ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลายๆคน เกิดอาการ "ตกใจ" กับข่าวเรื่องการพบสิ่งปนเปื้อนใน "เนื้อสุกรชำแหละ" มีลักษณะเป็นจุดดำๆ ในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
- หลายคนสงสัย ว่า จุดดำๆ นั้น คืออะไร
- หลายคนคิด ว่า เนื้อหมูขึ้นราหรือเปล่า
- หลายคนเข้าใจ ว่า เป็น "ขนคุด" หรือขนที่อุดตันอยูในชั้นใต้ผิวหนัง ไม่โผล่ออกมาหรือเปล่า
- หลายคนวิตก ว่า ถ้าเผลอกินไปจะเกิดอันตรายหรือไม่
คำถามเหล่านี้ มีคำตอบ
ข้อมูลจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ข้อมูลว่า…
เนื้อสุกรดังกล่าว ที่พบจุดสีดำๆ มีลักษณะเป็นหย่อมๆ หรือเป็นวงพื้นที่ (ปริมาตร) ประมาณ 0.5 x 2.0 x 5.0 หรือประมาณ10 ตร.ซม. ซึ่งกระจายห่างๆ กัน อาจจะมีตั้งแต่ 2-30 แห่ง ที่พบเฉพาะในชั้นไขมันใต้หนังหน้าท้องบริเวณราวนม รวมทั้งผนังอก ซึ่งไม่ได้พบทุกๆ ตัวนั้น ...
จุดดำเหล่านั้น เป็นความผิดปกติที่เกิดจาการสะสมเม็ดสีชนิดเมลานิน (melanin) ซึ่งมีสีดำ คล้าย ผ้าหรือกระ พบได้ในเนื้อเยื่อไขมันบริเวณหน้าท้อง เนื้อเยื่อเต้านม เนื้อเยื่อไขมันหรือเนื้อเยื่อเกี่ยวพันบริเวณท้องใกล้เคียงกับบริเวณเต้านมของสุกรเพศเมีย เป็นความผิดปกติที่พบได้ตั้งแต่กำเนิด ในช่วงการพัฒนาเป็นตัวอ่อนระยะแรก และมักพบในสุกรสายพันธุ์สีดำ หรือลูกผสมที่มีสายพันธุ์สีดำร่วม พบได้น้อยในสุกรสีขาว ความผิดปกติชนิดนี้เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า seedy belly หรือ seedy cut สุกรเพศผู้ มีโอกาสพบได้น้อย สามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ได้ ได้มีรายงานการพบความผิดปกติที่เกิดจากการสะสมเม็ดสีเมลานินในเนื้อสุกรจากการชำแหละ
เนื้อสุกรชำแหละที่พบจุดดำในเนื้อเยื่อไขมันนี้ หากกินเข้าไป จะเป็นอันตรายหรือไม่
ยืนยันว่าไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคครับ แต่อาจจะทำให้ดูลักษณะเนื้อสุกรดูไม่สวย ไม่น่ารับประทานเท่านั้นเอง ดังนั้น ไม่ต้องตกใจครับ
ข้อแนะนำในการเลือกซื้อเนื้อสัตว์ที่ควรบริโภค
1.เนื้อสุกรควรจะสด โดยดูจากสีของเนื้อ ซึ่งสีของเนื้อวัวจะแดงมากกว่าเนื้อสุกรและเนื้อไก่ และไม่มีสีเขียวแทรกอยู่ตาม กล้ามเนื้อหรือขอบๆ ก้อน ฯลฯ เมื่อ”กด”ดูไม่มีน้ำไหลออกมาหรือบุ๋มลงอย่างชัดเจน เนื้อที่สดจะหยุ่นและแข็งเล็กน้อย ไม่มีน้ำแฉะ ๆ แทรกอยู่ตามกล้ามเนื้อ ไม่พบก้อน หรือถุงน้ำ ของพยาธิแทรกอยู่ตามกล้ามเนื้อและไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า
2. แหล่งผลิต ควรเลือกซื้อจากร้านที่สะอาด เชื่อถือได้ เนื้อสัตว์มีการเก็บรักษาคุณภาพเนื้อสัตว์อย่างถูกวิธี
3. ราคา ราคาของเนื้อต้องเหมาะกับการบริโภค และคุณภาพของเนื้อ ให้เหมาะสมการปรุงอาหาร
เมื่อเราทราบอย่างนี้แล้ว ก็คงไม่ตกใจกับจุดดำที่เกิดขึ้นกันนะครับ หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กร คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โทร 02-218-9719 www.vet.chula.ac.th
อาจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร. ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี