เพราะเกิดและเติบโตมากับ “ผ้าทอมือล้านนา” จึงซึมซับจนกลายเป็นความผูกพัน และด้วยจิตสำนึกแห่งความภูมิใจในรากเหง้าของตนเอง กลายเป็นแรงผลักดันสาวเหนือแต่คมเข้ม กันย์-เสฐลัทธ์ สมร เลือกที่จะเดินบนเส้นทางสร้างสรรค์ที่นำเอาความงดงามภูมิปัญญาผ้าทอมือล้านนาบ้านเกิด มาผสมผสานกับงานดีไซน์ จนเกิดเป็นกระเป๋าผ้าไทยร่วมสมัยในชื่อ “GUNN BAG”
กันย์ เล่าให้ฟังถึงเส้นทางการเป็นดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์กระเป๋าผ้าไทยร่วมสมัย GUNN BAG ว่า เธอเป็นคนจังหวัดน่าน จบการศึกษาปริญญาตรีจากคณะวิจิตรศิลป์ สาขาศิลปะไทย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปัจจุบันทำงานประจำในตำแหน่ง Creative and Wedding Planner ที่โรงแรมโลตัสปางสวนแก้ว จังหวัดเชียงใหม่
“หลังจากเรียนจบก็เข้าทำงานประจำ แต่ใจเราก็อยากจะทำธุรกิจส่วนตัวอะไรสักอย่าง ด้วยความที่เป็นคนชอบผ้าทอ ก็มีสะสมผ้าสวยๆ ไว้บ้าง ก็เอามาลองทำกระเป๋าสไตล์โบฮีเมียน ก็รู้สึกชอบ คิดว่ามันน่าจะขายได้ ก็ตัดสินใจทำกระเป๋าผ้าไทยขาย ก็ขายดีในช่วงแรกๆ แต่ทำไปทำมาตอนหลังรู้สึกท้อ เพราะเราออกแบบเองทำเองด้วยความรู้สึกคล้ายๆ ว่าเรากำลังใช้พื้นที่ของกระเป๋าทำงานศิลปะอยู่ แต่ลูกค้าอาจะไม่เข้าใจ เราก็รู้สึกแย่ ไม่มีกำลังใจทำต่อก็เลยหยุดทำดีกว่า”
กันย์ ยอมรับว่า ในการออกแบบกระเป๋าครั้งแรก เธอใช้ความเป็นศิลปินล้วนๆ ในการทำงาน โดยปราศจากการวางแผนที่ดีจึงไม่เกิดอนาคต แม้จะไม่ได้ทำธุรกิจต่อ แต่ความฝันก็ไม่เคยหยุดนิ่ง จนกระทั่งเกิดแรงบันดาลใจครั้งใหม่ ความผิดพลาดในครั้งเก่าจึงกลับกลายมาเป็นทุนประสบการณ์ให้เธอรู้ว่าจะก้าวอีกครั้งอย่างไรให้น่าจับตาและสง่างาม
“ตอนนั้นหยุดทำไป 3 ปี จนเมื่อได้ไปเดินศูนย์ศิลปาชีพ ได้ไปเห็นงานผ้าไทยและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงเป็นทั้งผู้ริเริ่มและทรงส่งเสริมสนับสนุนให้งานผ้าไทยแพร่หลายในมิติที่ทรงคุณค่าและทันสมัยไปพร้อมกันได้ จึงเกิดแรงบันดาลใจขึ้นมาอีกครั้ง และคิดได้ว่าในการทำงานครั้งแรกของตัวเอง เราเอาเรื่องการดีไซน์การออกแบบมาเป็นตัวกำหนด แต่ไม่มองถึงตัววัตถุดิบ นั่นคือผ้าที่เรามี เมื่อคิดได้แบบนี้กันย์เลยกลับไปศึกษาผ้าไทย ว่าผ้าแต่ละชนิดที่จะใช้มีกรรมวิธีผลิต มีลักษณะพิเศษ มีการใช้อย่างไร จากนั้นก็ค่อยมาออกแบบ ลองผิดลองถูกสร้างต้นแบบขึ้นมาเอง โดยใช้การดีไซน์ให้น้อยที่สุด เพื่อเผยความสวยงาม ความโดดเด่นของผืนผ้าให้มากที่สุด ใช้หนังและสีของหนังเข้ามาช่วย เพื่อไม่ให้งานดูเชยหรือแก่ จากนั้นเราก็ทดลองใช้เอง ลองถือกับชุดต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ดูว่ามันสามารถมีลุ๊คทันสมัยขึ้นมาไหม สังเกตการตอบรับจากคนรอบข้าง เมื่อมั่นใจแล้วก็จึงค่อยทำออกวางขาย และสร้างแบรนด์ GUNN BAG ขึ้นอีกครั้ง”
แหล่งวัตถุดิบชั้นเยี่ยมที่นำมาสร้างสรรค์เป็นกระเป๋าผ้าไทย ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ GUNN BAG บอกว่า ไม่ใกล้ไม่ไกล คือจังหวัดน่านบ้านเกิด นั่นเอง
“เราเป็นคนน่านก็กลับไปหาแหล่งทอผ้าพื้นบ้านที่นั่น ได้ช่างทอผ้าไทลื้อจากอำเภอปัว อำเภอเวียงสา และอำเภอนาน้อย คือให้อิสระในกระบวนการทอผ้าอย่างเต็มที่ เพราะมันเป็นงานฝีมือ เป็นภูมิปัญญาที่ช่างทอเขาสืบทอดกันมา เราจะไปบังคับเขาไม่ได้ ผ้าที่ได้ อาจทอไม่ตรงแนว มีด้ายนูนบ้าง เราว่ามันมีเสน่ห์ของความเป็นโฟลคอาร์ตอยู่ ส่วนงานหนังก็เป็นช่างในหมู่บ้านฝีมือดีมาช่วยตัดเย็บ ถึงแม้จะไม่มีการปอกหนังด้วยเครื่อง พับขอบ และอัดเรเซอร์เหมือนโรงงาน แต่ช่างก็ทำงานออกมาได้ดี มีการเก็บรายละเอียด เช่น ระบายสีขอบหนังเป็นการเพิ่มคุณค่าแก่งาน ก็นำตรงนั้นมาผสมผสานกับงานดีไซน์การออกแบบ จนกลายเป็นจุดเด่นของ GUNN BAG”
มาถึงวันนี้ กันย์ ได้รังสรรค์กระเป๋าผ้าไทยและสร้างแบรนด์ GUNN BAG มาครบขวบปีหมาดๆ และได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าในระดับที่น่าพอใจ นอกเหนือจากยอดขาย สิ่งที่สำคัญกว่านั่นคือ ความภาคภูมิใจ ทั้งตัวดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ ช่างทอผ้า ช่างหนัง ที่มีส่วนในสร้างสรรค์ผลงานดีๆ
“ทั้งช่างหนัง ช่างทอที่ทำงานให้เรา อาชีพหลักเขาคือเกษตรกร ทำนา ทำสวน เราก็ต้องรอ เคยคิดแว๊บๆ นะคะไปจ้างโรงงานใหญ่ๆ ดีไหม จะได้ไม่ต้องมานั่งรอ แต่พอมานั่งคิดดู เราเองก็ไม่ได้กะจะขายทีละเยอะๆ ไม่ใช่ทั้งภาพลักษณ์และความตั้งใจของกระเป๋า GUNN BAG ที่ต้องการจะเติบโตไปด้วยกันกับคนอื่นๆ เพราะทุกครั้งที่เรากลับไปสั่งผ้าไปเล่าให้คุณป้าช่างทอฟังว่าลูกค้าชอบ เขาก็จะดีใจกันมาก พวกเขาทอผ้ามาตลอดชีวิตเราถือว่าเขาเป็นคนระดับศิลปิน พองานกระเป๋าเราทำตลาดได้ ทำให้เขาทอผ้าทำในสิ่งที่เขารักต่อได้ เราก็รู้สึกดีใจด้วย และมีแรงสู้ต่อ ซึ่งจริงๆ แล้วก็ต้องขอบคุณลูกค้าที่เป็นผู้ให้โอกาสให้เราได้พัฒนาฝีมือด้วยค่ะ”
ปีที่ผ่านมา กันย์ รังสรรค์ผลงานกระเป๋าผ้าไทยร่วมสมัย GUNN BAG ออกมาถึง 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ รุ่น “ไชโย” เป็นกระเป๋าสำหรับคุณผู้ชาย รุ่น “เทิดไทย” เป็นกระเป๋าเดินทาง ส่วนรุ่น “ใจกล้า” เป็นครัชแบ็ก ดีไซน์ให้มือสอดได้ และรุ่น “ล้นเกล้า” กระเป๋าถือสำหรับผู้หญิงที่ได้รับความนิยมสูงสุด ทั้งนี้ ในทุกรุ่นยังมี “The Prestige” เป็นคอลเล็คชั่นพิเศษที่เธอนำผ้าชิ้นพิเศษที่ได้ติดตามการทำงานตั้งแต่การกรอด้าย ตั้งกี่ กระทั่งทอออกมาเป็นผืนผ้า ออกแบบด้วยความใส่ใจให้ได้ผลงานกระเป๋าใบสวยเพื่อเป็นเกียรติแก่การทำงานของศิลปินช่างทอ
“ตอนที่ทำกระเป๋าขายครั้งแรก ตอนนั้นคิดว่าตัวเองกำลังทำงานศิลปะและงานออกแบบสนองความต้องการของตนเอง รู้สึกอย่างไรก็ถ่ายทอดออกมา แต่พอมาทำ GUNN BAG รู้สึกว่าการออกแบบไม่ได้มาจากตัวเรา แต่มาจากสิ่งต่างๆ รอบตัวเรา อีกทั้ง ตัวเรายังเป็นเพียงผู้รังสรรค์ผลงานเพื่อให้ศิลปินได้ทำงานในสิ่งที่เขารัก ซึ่งมันกลับเติมเต็มเราได้มากกว่า และที่สำคัญ เราได้ช่วยอนุรักษ์งานผ้าไทยให้ยังคงมีคุณค่าและถูกนำมาใช้งานอย่างทันสมัย เป็น Back to the roots, but new in the styles. ในฐานะที่เราเรียนศิลปะมาก่อน เราไม่อยากเห็นของที่มีค่าขนาดนั้นอยู่แต่ในพิพิธภัณฑ์”
ผู้อ่านที่สนใจติดตามผลงานกระเป๋าผ้าไทยร่วมสมัย GUNN BAG ของ กันย์-เสฐลัทธ์ สมร ได้ที่ https://www.facebook.com/gunnbag
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี