เทิดพระเกียรติ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ในงาน ‘คิดถึง...สมเด็จย่า’ ครั้งที่ 18
น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการพัฒนาประเทศ, สังคมสงเคราะห์, การศึกษา, การแพทย์ พยาบาล สาธารณสุข, การกีฬา, การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฯลฯ เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด,บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงานนิทรรศการ “คิดถึง...สมเด็จย่า” ครั้งที่ 18 ภายใต้แนวคิด “สุขภาพพลานามัย” โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงาน ณ แกรนด์ฮอลล์ ชั้น 1 สยามดิสคัฟเวอรี่ โดยมี ธารินทร์ นิมมานเหมินท์ ประธานกรรมการบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด, เกตุวลี นภาศัพท์, พาสินี ลิ่มอติบูลย์, ชฎาทิพ จูตระกูล, ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ, ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล, คุณหญิงพวงร้อย ดิศกุล ณ อยุธยา, ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร, ศ.เกียรติคุณ นพ.ศุภชัย ไชยธีระพันธ์, คณะกรรมการมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ, ผู้บริหารบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ตลอดจนคณะผู้บริหาร เฝ้าฯรับเสด็จ
ภายในงานจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “สุขภาพพลานามัย” สื่อถึงพระราชปณิธานและพระราชกรณียกิจอันทรงคุณค่า ผ่านนิทรรศการพระฉายาลักษณ์ที่หาชมได้ยาก เริ่มต้นจากโซนที่ 1 “อโรคยา ปรมาลาภา” ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงอภิบาลพระโอรสพระธิดาให้มีพระพลานามัยที่สมบูรณ์ มีสุขภาพที่ดี มีพระราชดำริว่า “ต้องร่างกายแข็งแรงก่อน แล้วจิตใจจึงเข้มแข็ง ทำอะไรก็ได้” เมื่อมีโอกาสจะทรงกีฬาอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้เพื่อสุขภาพ คือ ความปราศจากโรค และเพื่อพลานามัย คือ ภาวะของร่างกายที่แข็งแรง และไม่มีโรค โซนที่ 2 “สมเด็จย่า” ทรงอภิบาลพระราชนัดดา เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯไปทรงเจริญสัมพันธไมตรีในต่างประเทศ “สมเด็จย่า” ทรงรับอภิบาลพระราชนัดดา โดยเสด็จฯ ไปทรงพักผ่อนพระราชอิริยาบถในป่าในเขา และทรงเรียนรู้เรื่องธรรมชาติในประเทศไทยเป็นเนืองนิจ และทรงสอนให้พระราชนัดดาช่วยเหลือพระองค์เองมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โซนที่ 3 “การทรงกีฬาเพื่อออกกำลังพระวรกาย” ทรงให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง เพื่อจิตใจจะได้เข้มแข็ง เรื่องนี้ทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่างที่ดี ด้วยสุขภาพพลานามัยเป็นสิ่งสำคัญต่อการที่จะทรงประกอบพระราชกรณียกิจในการเยี่ยมประชาชนชาวไทย โดยในสมัยที่จราจรไม่คับคั่ง จะทรงม้าจากกองพันทหารม้า สนามเป้า ไปตามถนนสายต่างๆ นอกจากนี้ยังทรงออกกำลังพระวรกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะทรงแบดมินตัน กอล์ฟเล็ก และทรงม้า เป็นต้น โซนที่ 4 “กีฬาเปตอง” เมื่อทรงมีพระชนมายุสูงแล้วสมเด็จย่าทรงกีฬาเปตองอย่างสม่ำเสมอ ในยามที่เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรยังที่ต่างๆ โปรดที่จะจัดให้มีการแข่งขันกีฬาเปตองระหว่างข้าราชบริพารและข้าราชการที่รับเสด็จในการประทับแรมในต่างจังหวัด ด้วยทรงมีพระราชวินิจฉัยว่าเป็นการกระชับสัมพันธไมตรีและความสามัคคี และจะพระราชทานรางวัลเพื่อเป็นกำลังใจแก่ผู้แข่งขัน โซนที่ 5 “พระเมตตาต่อผู้เจ็บป่วย” ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจที่เป็นประโยชน์ต่อการสังคมสงเคราะห์ ทรงช่วยเหลือกิจการการแพทย์ พยาบาล การสาธารณสุข การศึกษาและการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างใกล้ชิด ทรงริเริ่มโครงการแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว. เมื่อ พ.ศ.2512 เป็นการให้โอกาสผู้ที่อยู่ในท้องถิ่นห่างไกลคมนาคม ได้รับการดูแลจากแพทย์อาสาให้มีพลานามัยที่สมบูรณ์ ปราศจากโรค มีเรี่ยวแรงที่จะทำมาหาเลี้ยงชีพ เกื้อหนุนตนเองและครอบครัวได้ โซนที่ 6 “เวลาเป็นของมีค่า” สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ไม่ทรงปล่อยเวลาว่างให้เปล่าประโยชน์ เมื่อมีเวลาว่างจะทรงงานฝีพระหัตถ์ต่างๆ ทรงมุ่งมั่นที่จะประกอบพระราชกรณียกิจอย่างสม่ำเสมอ ความเจ็บไข้ได้ป่วยก็เป็นธรรมดาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อต้องประทับรักษาพระองค์ในโรงพยาบาลก็ทรงใช้เวลาว่างในการทรงงานฝีพระหัตถ์ เพื่อพระราชทานสำหรับหารายได้มอบให้การกุศล โซนที่ 7 “การทำให้ชีวิตมีสุข” สมเด็จย่าโปรดดอกไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดอกไม้ภูเขา ที่มักทรงเก็บมาจัดใส่ภาชนะต่างๆ และทรงนำมาทับแห้งเป็นงานฝีพระหัตถ์ เช่น ที่คั่นหนังสือ การ์ดอวยพรต่างๆ การปลูกดอกไม้ก็เป็นงานอดิเรกที่โปรด และเป็นการออกกำลังพระวรกายไปด้วย ทรงตระหนักถึงการรักษาพระสุขภาพ และพระวรกายอย่างสม่ำเสมอ โดยพระราชทานพระราชดำริกับข้าราชบริพาร และผู้ที่มาเฝ้าทูลละอองพระบาทว่า เพื่อให้ชีวิตมีสุข ก็ต้องหมั่นสำรวจตัวเอง คือ ฝึกอบรมจิต นำธรรมะมาใช้ในชีวิตประจำวัน
โซนสุดท้าย โซนที่ 8 “โครงการณรงค์ป้องกันโรคหัวใจในพระราชูปถัมภ์” สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเคยทรงประชวรด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ซึ่งครั้งนั้นทรงปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดและทรงหายในระยะเวลา
อันสั้น ทรงตระหนักถึงภัยโรคพระหทัยที่เกิดแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญต่อการให้ความรู้
เกี่ยวกับโรคหัวใจแก่ประชาชนทั่วไป จึงทรงรับ “โครงการรณรงค์ป้องกันโรคหัวใจ มหาวิทยาลัยมหิดล” เป็นโครงการในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ปัจจุบันดำเนินโครงการโดยศูนย์โรคหัวใจสมเด็จพระบรมราชินีนาถ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าสนใจ คือ โซนการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน จากโรงพยาบาลศิริราช ซึ่ง ณ โซนนี้
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงทดลองทำบอลลูนหัวใจผ่าน “เครื่องสาธิตการทำบอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจ” ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับผ่าตัดให้กับผู้ป่วยหลอดเลือดหัวใจตีบด้วย นอกจากนี้ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมงานทุกคนได้สัมผัสและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ หลากหลายชนิด จากฝีมืออันประณีตของชาวบ้าน และช่างฝีมือในโครงการพัฒนาดอยตุง ซึ่งจัดทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับนำมาจำหน่ายในงานนี้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น ผ้าทอมือที่คัดมาเฉพาะชิ้นที่มีคุณภาพเยี่ยม งานเซรามิกเนื้อดีในหลากหลายรูปแบบ ไม้ดอกไม้ประดับนานาพันธุ์ที่ล้วนงดงาม และยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ นำมาให้เลือกสรรมากมายภายในงานอีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี