“เจ้านายราชตระกูลตั้งแต่ลูกฉันเป็นต้นลงไป ตลอดจนถึงราษฎรที่ต่ำที่สุดจะให้ได้มีโอกาสเล่าเรียนได้เสมอกัน ไม่ว่าเจ้า ว่าขุนนาง ว่าไพร่ เพราะฉะนั้น จึงขอบอกได้ว่าการเล่าเรียนในบ้านเมืองเรานี้จะเป็นข้อสำคัญที่หนึ่ง ซึ่งฉันจะอุตส่าห์จัดขึ้นให้เจริญให้จงได้” (พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5)
ประเทศไทยเจริญก้าวหน้ามาได้จนทุกวันนี้ ส่วนสำคัญประการหนึ่งก็สืบเนื่องมาจาก พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่เปรียบประมาณมิได้ของล้นเกล้าล้นกระหม่อมรัชกาลที่ 5 สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
เมืองสยามในยุครัชกาลที่ 5 มีความเจริญสูงสุดเมื่อเทียบกับประเทศญี่ปุ่น และ ประเทศอื่นๆ ในทวีปเอเชียด้วยกันเอง รวมถึงมีความเจริญยิ่งกว่ายุโรปบางประเทศด้วยซ้ำไป เพราะพระปรีชาสามารถอันวิเศษและสายพระเนตรอันยาวไกลของพระพุทธเจ้าหลวงที่ทรงมีพระราชประสงค์จะให้สยามเจริญก้าวหน้า
เนื่องในวาระแห่งการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า ในวันปิยมหาราชปีนี้ คอลัมน์ตะลอนเที่ยวจึงขอนำคุณไปน้อมรำลึกถึงสถานที่ต่างๆ ในประเทศไทยอันเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าหลวง พระผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของชาวสยามตราบชั่วฟ้าดินสลาย
สถานที่แห่งแรกที่จะพาคุณไปคือพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2419 ประกอบด้วย ปราสาทสามองค์และแต่ละองค์เชื่อมต่อกันด้วยมุขกระสัน มีรูปแบบสถาปัตยกรรมไทยผสมกับสถาปัตยกรรมยุโรป จึงถูกเรียกว่า ฝรั่งสวมชฎา
สถานที่ต่อมาคือพระที่นั่งวิมานเมฆ พระที่นั่งไม้สักทองที่ใหญ่และงดงามที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในพระราชวังดุสิต สร้างเมื่อ พ.ศ.2443 โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รื้อพระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ จากเกาะสีชังมาก่อสร้าง เป็นสถาปัตยกรรมแบบวิกตอเรียผสมกับสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์
สถานที่ต่อมาคือ พระจุฑาธุชราชฐาน ณ เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี พระราชวังฤดูร้อนในล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 ก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.2435
สถานที่ต่อมาคือ พระราชวังบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดิมเป็นพระราชวังที่พระมหากษัตริย์สมัยกรุงศรีอยุธยาทรงใช้ประทับแรม และในกาลต่อมาล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะครั้งใหญ่และทรงให้สร้างพระที่นั่งและพระตำหนักต่างๆ ขึ้นเพื่อใช้ประทับและรับรองพระราชอาคันตุกะ
สถานที่ต่อมาคือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งถือกำเนิดจากโรงเรียนสำหรับฝึกหัดวิชาข้าราชการฝ่ายพลเรือน ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งขึ้น ณ ตึกยาวข้างประตูพิมานชัยศรี ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อ พ.ศ.2442 และได้รับพระบรมราชานุญาตให้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนมหาดเล็ก เมื่อ 1 เมษายน พ.ศ.2445 กาลต่อมา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระอนุสรณ์คำนึงถึงพระบรมราโชบายในสมเด็จพระบรมชนกาธิราชที่จะให้มีมหาวิทยาลัยขึ้นสำหรับเป็นสถาบันอุดมศึกษาของชาวสยาม แล้วสมควรขยายการจัดการศึกษาเพื่อสนองความต้องการในการพัฒนาประเทศ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาโรงเรียนมหาดเล็กเป็นสถาบันอุดมศึกษา พระราชทานนามว่า “โรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” เมื่อ 1 มกราคม 2453 และต่อมาเมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ.2458 รัชกาลที่ 6 เสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์อาคารหลังแรกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ ทุ่งพญาไท
สถานที่ต่อมาคือโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ณ พระตำหนักสวนกุหลาบ ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2425 และในที่สุดโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยก็ได้ลงหลักปักฐาน ณ ตึกแถวหลังยาววัดราชบูรณะ เมื่อ พ.ศ.2453
และสถานที่ซึ่งสืบเนื่องกับล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 อีกสองแห่งที่อยากจะพาคุณๆ ไปรู้จักคือ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และโรงเรียนนายเรือ สำหรับโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้านั้นถือกำเนิดมาตั้งแต่ พ.ศ.2411 เริ่มจากทหารมหาดเล็กไล่กา แล้วพัฒนาขึ้นเป็นลำดับ จนกระทั่ง 1 มกราคม 2491 จึงใช้ชื่อว่าโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ส่วนโรงเรียนนายเรือก็ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2440 ในสมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 เช่นกัน เดิมตั้งอยู่ในบริเวณพระราชวังเดิม กรุงธนบุรี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2449 และเมื่อปี พ.ศ.2495 จึงได้ย้ายโรงเรียนนายเรือไปอยู่ที่ป้อมเสือซ่อนเล็บ ถนนสุขุมวิท อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นที่ตั้งในปัจจุบันนี้
ที่กล่าวมาทั้งหมดในข้างต้นนี้เป็นแค่เพียงเศษเสี้ยวส่วนหนึ่งในพระมหากรุณาธิคุณ อันไพศาลของสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย และด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่เปรียบประมาณมิได้นี้ พสกนิกรไทยจึงถวายความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่านเสมอมา และตลอดไป ตราบชั่วฟ้าดินสลาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี