เพราะไม่ได้ถือกำเนิดในครอบครัวที่มีธุรกิจเป็นของตัวเอง จึงทำให้ บุญฤทธิ์ ฉันสุวรรณ บัณฑิตหนุ่มไฟแรงจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาปิโตรเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สัญญากับตัวเองว่าวันหนึ่งเขาจะต้องเป็นเจ้าของกิจการให้ได้ เขาจึงมุ่งมั่นทำงานไต่เต้าจากตำแหน่งเล็กๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ จนกระทั่งวันหนึ่งโอกาสมาถึงในวันที่เขาได้เป็นผู้บริหารธุรกิจเต็มตัว แต่เขาก็ยังไม่ลืมความรู้สึกในวันที่ยังเป็นเพียงเบี้ยตัวเล็กๆ บนกระดาน และได้นำความรู้สึกนั้นมาใช้ในการบริหาร “คน” อันเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จในวันนี้
บุญฤทธิ์ ฉันสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แสงชัยแอร์ควอลิตี้ จำกัด เล่าว่า เขาเกิดในครอบครัวคนจีน เรียนจบ ได้เข้าทำงานเป็นพนักงานฝ่ายขายแผนกสินค้ากลุ่มปิโตรเคมีที่ SCG หรือเครือปูนซิเมนต์ไทย เป็นเวลา 9 ปี ตำแหน่งสุดท้าย คือ ผู้จัดการแผนกขายต่างประเทศ
“หลังจากเรียนจบ ผมถึงเริ่มรู้ว่าตัวเองอยากทำธุรกิจ แต่ผมก็มีความคิดว่าถ้าเราอยากเป็นเจ้าของกิจการ เราจำเป็นต้องสะสมต้นทุน 3 อย่าง ได้เเก่ ประสบการณ์ เงินทุน และคอนเน็คชั่น ดังนั้น ผมจึงไม่เลือกไปทำงานโรงงานตามสายงานวิศวกรที่เรียนมา เข้าทำงานที่ SCG ก็เลือกอยู่ฝ่ายขาย เพราะเชื่อว่าหากอยากทำธุรกิจต้องเริ่มที่งานขาย มันจะทำให้เราเห็นงานทั้งระบบ ขณะเดียวกันก็ได้เรียนรู้เรื่องต่างๆ ทั้งระบบบัญชี การทำตลาด ดูแลลูกค้า และได้สร้างคอนเน็คชั่นของเราไปด้วย ทำงานได้สักระยะ ผมก็ไปเรียนภาคค่ำ ปริญญาโทการตลาด ภาคภาษาอังกฤษ ที่ธรรมศาสตร์ ทำให้ได้มาเป็นเพื่อนกับคุณวรเทพ อัศวนิเวศน์ ลูกชายของแสงชัยกรุ๊ป แล้วชวนผมมาทำธุรกิจร่วมกัน เป็นช่วงเวลาที่ตัดสินใจยากเหมือนกัน เพราะทำงานที่ SCG เราก็เติบโตได้อีก แต่เมื่อโอกาสมันมาแล้ว และตอนนั้นเพิ่งจะ 30 ต้นๆ ถ้าล้มยังมีโอกาสไปสมัครงานใหม่”
ในที่สุด บุญฤทธิ์ จึงได้ตัดสินใจร่วมลงทุนกับ วรเทพ อัศวนิเวศน์ เปิดบริษัท แสงชัยแอร์ควอลิตี้ จำกัด เป็นบริษัทในเครือแสงชัยกรุ๊ป ซึ่งการออกมาทำธุรกิจของตัวเอง ต้องนับหนึ่งด้วยตัวเอง สิ่งที่ยากในช่วงแรกของการก่อตั้งบริษัทคือการวางรากฐาน ที่ต้องอาศัยความพยายาม อดทน และทุ่มเทเป็นอย่างมาก เพื่อให้ลูกค้ามีความไว้วางใจในสินค้าของบริษัท รวมถึงสิ่งที่ยากที่สุดคือ การจับจุดให้ได้ว่าจะบริหารคนในองค์กร หรือดูแลพนักงานอย่างไรให้เขาทำงานด้วยใจ และอยู่ด้วยกันกับเราไปนานๆ
“ผมกลับมาสังเกตตอนที่ตัวเองเป็นพนักงานว่า ทำไมผมไม่เคยย้ายงานเลย ก็ได้คำตอบว่า ตอนอยู่ SCG ตอบโจทย์ให้ผม 3 ข้อ คือ กาย ใจ และสมอง ผมก็พยายามเอาจุดนี้มาใช้กับบริษัทที่ผมบริหาร ดูแลเรื่องกาย คือท้องเขาต้องอิ่ม ให้เงินเดือนที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ได้ ตามคุณสมบัติและตำแหน่งของเขา สองคือ ให้ทำงานแล้วสบายใจโดยให้ความเป็นกันเองแก่เขา สามคือ ทำงานแล้วเขาต้องรู้สึกฉลาดขึ้น เก่งขึ้น เรายอมมอบหมายงานที่ท้าทายให้ หรือส่งไปอบรมอย่างสม่ำเสมอ”
นอกจากนี้ เขายังเชื่อว่า การใช้ความเป็นกันเองจะเป็นสิ่งที่สามารถเปิดใจพนักงานได้ดีกว่าความเคร่งขรึมเป็นทางการ จึงวางตัวเป็นพี่ชายของน้องๆ พนักงานในบริษัท คอยยื่นมือช่วยเหลือในยามที่ทุกคนมีปัญหา ไม่ว่าเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว
“อีกมุขหนึ่งที่ผมใช้คือ ในห้องประชุม ผมจะเป็นคนหูดี นอกห้องประชุมผมจะเป็นคนหูหนวก ดังนั้น หากในห้องประชุมนิ่งเงียบไม่แสดงความคิดเห็น แต่หลังจากนั้น คนนั้นมาพูดที คนนี้มาพูดที ผมจะไม่ฟัง เพราะผมหูหนวก เพื่อฝึกให้น้องๆ ให้กล้าแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผย เปิดโอกาสให้ทุกคนได้โต้แย้ง ปรับความเข้าใจและให้เกียรติกัน ผิดก็เตือนกันด้วยวาจา หรือหากต้องตักเตือนเป็นพิเศษ ผมก็จะเรียกมาคุยส่วนตัว ไม่ให้เสียหน้า เพราะผมเองก็ต้องให้เกียรติเขาด้วยเช่นกัน”
ปัจจุบัน บริษัท แสงชัยแอร์ควอลิตี้ จำกัด หรือที่รู้จักกันในชื่อ “แสงชัยแอร์” กำลังจะก้าวสู่ปีที่ 10 เป็นตัวแทนดูแลสินค้าให้แก่ 3 แบรนด์ระดับโลก ได้แก่ เครื่องฟอกอากาศ และพัดลม Honeywell จากอเมริกา อุปกรณ์สวิตช์ปลั๊ก SIEMENS จากเยอรมนี และเครื่องฟอกอากาศน้องใหม่ BLUEAIR จากสวีเดน โดยเป้าหมายในอนาคตคือ การเจาะตลาด AEC วางตัวเองเป็น HUB สต๊อกสินค้าให้ลูกค้าประเทศเพื่อนบ้าน
ในขณะที่อัตราการเติบโตทางธุรกิจของ แสงชัยแอร์ควอลิตี้ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่อัตราการย้ายงานของน้องๆ พนักงานกลับลดลง คงจะเป็นข้อพิสูจน์อย่างดี ว่าการที่ บอย-บุญฤทธิ์ ฉันสุวรรณ บริหารงานโดยสวมหัวใจความเป็นพนักงานนั้น มาถูกทางแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี