สวัสดีครับ ช่วงฝนตก อากาศเปลี่ยนแปลง เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวเฉอะแฉะ อย่าว่าแต่คนที่จะเจ็บป่วยเลย น้องหมาน้องแมวก็เช่นเดียวกันครับ การเป็นหวัดก็เกิดได้เสมอครับ คอลัมน์ “Petcare ดูแลสัตว์เลี้ยง” สัปดาห์นี้ ผมมีเรื่องราวที่น่าสนใจจาก รศ.สพ.ญ.ดร.อัจฉริยา ไศละสูต แห่งภาควิชาพยาธิวิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เกี่ยวกับไข้หวัดในน้องแมวมาฝากกันครับ
โรคไข้หวัดแมว มีสาเหตุจากอะไร
โรคหวัดแมว มีสาเหตุจากเชื้อไวรัส Feline herpes virus และ Feline calici virus และมีเชื้อแบคทีเรีย เช่น Bordetella bronchiseptica และ Chlamydia psittaci ( var.felis) เป็นตัวการที่ทำให้เกิดโรคครับ
โรคนี้มีอาการอย่างไร
เชื้อไวรัสจะทำอันตรายต่ออวัยวะแต่ละส่วนที่แตกต่างกัน อาการหลักๆที่พบคือ เชื้อไวรัสจะทำให้เยื่อบุช่องปาก โดยจะพบแผลที่ลิ้นและช่องปาก แมวแสดงอาการน้ำลายไหลยืดเพราะเจ็บปาก กินน้ำไม่ได้ กินข้าวไม่ลง และทำให้เยื่อบุตาอักเสบ บวม บางทีก็เป็นแผลที่กระจกตา สังเกตเห็นได้ว่า แมวหรี่ตา เจ็บปวดมาก ทำให้ตาอักเสบไม่พอ มีขี้ตาออกมาจนแมวบางตัวตาปิดและมีขี้ตาเกรอะกรัง เพราะถ้าปล่อยไว้แล้วแมวเกิดแผลในช่องปากแล้วไม่ยอมกินอาหาร ร่างกายก็จะทรุดโทรมมากครับ
โรคไข้หวัดแมวนี้ ติดต่อกันได้อย่างไร
โรคนี้แพร่กระจายได้ง่ายมากครับ เพราะติดต่อจากการสัมผัสน้ำตาน้ำมูก การจาม หรือจากการใช้ชามข้าว ชามน้ำร่วมกันกับตัวที่ป่วย
การฆ่าเชื้อสามารถทำได้ โดยการล้างทำความสะอาด พร้อมทั้งควรตากแดดและผึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ให้แห้งสนิทด้วย เนื่องจากเชื้อโรคจะอยู่ได้นานในที่ชื้น ที่สำคัญควรแยกกรงและล้างกรงของแมวตัวที่ป่วยด้วยครับ
การวินิจฉัยโรคไข้หวัดแมวทำอย่างไร
จากอาการที่ได้กล่าวมาแล้ว โดยเฉพาะอาการปากเจ็บและตาเจ็บครับ
การรักษาทำอย่างไร
เมื่อแมวแสดงอาการของโรค ควรปรึกษาสัตวแพทย์ทันทีนะครับ โรคนี้รักษาได้ไม่ยาก แล้วก็ป้องกันได้ไม่ยากอีกเช่นกัน เนื่องจากมีวัคซีนที่ใช้ป้องกันโรคนี้ และที่สำคัญโรคนี้หลังจากที่แมวหายป่วยแล้ว แมวตัวนั้นจะยังแพร่เชื้อต่อไปได้อีกหลายสัปดาห์ จนถึงหลายเดือน ดังนั้นถ้ามีแม่แมวที่ป่วยเป็นโรคนี้ ควรระวังให้ดี โดยเฉพาะลูกแมวเนื่องจากมีโอกาสจะติดโรคนี้ได้ง่าย และไม่ควรเลี้ยงแมวรวมกันจำนวนมาก เพราะโอกาสที่จะแพร่เชื้อจากตัวหนึ่งไปสู่อีกตัวหนึ่งเกิดขึ้นได้ง่ายมากครับ
การป้องกันโรคไข้หวัดแมวทำอย่างไร
โดยการฉีดวัคซีนหวัดแมวครับ ซึ่งจะเริ่มทำในลูกแมวที่มีตั้งแต่อายุ 8 สัปดาห์ขึ้นไป หรือตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ หลีกเลี่ยงการเลี้ยงแมวรวมกันหนาแน่น หลีกเลี่ยงการสัมผัสแมวป่วย และควรทำความสะอาดหลังจากสัมผัสแมวป่วยก่อนสัมผัสแมวตัวอื่น
โรคไข้หวัดแมวนี้ ไม่ติดต่อสู่คนนะครับ ดังนั้นไม่ต้องตกใจ เพราะคนละเรื่องกับ"ไข้หวัดนกที่เกิดในแมว"อย่างที่เคยเป็นข่าวเมื่อ 2-3 ปีก่อนนี้ครับ อย่าลืมนะครับ หากมีปัญหาสุขภาพในสัตว์เลี้ยง ปรึกษา โรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โทร 02-218-9715 ทุกวันเวลาราชการครับ (คลินิกฉุกเฉินนอกเวลาราชการ ตลอด 24 ชั่วโมง)
อาจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี