บีมายเกสท์ สัปดาห์นี้ เรามีนักบริหารรุ่นใหม่แห่งวงการดิจิตอลทีวี เดียร์-วทันยาวงษ์โอภาสี มาพูดคุยถึงความเป็นมืออาชีพและความพร้อมของ “สปริงนิวส์” สถานีข่าว ทีวีดิจิทัล 24 ชั่วโมง ทางช่อง 19 ที่เธอนั่งแท่นรองประธานกรรมการบริหารด้านธุรกิจองค์กร บริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด พร้อมเผยถึงชีวิตส่วนตัวอีกมุมในบทบาทของ “ภรรยา” และ “แม่”
การก้าวผ่านยุคอะนาล็อกไปสู่ยุคดิจิทัลนี้หากจะถือเป็นการก้าวข้ามความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่สุดของการทำงานของ วทันยา เลยก็ว่าได้ แต่จะด้วยเหตุผลใดไปฟังเธออธิบาย…“แม้ว่าช่องทีวีดิจิทัลจะมีการแข่งขันที่เข้มข้น แต่ความแตกต่างของสถานีข่าวสปริงนิวส์ ที่นอกจากจะชูความต่าง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ข่าวจริง สปริงนิวส์” ด้วยสัดส่วนเนื้อข่าว80 เปอร์เซ็นต์ และ 20 เปอร์เซ็นต์ จะนำเสนอรายการสาระความรู้ที่สนุกสนาน (Edutainment) กึ่งวาไรตี้ พร้อมการปรับโครงสร้างองค์กร ด้วยการเพิ่มบุคลากรที่อยู่ในแวดวงสื่อสารเข้ามาเสริมทัพ ซึ่งจะช่วยสร้างให้สถานีข่าวแห่งนี้มีความแข็งแกร่งมากขึ้นแล้ว ขณะเดียวกันเรายังเดินหน้าปั้นกลุ่มยังเจนเนอเรชั่นใหม่ๆ ให้เข้ามาร่วมงาน เพื่อการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย และเพื่อการสร้างความแตกต่างไปจากสถานีคู่แข่งอีกด้วย”
วทันยา บอกอีกว่า เมื่อก้าวสู่ทีวีดิจิทัลเต็มตัวแล้ว สิ่งที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนคือ การขยายแพลตฟอร์ม การลงทุนด้านอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานเพิ่มพื้นที่สตูดิโอ และเตรียมสร้างสำนักงานแห่งใหม่ในเร็ววันนี้
“เราพัฒนาแพลตฟอร์มที่เป็นนิวส์มีเดียมาโดยตลอด ผู้ใช้สมาร์ทโฟนทุกระบบสามารถติดตามข่าวของสปริงนิวส์ผ่านเว็บไซต์แบบเรียลไทม์ พร้อมหน้าจอทีวี เราขยายไปสู่สถานีวิทยุ เพิ่มช่องทางการนำเสนอข่าวสารของสปริงนิวส์ผ่านช่องทางที่มีความหลากหลายเข้าถึงผู้ชมผู้ฟังได้กว้างกว่าเดิม ตอนนี้รายการข่าวของเราได้เข้าไปปรากฏอยู่ในลิฟต์ของอาคารสำนักงานต่างๆ และในรถแท็กซี่ที่ได้ติดตั้งไปแล้วกว่า 1,000 คัน และจะทยอยติดให้เสร็จ 10,000 คัน ภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ ก็จะมีข่าวเบรกกิ้งนิวส์บนรถไฟฟ้าบีทีเอสด้วย สำหรับต่างจังหวัดเราก็จะสื่อสารต่างๆ ออกไปจะเน้นการจัดกิจกรรมที่ให้ผู้ชมมีส่วนร่วม โดยจะออกแบบให้เหมาะสมกับผู้ชมในแต่ละพื้นที่”
ด้วยศักยภาพและความแข็งแกร่งของทีมงานผนวกกับอีกหลากหลายรางวัลที่ได้รับมา อาทิ รายการ “เผชิญหน้า” ที่เพิ่งได้รับรางวัล “ฐานันดร 4 ทองคำ” จากมหาวิทยาลัยรังสิต ให้เป็นรายการดีเด่นประจำปี 2557 และล่าสุดรางวัลดาวเมขลา จากสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทยที่ร่วมกับองค์กรสื่อมวลชน 16 องค์กร ได้รับทั้งหมด 3 รางวัล คือ รางวัลช่องรายการข่าวดาวเทียมเจาะลึกทันเหตุการณ์ดีเด่น, รางวัลผู้บริหารสื่อบันเทิงโทรทัศน์ดาวเทียมดีเด่น และรางวัลพิธีกรข่าวบันเทิงโทรทัศน์ดาวเทียมดีเด่น ซึ่งผลการตัดสินรางวัลทางคณะกรรมการได้ตัดสินในปี 2556 ที่ยังเป็นสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม แต่ ณ ปัจจุบัน ปี 2557 สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ได้เป็นสถานีโทรทัศน์ระบบทีวีดิจิทัล และเรตติ้งได้พิสูจน์แล้วว่าเวลาเพียง 4 ปี สปริงนิวส์เป็นที่ยอมรับ และก้าวมายืนอยู่แถวหน้าของวงการข่าว
“ตลอดการดำเนินงาน 4 ปี ที่ผ่านมาทำให้เราเชื่อมั่นว่าศักยภาพของสปริงนิวส์มีมากพอสำหรับการเป็นสถานีข่าว 24 ชั่วโมง เราเป็นสถานีแรกที่นำเทคโนโลยี 3G เข้ามาใช้ เพื่อขจัดอุปสรรคของการต้องหอบอุปกรณ์มากมายขึ้นรถโอบี และเราก็ได้นำแอร์โรว์อายส์มาใช้ในการรายงานข่าวเป็นสถานีแรกอีกด้วย
ตั้งแต่วันแรกที่เราเริ่มเปิดตัวสถานี ทุกอย่างล้วนได้ถูกนำเข้าสู่กระบวนการกลั่นกรองมาแล้วทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง โลโก้สี ที่เราใช้ “สีเทา” ซึ่งนั่นหมายถึง เมื่อนำสีหลากสีมาหลอมรวมกันสีที่ได้ออกมาจะเป็นสีเทาเสมอ นั่นหมายรวมถึง สปริงนิวส์เราไม่มี “สี” ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มก่อตั้งสถานีขึ้นมา และพร้อมที่จะปรับปรุง ยืดหยุ่น ยืนหยัด ตีแผ่ ดั่งเช่นรูป “สปริง” ซึ่งเราใช้เป็นสัญลักษณ์แทนความหมายของสถานีเรา ขณะเดียวกันเรายังพร้อมเพื่อการต่อยอดองค์ความรู้ใหม่ๆ ในทุกสถานการณ์ และยึดมั่นเพื่อการช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่องแบบยั่งยืนอีกด้วยจากวันแรกถึงวันนี้กับการก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 เราเติบโตขึ้นมาแบบก้าวกระโดดโดยเราตั้งเป้าหมายว่าสปริงนิวส์จะเป็นสถานีข่าวอันดับหนึ่งของประเทศไทย”
ด้านหนึ่งของบทบาทการเป็น“ผู้บริหาร” เพื่อนำพาองค์กรให้ก้าวสู่ “ความสำเร็จ” แต่อีกด้านหนึ่งของบทบาทการเป็น “ภรรยา”และ“แม่” ของลูก เธอมีโลกส่วนตัว มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต และแบ่งเวลาอย่างไร
“สำหรับเวลาที่เดียร์ให้กับครอบครัวในปัจจุบัน เป็นเวลาแห่งคุณภาพแน่นอน ที่สุดมันคงต้องเปี่ยมไปด้วยคุณภาของ “หัวใจ” โดยมีสายใยแห่ง “รัก” เป็นตัวเชื่อมโยงให้กับทุกคนในครอบครัว เดียร์ชอบใช้ชีวิตแบบ Slow Life โดยเราต้อง “ตื่นรู้และต้องรู้เท่าทันตัวเอง” ตลอดเวลา นี่เป็นสาเหตุหนึ่งซึ่งทำให้เดียร์ต้องหาเวลาไปปฏิบัติธรรมและนั่งสมาธิรวมทั้งเดียร์ยังชอบการอ่านหนังสือประเภทปรัชญา วรรณกรรม นวนิยาย ซึ่งจะใช้เวลานี้ก่อนนอนหรือขณะนั่งอยู่ในรถ และจะพยายามหาเวลาสำหรับการดูแลตัวเองด้วยการเล่นโยคะ สัปดาห์ละ 3 วันค่ะ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี