ด้านในประตูเมือง
หัวข้อนี้หลายคนเห็นแล้วคงงงว่า Krems คืออะไร อยู่ในหมวดท่องเที่ยวหรือ Krems คือเมืองเล็ก ๆ บนแม่น้ำดานูบห่างจากเวียนนาไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 70 กิโลเมตรหรือโดยทางรถไฟประมาณ 1 ชั่วโมง เมือง Krems เป็นเมืองเก่าแก่ซึ่งถูกพูดถึงครั้งแรกในประวัติศาสตร์โดยพระเจ้าออตโตมันที่ 3 ในปี 995 แต่แท้ที่จริงแล้วเมืองนี้มีการขุดพบหลุมศพเด็กที่เก่าแก่ที่สุดของออสเตรียที่มีอายุมากถึง 32,000 ปีที่เรียกว่า Dancing Venus of the Galgenberg ซึ่งปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่ Natural History Museum ในเวียนนาด้วย
ในระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 11-12 นั้น เมืองที่มีชื่อเดิมว่า Chremis นี้มีขนาดใหญ่เท่ากับกรุงเวียนนา ที่นี่เป็นศูนย์กลางของการค้าขายและการผลิตไวน์คู่กับเมือง Stein ด้วยจึงมีสถานะที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือ มีเจ้าชายเป็นของตัวเองและสามารถเก็บภาษีได้จนทำให้เศรษฐกิจมั่งคั่ง สถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมายของเมืองนี้ได้รับการออกแบบจากผู้ก่อสร้างที่ดีที่สุดและความมั่งคั่งของเมืองก็ดึงดูดให้ศิลปินมากมายมาทำงานให้ นอกจากนี้เมื่อเมืองรุ่งเรืองและมั่งคั่งทำให้พ่อค้าอยากให้ลูกหลานได้มีการศึกษาที่ดี โรงเรียนและมหาวิทยาลัยของเมืองนี้จึงก้าวหน้ามากส่งผลให้ Krems กลายเป็นศูนย์กลางทางการค้า วัฒนธรรมและการศึกษา และเนื่องจากสถาปัตยกรรมเหล่านี้ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี โดยมิได้ถูกทำลายจากสงครามเลย เมืองนี้จึงได้รับการยกย่องว่ามีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2000
Steinetor
สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองก็คือเมืองเก่าซึ่งถูกล้อมรอบด้วยกำแพงและประตูโดยประตูใหญ่ที่สุดก็คือ Steinetor ที่มีหอคอยอยู่สองข้างอันเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15 อาคารบางแห่งในเมืองเก่ายังมีงานแกะสลักหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง บริเวณเมืองเก่ามีโบสถ์สำคัญของเมืองที่ชื่อ Pfarrkirche St. Viet ตั้งอยู่ โบสถ์คาทอลิกประจำตำบลนี้มีประวัติย้อนไปถึงสมัยพระเจ้าเฮนรี่ที่ 2 ในปี 1014 แต่ชื่อของโบสถ์ที่มาจากนักบุญ Viet นั้นเกิดขึ้นในปี 1178 ซึ่งทำให้เข้าใจว่าดั้งเดิมนั้นโบสถ์นี้ตั้งอยู่ ณ ตำแหน่งของโบสถ์ Piaristenkirche ในปัจจุบัน โบสถ์ได้ถูกสร้างใหม่อีกครั้งในปี 1616 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาโรก และได้รับการตกแต่งด้วยประติมากรรมจากฝีมือของ Matthias Gotz และ Johann Georg Schmidt หรือ Schmidt Vienna และ Fresco โดยศิลปิน Martin Johann Schmidt หรือ Kremser Schmidt ในคริสต์ศตวรรษที่ 18
Model Pfarrkirche St. Viet
ส่วนโบสถ์อีกแห่งของเมืองที่อยู่ใกล้กันแต่ต้องเดินผ่านอุโมงค์จาก Pfarrkirche ไปก็คือ Piaristenkirche โบสถ์นิกายโรมันคาทอลิกที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติกับ St. Stephen เซนต์ผู้ดูแลแคว้น Passau โบสถ์ที่ตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1284 นี้ถูกสร้างขึ้นให้เป็นโบสถ์ประจำชุมชน ต่อมาในปี 1515 โบสถ์ที่มีมุขซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามนี้ได้รับการยกระดับขึ้นให้เป็นโบสถ์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของออสเตรียตอนใต้ เมื่อโบสถ์ถูกยกให้กับนิกายเยซูอิคในปี 1616 ส่วนของหอคอยก็กลายเป็นสมบัติของเมืองไป ส่วนสำคัญของโบสถ์อีกอย่างก็คือ ระฆังของโบสถ์ซึ่งถือเป็นระฆังที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรียนั้นถูกสร้างขึ้นโดย Mathias Prininger โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางยาว 208 ซม. หนักมากถึง 5016 กิโล โบสถ์แห่งนี้ยังมีความพิเศษอีกอย่างอยู่ตรงประตูทางทิศตะวันตกนั่นคือ หินฝังศพของชาวยิวเพื่อเป็นที่ระลึกถึง Rabbi Nachifa ซึ่งคงเกิดขึ้นจากการที่ชาวยิวย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองนี้นั่นเอง
แท่นบูชา Piaristenkirche
แท่นบูชาใน Pfarrkirche St. Viet
บรรยากาศในโบสถ์ Piaristenkirche
ทางเชื่อมสองโบสถ์
รูปแกะสลักบนกำแพง
ถนนสายช็อปปิ้งในเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี