ศูนย์แผ่นดินไหวแหล่งเรียนรู้ใหม่
การเกิดแผ่นดินไหวนั้นแม้จะเคยเกิดมาแล้วขนาดทำให้เมืองสุวรรณโคมคำและโยนกนาคนครล่มลงเมื่อ๑๐๐๐กว่าปีมาแล้วก็ตาม ปัจจุบันเหตุการณ์นั้นก็ยังเกิดขึ้นจนมีความเสียหายเกิดขึ้น ความจำเป็นต้องเรียนรู้ถึงวิกฤตจากแผ่นดินไหวจึงทำให้มีการศึกษาเรียนรู้กันอย่างจริงจัง อาทิตย์นี้ได้ตาม กรมทรัพยากรธรณี ไปดูศูนย์การเรียนรู้เพื่อการรับมือกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย สืบเนื่องจากเมื่อวันที่๕ พฤษภาคม ๒๕๕๗เวลา๑๘.๐๘ น.นั้นสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า จุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหวอยู่ในตำบลทรายขาว อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย และกรมทรัพยากรธรณีได้ใช้เครื่องมือตรวจวัดจนสรุปได้ว่าศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวอยู่ที่ตำบลดงมะดะ อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย เนื่องจากพบแนวรอยแยกปรากฏอยู่จำนวนมาก จนเป็นที่หวาดกลัวกันทั่วไปในบริเวณใกล้เคียง แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นจากการปลดปล่อยพลังงานของรอยเลื่อนพะเยาที่มีจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปใต้ดิน ๖ กิโลเมตร ที่ถือว่าตื้นจนทำให้มีความรุนแรงและความเสียหายเป็นอย่างมาก ด้วยแรงสั่นสะเทือนนั้นได้สร้างความเสียหายแก่สิ่งปลูกสร้างในระยะ ๓๐ กิโลเมตรจากจุดศูนย์กลาง อีกทั้งยังมีแผ่นดินไหวตามมาอีกมากกว่า๗๓๐ ครั้ง ทำให้มีการเฝ้าระวังแผ่นดินไหวตามที่อาจเกิดขึ้นจากรอยเลื่อนพะเยาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พะเยา และลำปาง แผ่นดินไหวครั้งนี้ถูกบันทึกว่าเป็นแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรง เกิดแรงสั่นสะเทือนทั้งภาคเหนือของประเทศไทยและพม่า ที่ประชาชนหลายจังหวัดภาคเหนือ รับรู้แรงสั่นสะเทือนได้
วัดอุดมวารี อ.พานเสียหาย
ความเสียหาย ส่วนใหญ่เป็นอาคารสถานที่ ทั้งโบราณสถาน สถานที่ราชการ เส้นทางคมนาคมและบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ที่รับแรงสั่นสะเทือนนั้นได้รับกว้างขวางใน ๗ จังหวัดคือเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง และกำแพงเพชร ในมาตรการหนึ่งนั้นกรมทรัพยากรธรณีได้ร่วมกับองค์กรส่วนท้องถิ่นที่ประสบภัยธรรมชาติ ร่วมกันรับผิดชอบ คือ ศูนย์การเรียนรู้แผ่นดินไหว แหล่งเรียนรู้และวิธีการป้องกันเพื่ออยู่กับเหตุการณ์ที่เป็นวิกฤตรอยเลื่อนของแผ่นดินให้ได้ ซึ่งมีนักวิชาการศึกษาอย่างเป็นระบบอย่างต่อเนื่องมาช้านาน โดยเฉพาะเรื่องธรณีวิทยา หิน แร่ ธาตุ ที่อยู่ใต้ดินแม้กระทั่งเรื่องโลกดึกดำบรรพ์ อันเป็นความรู้เฉพาะเรื่องที่มีการติดตามและศึกษาถึงรอยเลื่อน แผ่นดินไหว ที่เกิดขึ้นทั่วประเทศไทย ศูนย์การเรียนรู้แผ่นดินไหวนี้ไม่ได้เป็นนิทรรศการให้ความรู้เท่านั้นแต่เป็นศูนย์ที่สามารถประสานการทำงานระหว่างท้องถิ่นกับหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง สร้างความมั่นใจในการเฝ้าระวังภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวจากรอยเลื่อนที่มีอยู่หลายแห่ง ซึ่งนับเป็นแห่งแรกของประเทศในพื้นที่จริงที่ประชาชนต่างได้รับผลกระทบและรับรู้เหตุการณ์แผ่นดินไหว แผ่นดินแยกด้วยตนเองมาแล้ว ในอนาคตนั้นการเรียนรู้เพื่อเตรียมพร้อมป้องกันตนเองนั้นจึงเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องพร้อมยอมรับและรู้วิธีแก้ไข โดยเฉพาะการก่อสร้างอาคารที่สามารถรับแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว ตามที่วิศกรโครงสร้างศึกษาและออกแบบให้ป้องกันและไม่เสียกายได้ ดังนั้นการเรียนรู้ให้เข้าใจถึงแนวของรอยเลื่อน รู้ถึงภัยที่เกิดขึ้นจากปรากฏการณ์แผ่นดินไหวเพื่อป้องกันตนเอง รู้เส้นทางการการแยกของแผ่นดินที่เกิดขึ้น จึงเป็นความรู้ที่สามารถเผยแพร่ ออนไลน์ถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมกับมีแผนการทำงานในยามแผ่นดินไหวเกิดขึ้น
หุ่นจำลองพื้นที่แผ่นดินไหวได้
เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่สร้างความเสียหายนั้นได้เกิดก่อนแล้วในอดีต ซึ่งพบว่ามีเมืองโบราณหลายเมืองได้เสียหายไปกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว น้ำท่วมและการล่มของบ้านเรือน กล่าวคือ เมื่อพ.ศ๑๐๐๓ นั้นโยนกนาคนครได้จมลงใต้ดินหลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวมาแล้ว๓ ครั้ง พ.ศ.๑๐๗๗ เจดีย์ในแคว้นโยนกนาคนครหักลงถึง๔ แห่ง พ.ศ.๒๐๘๘ เจดีย์หลวงในเมืองเชียงใหม่ยอดหักลงจากสูง๘๖ เมตรเหลือ ๖๐เมตร พ.ศ.๒๒๕๘ แผ่นดินไหวทำให้วัดและเจดีย์ ๕แห่งในเมืองเชียงแสนถูกทำลาย และเหตุการณ์อื่นๆอีกมากมายหลายครั้งในเวลาต่อมา จัดว่าพื้นที่ภาคเหนือตอนบนจึงเป็นพื้นที่รอยเลื่อนสำคัญของแผ่นดิน ย่อมเกิดแผ่นดินไหวได้ตลอดเวลาทั้งที่รู้สึกได้และมีความรุนแรงไม่แตกต่างจากสมัยโบราณเช่นกัน
แสดงการเลื่อนของแผ่นดินแบบต่างๆ
นักธรณีผู้แกะรอยแผ่นดินไหว
แผ่นดินแยกทำถนนเสียหาย
มอบศูนย์การเรียนรู้แผ่นดินไหวให้ท้องถิ่น
ความสนใจของนักเรียนในพื้นที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี