เป็นคุณแม่คนเก่งที่หาตัวจับยากจริงๆ สำหรับ คุณแม่อรวรรณ กาบวัง เพราะนอกจากจะเลี้ยงดูลูกๆ 4 คน เพียงลำพัง และลูกๆ ต่างก็ประสบความสำเร็จแล้ว ยังเป็นดีไซเนอร์มือหนึ่งและเป็นเจ้าของร้าน THE RED DOOR ผู้สร้างสรรค์ผลงานเครื่องประดับสุดแนวอีกด้วย เพราะความที่เป็นสุดยอดซิงเกิ้ลมัม ทางรายการ “ผู้หญิงแนวหน้ากับคุณแหน” ทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.20 น. ทางช่อง TNN2 โดยพิธีกร “ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์” จึงต้องตามไปพูดคุยด้วย
คุณแม่อรวรรณ เล่าว่า “ทำงานอยู่ในวงการนี้มาประมาณ 27 ปีแล้ว ตั้งแต่ลูกยังเล็กๆ ทุกอย่างทำเองหมด ทำเพราะใจรักจริงๆ มันทำค่อนข้างยาก เราต้องซื้อวัสดุเยอะมากเพื่อจะดีไซน์ แต่อยากทำจิวเวลรี่ที่คนไทยใส่ได้ และเป็นอะไรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะคุ้มค่ากับเงินที่เขาใช้ ก็เลยทำโรงงานขึ้นมาเอง ทำมาเป็นแสนๆ ชิ้นแล้ว ยังไม่เคยมีอะไรเหมือนกันเลยทุกอย่างจะพิเศษมากๆ ทั้งชิ้นเล็กชิ้นใหญ่มีหมด
แม่ไม่ได้จบมาทางด้านศิลปะ จบเคมีจากอเมริกา แต่เป็นคนที่ชอบงานศิลปะมาก ที่บ้านเรียนหนังสือทุกคน จะเป็นหมอหมด แล้วแต่งงานกับหมอทุกคน แต่แม่เองอยากเรียนเคมี ช่วงที่เรียนอยู่อเมริกา เรื่องศิลปะมันเยอะมาก อย่างภาพแวนโก๊ะ ภาพอะไรต่ออะไรเราจะเห็นหมด คือ ศิลปะจริงๆ แล้ว แม่ว่ามันเป็นอะไรที่เรียนไม่ได้ มันเหมือนกับเราต้องซึมซับเข้าไปในตัว เพื่อที่จะสร้างสิ่งใหม่ๆ”
นอกจากจะดีไซน์เครื่องประดับเก๋ๆ แล้วคุณแม่อรวรรณ ยังเลี้ยงลูก 4 คนด้วยตัวเองอีกด้วย เธอบอกว่า เป็นลูกสาว 3 คน ลูกชาย 1 คน คนโตเป็นครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของศูนย์ เมดิแคร์ คนที่ 2 เป็นผู้หญิง มีร้านเสื้อเป็นของตัวเอง แต่งานเขาก็คือ งานดีไซน์หมด เป็นแฮนด์เมดหมด คนที่ 3 เป็นผู้ชาย เป็นวิศวกร และคนเล็กสุดผู้หญิง ก็จบจิวเวลรี่ แฟคทอรี่แต่ทำเสื้อ เป็นงานที่เขาคิดเองหมด คือเริ่มต้นตั้งแต่ออกแบบ ตัดเย็บ แต่ละคนมีหัวใจศิลปะมาก
“เลี้ยงลูกมา 4 คน และประสบความสำเร็จ ลูกๆ รักงานศิลปะ ตรงนี้ถามว่าเกี่ยวข้องกันมั้ย เพราะคุณแม่บริโภคงานศิลปะและให้ลูกเสพงานศิลปะ คือเราให้เขาด้วย เหมือนกับตอนเขาเด็กๆ เขายังไม่รู้เรื่องเลย เราพาไปวัด ไปดูสถานที่ต่างๆ ที่เราอยู่เขาก็จะเหมือนอยู่กับสิ่งเหล่านั้นโดยที่ไม่รู้สึกว่าไปวัดเป็นเรื่องแปลก เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาเห็นและก็ไปดูต้นไม้ คือเราพาไปทุกแห่ง มันก็เหมือนสะสมไปในตัวเขา เวลาเขาจะคิดเรื่องการใช้สีเขากล้าที่จะใช้สี เพราะเขาเห็นมาหมด ท้องฟ้าเป็นสีฟ้า ดอกไม้เป็นสีส้ม ฟ้าส้มไม่มีใครเขาทำหรอก แต่นี่คือเขาทำไง
ที่ทุกคนมาสายอาร์ต สายดีไซน์กันหมดไม่เพียงแต่ทำในสายอาชีพตัวเองได้ดี แต่เคยได้รับรางวัลด้วย ลูกสาวคนโตกับลูกสาวคนที่สอง เคยทำผ้าคลุมเตียง ตอนนั้นเขายังเรียนอยู่ ก็ชนะเลิศของ ELLE DECORATION THAILAND แต่มันเป็นอะไรที่แบบคนไทยก็ไม่เคยเห็น เพราะมันเป็นการลงทุนเยอะมาก ต้องใช้เวลาประมาณ 5-6 เดือนต่อหนึ่งผืนถึงจะเสร็จ ผ้าคลุมเตียงโดยเบสิก เหมือนเราซื้อมาจะแพงและคลุมหนักมาก รักษายากมาก แต่เราใช้ผ้าไหม และใช้ผลิตภัณฑ์ของประเทศไทย และปักโดยชาวบ้านทำ แต่ทำให้มันสวย ถามว่าเวิร์กมั้ยมันเวิร์ก มันสวยมาก เดี๋ยวนี้ให้กลับไปทำอีกก็ไม่มีใครทำได้ ผืนละสองแสนบาทก็ยังไม่มีใครทำเลย เพราะมันปักหมดเลยแต่ปักสวยไง ปัญหาของประเทศไทยก็คือคนไทยมีฝีมือในการปัก แต่ไม่สามารถประยุกต์เข้ากับงานศิลปะให้มันใช้ได้สวยงาม และไม่เยอะจนเกินไป บางทีมันเยอะโดยไม่มีความสวยงามเลย
นอกจากนี้ ลูกสาวคนโตก็ทำอินทีเรียที่คอนโดมิเนียม สุขุมวิทซอย 4 เป็นงานที่ทำในสโคปที่มันเล็ก 80 ตารางเมตร แต่ทำอย่างไรให้มันดูสวยก็ใช้สีสัน ซึ่งลูกสาวคนนี้จะเก่งมาก จนช่อง 3 ช่อง 5 บ้านและสวน ก็ไปขอถ่าย ขนาดเราขายบ้านหลังนี้ไปแล้วนะ จนหลายปีผ่านไปคนยังมาขอบอกว่าบ้านยังอยู่หรือเปล่า ขอถ่ายรูปหน่อย ก็เป็นที่ฮือฮามาก
ผลงานของลูกๆ ประสบความสำเร็จ มีเสียงตอบรับดี ถามว่าแม่รู้สึกอย่างไร คุณแม่อรวรรณ ยอมรับว่า คือที่บ้านก็ไม่ได้คิดว่าทุกคนเด็กหรืออะไร คิดว่าเราใช้ตามความสามารถเขาได้ เหมือนน้องมีนให้ไปชงกาแฟสองขวบ เขาก็ชงได้แล้ว แต่ลูกเล็กๆ เขาโตไวมาก มีนสิบเดือนพูดโทรศัพท์ได้ เดินได้แล้ว พูดรู้เรื่อง คือในโทรศัพท์พูดยากมาก แต่จะพูดรู้เรื่องหมดเลย ร้องเพลงได้ คนรองลงมาแปดเดือนวิ่งได้แล้ว ทานข้าวเอง ตอนลูกเล็กๆ 4 คน ถามว่า แม่ลำบากมั้ย เพราะเลี้ยงคนเดียว คือขณะนั้นเราไม่รู้สึกลำบาก เพราะว่าความที่รักลูกมาก และอยากมีลูกไงคะก็ตื่นตี 4 ทำกับข้าว อาบน้ำแต่งตัว แต่ลูกก็อาบน้ำเอง แต่เราดูแล แล้วก็ขับรถไปส่งลูกไปโรงเรียน และจากนั้นถึงจะไปร้านค้าตัวเองที่ ธนิยะ แล้วก็ไปหลับต่อที่ร้าน เพราะตื่นเช้ามาก กลับบ้านดึกมากก็ทำอย่างนี้ทุกวัน จนลูกจบไฮสคูล ลูกไม่เคยทานข้าวข้างนอกเลย ทานข้าวที่เราทำให้ทุกวัน ลูกเลยไม่รู้จักข้าวถุง เห็นคนทานข้าวถุงลูกบอกว่าสงสัยมันจะอร่อย เพราะมีแต่คนซื้อ ไม่เคยทาน ทานที่บ้านทำให้ทุกวันเลยค่ะ
คุณแม่อรวรรณ กับลูกๆ ทั้ง 4 คน
ไปเมืองนอกก็เอาไปด้วย ไปทุกปี แม่จะมีงบประมาณที่พาลูก 4 คน ไปเมืองนอก เดินทั้งวันก็เดิน และคุณแม่ก็ส่งลูกๆ ทุกคนไปเรียนที่อังกฤษมีนไปตอนอายุ 7 ขวบ ไปอยู่ที่ลิเวอร์พูล เป็นโรงเรียนที่ค่อนข้างดี ให้เขาอยู่กับแฟมิลี่ แม่จะไปอยู่กับเขาเป็นช่วงๆ แล้ววันศุกร์-เสาร์ ถึงกลับมาอยู่กับเราที่อพาร์ทเม้นท์ เพราะฉะนั้นเขาจะเรียนรู้คนอังกฤษจริงๆ ว่าเป็นอย่างไร จากนั้นก็เอาเขากลับมาประเทศไทย เพราะภาษาไทยเขาไม่ได้เลย เอากลับมาเรียนภาษาไทยที่คอนแวนท์ แล้วก็ส่งกลับไปเรียนไฮสคูลที่อังกฤษอีกที จนกลับมาเมืองไทย
ทุกวันนี้พี่ๆ น้องๆ ก็ยังสนุกสนานกันเหมือนเดิมมีนพี่คนโต แม่ก็สอนให้ดูแลน้องๆ ทุกคนเลย เพราะมันเหมือนกับเราเป็นพี่ ตอนเรามีเขา ก็ยังไม่มีน้องสักคนเลย เราก็ให้ความรักเต็มที่ ดูแลเต็มที่ พอเรามีน้อง มีนก็ต้องดูแลน้องๆ เพราะแม่ถือว่าพี่น้องสำคัญมาก เป็นพี่ควรจะให้มากที่สุด เพราะการให้เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดนะ เหมือนการเป็นแม่ บางทีเรารู้สึกว่าเราให้ลูก แต่จริงๆ ในมุมมองกลับกันลูกได้ให้อะไรกับเราเยอะแยะ เพราะว่าการมีลูกทำให้แม่มีสติในการคิด เราอาจจะโกรธหรือทำอะไรที่รุนแรง แต่เพราะเรามีเขาเป็นลูกไง เราไม่สามารถจะทิ้งได้ เพราะฉะนั้นมีสติทำให้เราคิดได้ว่าเราไม่ทำนะ แม่เคยจัดวันขอบคุณลูก ลูกตกใจมากถามว่าวันนี้วันอะไรอ๋อวันขอบคุณลูก เขาบอกมีแต่วันขอบคุณแม่ เราก็บอกแม่ก็ขอบคุณลูกที่มีลูกเป็นลูก เพราะทำให้แม่มีสติในการคิด ทำให้แม่มีความสุขทุกวัน ทำให้มีแรงทำงานเพื่อจะส่งเสียลูกให้เรียนหนังสือจนจบ ตอนนี้ก็ยังเจอกันตลอดเวลา ลูกก็ยังอยู่ด้วย 3 คน ยังอยู่ด้วยที่บ้าน
อรวรรณ กาบวัง และพิธีกรรายการ ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์
หลักการสอนลูกๆ ก็คือ ให้รักษาศีล ถือศีล อันนี้เป็นเรื่องใหญ่เลยนะ คือเรื่องความก้าวหน้าในอนาคตแม่ปล่อยให้เป็นเรื่องของเขา แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะว่าสังคมต้องการสิ่งเหล่านี้มาก เพราะถ้าเขาเป็นคนดีเขาอยู่ตรงไหน เขาก็มีความสุข แม่ให้เขาคิดเสมอว่าต้องอยู่กับปัจจุบัน เพราะฉะนั้นถ้าจะทำอะไรให้แม่ให้กับตัวเอง ทำ ณ วันนี้ เพราะพรุ่งนี้อาจจะไม่มี เหมือนแม่ทำให้ลูกแทบจะไม่เคยคิดว่าตัวเองไปทำอย่างอื่นน่าจะมีความสุขมากกว่านี้ แต่พอคิดว่าต้องห่างลูก ก็ไม่ไปทำดีกว่า อยู่กับลูกดีกว่าที่จริงมีคนจะให้ไปทำงานที่เมืองนอก ซึ่งเราทำได้และก็ได้เงินมากมายมหาศาล แต่ลูกก็เป็นสิ่งที่สุดของชีวิตและ เป็นครอบครัวที่อยู่ด้วยกันตลอดไป”
เรื่องราวดีๆ ที่ครบครันทั้งสาระและบันเทิงแบบนี้ มีให้ชมในรายการ “ผู้หญิงแนวหน้ากับคุณแหน” ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทาง TNN 2 (และช่อง 120 ทางดิจิตัลทีวี) หรือ True Visions 8 ชมรายการย้อนหลังได้ที่ youtube ผู้หญิงแนวหน้า byคุณแหน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี