพัณณวดี เป็นโรงพยาบาลศูนย์ประจำจังหวัดปราจีนบุรี และเป็นโรงพยาบาลนำร่องเรื่องการแพทย์แผนไทย ใช้สมุนไพรบำบัดรักษาโรค มีการนวด อบ ประคบ และฝังเข็ม แปรรูปสมุนไพรไทยเป็นเวชภัณฑ์และเครื่องสำอาง ในปี พ.ศ.2452 เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ว่าจ้าง บริษัทโฮวาร์ด เออร์สกิน สร้างตึกเพื่อใช้รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเพื่อจะใช้เป็นที่ประทับแรมของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในกรณีที่พระองค์เสด็จมายังมณฑลปราจีนบุรีอีก แต่พระองค์เสด็จสวรรคตเสียก่อนในปีพุทธศักราช 2453 ต่อมา ในปี พ.ศ.2455 ตึกหลังนี้ได้ใช้รับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระราชวงศ์อีกหลายพระองค์ ตึกหลังนี้เป็นมรดกตกทอดมาถึงพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชกาลที่ 6 (พระนามเดิม
ว่า เครือแก้ว อภัยวงศ์ ทรงมีศักดิ์เป็นหลานปู่ของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร) และพระองค์ได้ประทานตึกหลังนี้ให้แก่
ทางราชการ เมื่อปี พ.ศ.2482 จนได้กลายมาเป็นตึกผู้ป่วยหลังแรก ต่อมาในปีพ.ศ.2480 เมื่อพระองค์ได้นำเสด็จสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี พระราชธิดาไปประทับที่ประเทศอังกฤษ จึงประทานที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดนั้นแก่มณฑลทหารบกที่ 2 จังหวัดปราจีนบุรีเพื่อใช้เป็น โรงพยาบาลปราจีนบุรี และได้เปลี่ยนเป็น โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2509
โดยมี สมเด็จเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี เสด็จมาทรง
เปิดป้ายโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรพร้อมทั้งทรงรับโรงพยาบาลแห่งนี้ไว้ในพระอุปถัมภ์ เดิมตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเดิม เป็นตึกอำนวยการ ได้มีการดัดแปลงทำชั้นล่างเป็นห้องตรวจโรค ห้องจำหน่ายยาและห้องผ่าตัด ชั้นบนทำหน้าที่รับคนไขัหญิง
โดยมีเรือนคนไข้ชายแยกต่างหาก มีเตียงรับคนไข้ 50 เตียง มีโรงประกอบอาหารคนไข้ โรงซักฟอก ที่เก็บศพ เรือนพักคนงาน บ้านนายแพทย์ อย่างละ 1 หลัง บ้านพักพยาบาลอีก 3 หลัง การเข้าถึงโรงพยาบาลเข้าได้ทางเรือเพียงอย่างเดียว จนมีการสร้าง
ถนนขึ้นในปี พ.ศ.2486 จนถึงปี พ.ศ.2512ตึกอำนวยการในปัจจุบันได้ก่อสร้างเสร็จส่วนตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรในการประชุมสัมมนาในบางกรณี ในปี พ.ศ.2533กรมศิลปากรได้ ประกาศขึ้นทะเบียนตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเป็นโบราณสถานของชาติ ต่อมาได้มีการบูรณะตึกครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.2537 โดยงบประมาณของจ.ปราจีนบุรี จำนวน 2.5 ล้านบาท และคุณป้าจรวย ประสมสน บริจาคสมทบอีก 100,000 บาท โดยมีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศรขึ้น
เมื่อฟังการบรรยายจบ คณะฯ ได้เข้าเยี่ยมชมภายในสถานที่และพิพิธภัณฑ์แผนโบราณ ชมการสาธิตการนวดแผนโบราณ ณ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรอย่างน่าสนใจ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการร่วมรับประทานอาหารกลางวันและเยี่ยมชมสวนพฤกษศาสตร์ดาษดา ซึ่งต้อนรับคณะอย่างอบอุ่นเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี