ลุมพินีวัน
ชาวพุทธมีความมุ่งมาดปรารถนาประการหนึ่งคือ ในชีวิตนี้ขอให้ได้ไปจาริกแสวงบุญ ณ ดินแดนพุทธภูมิสังเวชนียสถานสี่ สักครั้งหนึ่งก็จักทำให้ชีวิตนี้เปรียบเสมือนได้เติมเต็มอย่างสมบูรณ์แบบ
สังเวชนียสถานคือสถานที่อันเป็นที่ตั้งแห่งความสังเวช เป็นสถานที่เกี่ยวเนื่องกับสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยเฉพาะ เป็นสถานที่ซึ่งทำให้เกิดความระลึกถึงพระพุทธเจ้า เกิดพุทธานุสติ ก่อให้เกิดบุญกุศล ทำให้เกิดความแช่มชื่น เบิกบาน และเกิดแรงบันดาลใจที่จะกระทำความดี สังเวชนียสถาน มี 4 แห่ง คือ สถานที่ประสูติ ณ ลุมพินีวัน สถานที่ตรัสรู้ ณ พุทธคยา สถานที่แสดงปฐมเทศนา ณ สารนาถ และสถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน ณ กุสินารา
ลุมพินีวัน
ตามพุทธประวัติว่าไว้ดังนี้ ในครั้งพุทธกาลนั้นผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะจาริกแสวงบุญไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระศาสดาเพื่อหวังจะได้บรรลุธรรมขั้นสูงตามระดับสติปัญญาของตน และได้มีผู้ตรัสถามพระพุทธองค์ว่า ครั้นเมื่อพระองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ผู้ที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธองค์ควรจะไป ณ สถานที่ใด เพื่อยังให้เกิดความเจริญในธรรมดุจดังได้เข้าเฝ้าพระพุทธองค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า
พุทธคยา
“ดูกร ภิกษุทั้งหลาย สถานที่ควรเห็น ควรให้เกิดความสังเวชแห่งกุลบุตรผู้มีศรัทธาสี่แห่งนี้ สี่แห่งเป็นไฉนคือสถานที่ควรเห็น ควรให้เกิดความสังเวชแห่งกุลบุตรผู้มีศรัทธาว่า พระตถาคตประสูติ ณ ที่นี้หนึ่ง พระตถาคตตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ณ ที่นี้หนึ่ง พระตถาคตทรงประกาศธรรมจักรอันยอดเยี่ยม ณ ที่นี้หนึ่ง พระตถาคตปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ณ ที่นี้หนึ่ง ดูกร ภิกษุทั้งหลาย สถานที่ควรเห็น ควรให้เกิดความสังเวชแห่งกุลบุตรผู้มีศรัทธาสี่แห่งนี้แล” (พระสุตตันตปิฎก เล่ม 13 อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต – ตติยปัณณาสก์ - 2 เกสีวรรค- สังเวชนียสูตร)
พุทธคยา
เป็นความจริงที่ว่าเมื่อความเจริญได้บังเกิดขึ้นแล้ว ความเสื่อมก็จักตามมาในที่สุด ดังนั้นหลังจากพุทธศาสนาเสื่อมลงในดินแดนประเทศอินเดีย สถานที่สำคัญต่าง ๆ อันสืบเนื่องด้วยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ได้ถูกทิ้งร้าง จนกระทั่งในช่วงที่อินเดียตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษจึงเริ่มมีการขุดค้นโบราณสถานสำคัญ ๆ แล้วมีการบูรณะโดยชาวพุทธผู้มีจิตศรัทธา จนกระทั่งในช่วงหลังพ.ศ. 2500 ได้เริ่มมีชาวพุทธจากทั่วโลกนิยมไปกราบนมัสการสังเวชนียสถาน และสถานที่สำคัญในพระพุทธศาสนา ณ ดินแดนพุทธภูมิมากยิ่งขึ้น และยิ่งทวีจำนวนมากยิ่งขึ้นในยุคปัจจุบัน
สารนาถ
ดังที่เนื้อความเดิมในคอลัมน์นี้ได้บอกกล่าวกับคุณ ๆ ที่เป็นแฟนคอลัมน์ว่า ช่วงระหว่างวันที่ 19-28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 คณะของเราจำนวน 32 คนจะไปกราบนมัสการสังเวชนียสถานสี่เพื่อร่วมสร้างเนื้อนาบุญด้วยกัน
หลังจากบอกข่าวนี้เพียงคร่าว ๆ ให้คุณ ๆ ได้ทราบ ก็ปรากฏว่ามีผู้สนใจติดต่อไปที่ Mr. Flower หลายสิบราย บางรายถามถึงราคาของทริป บางรายถามถึงที่พัก บางรายถามว่าทำไมรับสมาชิกน้อย บางรายถามว่าทำไมคิดราคาไม่แพงเหมือนทัวร์อื่น ๆ และราคาแบบนี้จะให้บริการมีคุณภาพหรือ บางรายถามว่าอายุ 80 ไปได้ไหม บางรายถามว่านอนที่ไหน กินอาหารอย่างไร ฯลฯ
สารนาถ
Mr. Flower ขอเรียนอีกครั้งว่า ทริปนี้เราไม่ได้จัดขึ้นเพื่อแสวงหากำไร แต่จัดขึ้นเพราะต้องการตอบสนองความประสงค์ของแฟนคอลัมน์ที่เอ็นดูผู้เขียนมาโดยตลอด แฟนคอลัมน์หลายคนที่เคยไปล่องเรือไหว้พระ ณ วัดสำคัญริมฝั่งเจ้าพระยาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เรียกร้องให้จัดทริปไปท่องเที่ยวด้วยกันอีก และมีกว่า 20 รายที่บอกว่าอยากให้จัดไปกราบนมัสการดินแดนพุทธภูมิสักครั้ง บางรายบอกว่าเกษียณอายุราชการมากว่า 10 ปีแล้ว ก็อยากจะไปกราบนมัสการก่อนที่สังขารจะไม่อำนวยให้เดินทางไกลได้อีกต่อไป
กุสินารา
มูลเหตุสำคัญของการจัดทริปไปสังเวชนียสถานสี่ครั้งนี้ก็คือ ต้องการพาคุณผู้อ่านที่ตั้งใจแท้จริงว่าประสงค์จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปสวดมนต์ ไหว้พระ และนั่งวิปัสสนากรรมฐาน ณ สังเวชนียสถานสี่สักครั้งก่อนที่ท่านจะละโลกนี้ไป เมื่อได้คุยกันมากพอสมควร Mr. Flower ก็จึงได้หารือกับผู้รู้จริงเกี่ยวกับการไปนมัสการสังเวชนียสถานสี่ จนตกผลึกความคิดร่วมกันว่า เราจะจัดทริปนี้เพื่อร่วมกันทำบุญโดยไม่แสวงหากำไร
ดังนั้นเราจึงคิดค่าเดินทางและค่าจัดการแบบตามจริง โดยคำนวณจากค่าเครื่องบินของการบินไทยเป็นหลัก แล้วตามมาด้วยค่าทำวีซ่าเข้าประเทศอินเดียและเนปาล ค่ารถบัส ค่าคนขับรถและเด็กบริการประจำรถ ค่าอาหาร ค่าที่พัก รวม 9 คืน 10 วัน และค่าล่องเรือในแม่น้ำคงคา รวมถึงค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งรวมแล้วตก 41,000 บาท
สาเหตุที่ต้องเดินทางในช่วงกลางเดือนกุมภาฯ ก็เพราะอากาศยังเย็นสบาย ผู้คนที่ไป ณ สังเวชฯ สี่ก็เบาบางแล้ว เพราะส่วนใหญ่จะไปกันในตั้งแต่ช่วงหลังเทศกาลทอดกฐิน ไล่เรื่อยไปจนถึงเดือนธันวาคม แต่หากไปในช่วงดังกล่าวแล้วก็จะประสบกับปัญหาผู้คนแออัด ไม่สามารถจะหาความวิเวกได้ตามที่ต้องการ ครั้นจะไปช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคมก็ต้องเผชิญกับอากาศที่หนาวเหน็บจนผู้เฒ่าผู้แก่อาจจะทนความหนาวเย็นไม่ได้
แม่น้ำคงคา
ส่วนเหตุผลที่ต้องเดินทางด้วยสายการบินไทยก็เพราะเราจะไปลงเครื่องที่เมืองคยา ซึ่งสะดวกกับการเดินทางมากที่สุด ไม่ต้องนั่งรถยนต์ไกลจากสนามบินกว่าจะไปถึงยังจุดหมายปลายทางแรกคือที่พุทธคยา หากไปด้วยสายการบินดรูกส์แอร์ของภูฏานแล้วจะต้องนั่งรถยนต์กว่า 10 ชั่วโมงกว่าจะถึงพุทธคยา และที่สำคัญคือสายการบินดรุกส์แอร์ให้บริการเพียงสัปดาห์ละ 1 เที่ยวบินเท่านั้น ซึ่งจะทำให้มีปัญหาเรื่องการเดินทางไปและกลับจากประเทศไทย
สำหรับสถานที่ ที่คณะของเราจะไปกราบนมัสการในครั้งนี้คือพุทธคยา รัฐพิหาร เมืองราชคฤห์ เมืองปัตนะ เมืองกุสินารา มกุฎพันธเจดีย์ เมืองลุมพินี มายาเทวีวิหาร เมืองสาวัตถี วัดเชตะวัน เมืองพาราณสี ล่องเรือในแม่น้ำคงคา เมืองสารนาท และป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
และทุก ๆ ที่ที่เราไปจะมีพระสงฆ์ซึ่งท่านไปศึกษาระดับปริญญาเอกในประเทศอินเดียเป็นผู้นำทางและนำสวดมนต์ พระสงฆ์รูปนี้เป็นพระที่ผู้ร่วมคณะของเราได้เป็นโยมอุปฏฐากสนับสนุนให้ท่านได้ไปเรียนในประเทศอินเดีย
สำหรับคุณ ๆ ที่สนใจร่วมทริปทำบุญไหว้พระกับเรา โปรดติดต่อ Mr. Flower ที่หมายเลข 081 9250300 ขอเรียนย้ำว่าเรารับสมาชิกเพียง 32 ท่านเท่านั้นครับ และขณะนี้มีผู้สำรองที่นั่งแล้วหลายราย
หมายเหตุ หากคุณมีตั๋วเครื่องบินของการบินไทยอยู่แล้ว คุณสามารถใช้ตั๋วของคุณได้ โดยเราจะหักค่าตั๋วเครื่องบินคืนให้ครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี