จากผลการวิจัยของ สถาบันสุขภาพ นิวทริไลท์ (Nutrilite Health Institute Center for Optimal Health) ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารบริติช เจอร์นัลออฟ นิวทริชั่น (British Journal of Nutrition) ฉบับเดือนกันยายน 2557 และเพิ่งได้รับการตีพิมพ์ในรายงานโกลบอล ไฟโตนิวเทรียนท์ (Global Phytonutrient Report) ฉบับใหม่ล่าสุด ชี้ให้เห็นว่า ประชากรกลุ่มผู้ใหญ่จำนวนตั้งแต่ 60-87% ในเขตพื้นที่ที่มีการสำรวจใน 13 ภูมิภาค* ทั่วโลกนั้น รับประทานผักและผลไม้น้อยเกินไป จึงทำให้ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอที่จะส่งผลให้ร่างกายมีสุขภาพดี และต้องรับประทานผักและผลไม้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยหนึ่งเท่าตัวของปริมาณที่รับประทานอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้ได้ปริมาณตามคำแนะนำขององค์การ อนามัยโลก (WHO) คือ 400 กรัม ซึ่งเป็นสัดส่วนที่จะให้ผลดีต่อสุขภาพ
ดร.คีธ แรนดอล์ฟ นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการของสถาบันสุขภาพนิวทริไลท์ และหนึ่งในทีมวิจัย เผยว่า จำนวนประชากรถึง 3 ใน 4 ของกลุ่มประชากรผู้ใหญ่ทั่วโลก ยังได้รับไฟโตนิวเทรียนท์ที่ขาดความหลากหลายและไม่เพียงพอต่อการมีสุขภาพดี ไฟโตนิวเทรียนท์หรือสารอาหารตามธรรมชาติที่พบในพืชต่างๆ ทำหน้าที่คอยปกป้องพืชจากศัตรูตามธรรมชาติ รวมทั้งป้องกันการเกิดความเครียดทางกาย และการเกิดสารอนุมูลอิสระ ไฟโตนิวเทรียนท์ทำให้พืชมีสีสันต่างๆ
“การรับประทานสีต่างๆ ในอาหาร จะทำให้ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ส่งผลต่อการมีสุขภาพอนามัยที่ดี นอกจากนี้ ไฟโตนิวเทรียนท์ยังมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการต้านอนุมูลอิสระ การเติบโตของเซลล์อย่างสมดุล ช่วยฟื้นฟูความเสียหายของเซลล์ต่างๆ ในร่างกายและกระตุ้นการตอบสนองของภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยบำรุงสายตา กระดูก หัวใจไปจนถึงระบบสมองและระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย
แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีข้อกำหนดสากลของปริมาณไฟโตนิวเทรียนท์ที่มนุษย์ควรได้รับต่อวัน แต่การวิจัยจำนวนมากมีผลลัพธ์ที่สอดคล้องกันว่า การรับประทานอาหารที่มีไฟโตนิวเทรียนท์ หรือสารออแกนิกส์ที่พบได้ในผักและผลไม้จำนวนมากนั้น ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพนานัปการ แต่ยังเป็นเรื่องน่าเสียดายที่คนส่วนใหญ่ยังไม่เห็นความสำคัญและตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างการรับประทานผักและผลไม้ รวมถึงปริมาณไฟโตนิวเทรียนท์ที่ร่างกายควรได้รับ”
นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ กล่าวต่อว่า ปริมาณและความหลากหลายของผักและผลไม้ที่เรารับประทานนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่าเราจะอาศัยอยู่ในภูมิภาคใดบนโลกใบนี้ เราควรรับประทานผักและผลไม้ในทุกๆ โอกาสที่
สามารถทำได้ โดยปริมาณที่แนะนำคือ 400-500 กรัมต่อวัน หากอยู่ในพื้นที่ที่ผักหรือผลไม้มีน้อยหรือไม่หลากหลาย การรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเพิ่มปริมาณไฟโตนิวเทรียนท์ที่ร่างกายต้องการได้
ทั้งนี้ ประโยชน์ของสารไฟโตนิวเทรียนท์แยกตามสีของผักผลไม้ได้ดังนี้ สีแดง เช่น ไลโคปีน พบมากในมะเขือเทศ ช่วยบำรุงต่อมลูกหมาก และมีช่วยบำรุงปอดและหัวใจ, สีเขียว เช่น ลูทิอีน และซีแซนทิน พบมากในบร็อคโคลี่ ผักกาดเขียวช่วยบำรุงสายตา, สีขาว เช่น เคอเวทินพบมากใน หอมหัวใหญ่ แอปเปิ้ล ช่วยบำรุงกระดูกและข้อต่อ, สีม่วง เช่น แอนโธไซยานิน พบมากในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ อาทิ บลูเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ ช่วยบำรุงสมอง และบำรุงหัวใจ ส่วนสีเหลืองและส้ม เช่น เบต้า-แคโรทีน พบมากในแครอท ฟักทอง ช่วยบำรุงสายตา และบำรุงหัวใจ เฮสเพอริดิน พบมากในผลไม้ตระกูลส้ม ช่วยบำรุงหลอดเลือดแดง
นอกจากนี้ การให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย ควบคุมอารมณ์ให้แจ่มใส เบิกบาน หาทางสลัดความเครียดออกจากตัวเอง หลีกเลี่ยงเหล้าและบุหรี่ ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ และทำให้มีอายุยืนยาวอย่างน่าอัศจรรย์
หมดเวลาหาข้อแก้ตัวให้กับตนเอง และหันมาเพิ่มสีสันให้กับชีวิต รับประทานผักและผลไม้หลากสีสันให้มากๆ ทุกวัน เพราะสุขภาพดีเริ่มได้ง่ายๆ ที่ตัวคุณเอง
ดร.คีธ แรนดอล์ฟ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี