นักท่องเที่ยวที่เคยมาออสเตรียและเข้าเวียนนา และซาลส์บวร์กแล้ว เมืองใหญ่ที่น่าเที่ยวอีกเมืองหนึ่งของออสเตรียก็คือเมือง Linz เมืองทางทิศตะวันตกของกรุงเวียนนาซึ่งอยู่ห่างออกไปโดยรถไฟประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาทีหรือ 1 ชั่วโมงครึ่ง แล้วแต่รถที่ใช้ การเดินทางจากสนามบินมายังสถานีรถไฟเพื่อมาเมือง Linz นั้น นักท่องเที่ยวควรนั่งรถบัสหน้าทางออกสนามบินมาลงที่ Westbahnhof แทนการนั่งรถใต้ดินสาย Sเข้าเมือง รถไฟของออสเตรียก็เหมือนรถไฟอื่นๆ ในยุโรป แต่มีข้อดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่ใช้ Austrian Pass นั่นคือ ไม่ต้องจองทำให้การเดินทางคล่องตัวมาก ยิ่งรถไฟ railjet ด้วยแล้วยิ่งมีข้อดีมากขึ้นไปอีกเพราะมี wifi ให้ใช้ฟรีด้วย สนนราคาค่าตั๋วก็มิได้แพงมากกว่าประเทศอื่นๆ มากนัก
Pulpit
Linz เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของออสเตรียและตั้งอยู่ทางเหนือของประเทศนี้ห่างจากชายแดนของสาธารณรัฐเช็กเพียงแค่ 30 กิโลเมตรเท่านั้นโดยมีประชากรเพียงแค่ 191,000 คน เมืองที่ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยโรมันในปี 799 นี้
เป็นศูนย์กลางในการเดินทางบนแม่น้ำดานูบซึ่งเชื่อมระหว่างทิศตะวันออกและตะวันตก รวมทั้งโปแลนด์และบอลข่านด้วย ในสมัยพระเจ้าFriedrich ที่สามนั้น เมืองนี้มีความสำคัญที่สุด พระองค์เสด็จมาประทับอยู่จนกระทั่งสิ้นพระชนม์ หลังจากนั้นเมือง Linz จึงหมดความสำคัญลง
Ursuline Church
นอกจากพระเจ้า Friedrich ที่สามแล้ว ฮิตเลอร์เป็นอีกคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเมือง Linz ตั้งแต่เด็ก แม้เขาจะมิได้เกิดเมืองนี้ก็ตาม แต่เขาถือว่าที่นี่เป็นบ้านเกิดเพราะเขาเรียนหนังสือที่นี่ตั้งแต่เด็ก เขาจึงได้สร้างสถาปัตยกรรมมากมายที่นี่เพราะเขาต้องการให้เมือง Linz เป็นศูนย์กลางของ The Third Reich หรือจักรวรรดิเยอรมันในสมัยนั้น Linz อยู่ในตำแหน่งที่สวยงามของแม่น้ำดานูบจึงเป็นเส้นทางกษัตริย์ นั่นคือ เส้นทางที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 7 แห่งฝรั่งเศสและพระเจ้า Friedrich Barbarossa มาเยี่ยมเยือน อีกทั้งยังเป็นเส้นทางที่เจ้าหญิง Sisi ซึ่งต่อมาคือพระนางเจ้า Elisabeth แห่งราชวงศ์ Habsburg เดินทางเพื่อมาเป็นเจ้าสาวจาก Straubing ยัง Passau ยิ่งกว่านั้นเมืองนี้ยังเป็นเมืองศูนย์กลางทางด้านศิลปะและดนตรีจนได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองศูนย์กลางของวัฒนธรรมยุโรปในปี 2009 อีกด้วย
แท่นบูชาด้านข้าง
โบสถ์แห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวมักเดินผ่านจากสถานีรถไฟไปยัง Hauptplatz ก่อนตรงไปยังแม่น้ำดานูบก็คือ Ursuline Church โบสถ์นิกายโรมันคาทอลิกที่ตั้งอยู่บนถนน Landstrasse นี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1736 โดยได้รับการออกแบบจาก Johann Haslinger โบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบบาโรคและมีหอคอยสองด้านนี้มีแท่นบูชาที่ตกแต่งอย่างสวยงามอยู่หลายแท่นโดยได้รับการออกแบบจากศิลปินหลายคน เช่น Bartolomeo Altomonte หรือ Bartholomaus Hohenberg ศิลปินชาวออสเตรียที่เกิดใน Warsaw, Martino Altomonte ศิลปินชาวอิตาลี ส่วนบริเวณมุขก็ตกแต่งด้วยรูปปั้นหินอ่อนของนางฟ้าที่มือข้างหนึ่งถือไม้กางเขนอีกข้างถือขวดน้ำมนต์นั่งอยู่บนโลกและล้อมรอบด้วยเทวดาตัวน้อย แม้โบสถ์นี้จะมิใช่โบสถ์สำคัญที่นักท่องเที่ยวมักเยี่ยมเยือน แต่ก็เป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่มีตัวอย่างสถาปัตยกรรมและแท่นบูชาที่เป็นศิลปะบาโรคอันเป็นแนวทางศิลปะยอดนิยมของออสเตรียให้ดูเช่นกัน
แท่นบูชาใหญ่
พระแม่มารี
ถนนสายช็อปปิ้งวันอาทิตย์
บรรยากาศในโบสถ์
บรรยากาศในเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี