สวัสดีครับท่านเจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกท่าน เดือนที่ผ่านมา ผมได้คุยให้ฟังถึงสารพันปัญหาเรื่องคันๆ เกี่ยวกับผิวหนังของสัตว์เลี้ยง มาตลอดทั้งเดือนเลยนะครับ หวังว่าคงเป็นข้อมูลในการป้องกันและดูแลผิวหนังและขนของสัตว์เลี้ยงกันได้พอสมควรครับ
สำหรับสัปดาห์นี้ ผมมีมุมมองดีๆ จาก ผศ.น.สพ.ชาตรี คติวรเวช แห่งภาควิชาสัตวบาล คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ สำหรับท่านที่ยังไม่เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง แต่กำลังครุ่นคิดอยู่ว่า จะเลี้ยงสัตว์ดีหรือไม่ ถ้าเลี้ยงจะเลี้ยงสัตว์ชนิดใดดี แล้วเราจะต้องเตรียมตัว หรือดูแลสัตว์เลี้ยงนั้นอย่างไรบ้าง ให้ไตร่ตรองกันสักนิด หากคิดจะมีสัตว์เลี้ยง...ครับ
วันว่างอย่างเสาร์-อาทิตย์นั้น ตลาดนัดสวนจตุจักร หรือสนามหลวง 2 ก็มักจะเป็นสถานที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่เดินเล่นและช็อปปิ้งในยามว่างของคนหลายกลุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เพื่อความเพลิดเพลิน และเพื่อความผ่อนคลาย แต่ในขณะที่เดินอยู่นั้น ถ้าพลันเหลือบไปเห็นร้านค้าซึ่งสัตว์ที่มีหน้าตาน่ารัก ถูกชะตา หลายท่านอยากเป็นเจ้าของ หลายท่านก็จะปรี่เข้าไปสอบถามข้อมูลและราคา เมื่อถูกใจก็จะซื้อเลยทันที
แต่คุณเคยคิดบ้างไหมครับว่า ชะตาชีวิตของสิ่งมีชีวิตตัวนั้น จะฝากไว้กับคุณทันที (ทันทีที่จ่ายเงินให้กับผู้ขาย) และคุณเคยคิดอีกไหมว่า สัตว์เลี้ยงชนิดนั้น มีวิถีการดำรงชีวิตอย่างไร กินอะไรเป็นอาหาร ชอบที่อยู่อย่างไร ใช้ชีวิตประจำวันอย่างไร คุณอาจทราบเพียงอย่างเดียวว่า “ฉันอยากได้” และ “ฉันจะเอาตอนนี้ ไม่งั้นคนอื่นคงแย่งซื้อไปก่อนแน่นอน”
.... ท่านผู้อ่านเคยมีความรู้สึกเช่นนี้หรือไม่ครับ
ถ้าคำตอบคือ “เคย” แล้วล่ะก็ ผมอยากให้ทุกท่าน ได้ลองคิดกันอีกนิด เตือนสติตัวเองสักนิดก่อนซื้อ ไม่ได้หมายความว่า ไม่ให้ซื้อนะครับ แต่อยากให้คำนึงอีกสักนิดก่อนจะซื้อ ว่ามีความพร้อมในการรับผิดชอบอีกหนึ่งชีวิตแล้วหรือยัง และที่สำคัญทราบข้อจำกัดของสัตว์ชนิดนั้นหรือไม่
นอกจากนี้ ไม่ว่าคิดจะซื้อสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตให้ใครเป็นของขวัญ หรือให้เป็นของขวัญสำหรับตนเองในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ก็ตาม โดยเฉพาะใกล้เทศกาลปีใหม่อย่างนี้ เรามาลองดูกันหน่อยว่า ควรเราจะต้อง “เตรียมตัว” และ “สิ่งที่ต้องคำนึงถึง” นั้น มีอะไรบ้าง
1.ชีวิตความเป็นอยู่ อาหารการกิน การขับถ่าย การสืบพันธุ์ พฤติกรรมต่างๆ โดยเฉพาะการเจริญเติบโตในช่วงโตเต็มวัยนั้น อาจทำให้ความน่ารัก ความสวยงามในยามเด็กเมื่อแรกซื้อมา หมดสิ้นไปได้ เพราะอาจเหลือเพียงแต่ความดุร้าย ปากเปราะ และไม่น่ารักอีกต่อไปก็เป็นได้ ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว มีความเป็นไปได้สูงทีเดียวที่ชะตากรรมของสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ คงหนีไม่พ้นการถูกปล่อยทิ้งที่วัด ตามโรงเรียน คลินิก โรงพยาบาลสัตว์ หรือตามสถานที่ที่มีผู้ใจบุญมาให้อาหาร กลายเป็นปัญหาทางสังคมที่เห็นได้ในปัจจุบันอย่างแน่นอนครับ
2.วัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็น (จริงๆ) ต่อการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงชนิดนั้น มีพร้อมหรือยัง เช่น ถ้าจะเลี้ยงปลาก็ต้องมีตู้หรือภาชนะในการเลี้ยง ต้องใช้น้ำชนิดใด น้ำจืด น้ำกร่อย หรือน้ำเค็ม ต้องมีเครื่องปั๊มลมเพื่อเพิ่มออกซิเจนด้วยหรือไม่ หรือถ้าจะเลี้ยงนกก็ต้องมีกรง ภาชนะใส่อาหารและน้ำที่เหมาะสมด้วย เป็นต้น
3.อาหารที่กินคืออะไร สัตว์เลี้ยงที่ซื้อมานั้น ไม่สามารถหากินเองได้ หากหลุดหรือหนีออกไปแล้ว มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะอดตาย ดังนั้น ชีวิตน้อยๆ เหล่านั้น ฝากไว้ในอุ้งมือของท่าน จะบีบก็ตาย จะคายก็รอด ก่อนตัดสินใจซื้อ กรุณาคิดสักนิด (คิดนานๆ) ว่า ท่านมีเวลา และมีความรับผิดชอบต่อชีวิตเขาจริงหรือไม่ และมีมากน้อยเพียงใด อย่าซื้อเพียงแค่ตามแฟชั่น โชว์อวดร่ำอวดรวย หรือเห่อเป็นพักๆ พอเบื่อหน่ายก็ไม่สนใจ อย่างนี้ไม่ได้เด็ดขาดครับ เพราะสัตว์เลี้ยง เป็น “สิ่งมีชีวิต” ต้องการการดูแลตลอดไป ไม่ใช่ตุ๊กตาหรือเกม ที่หากลืมดูแลแล้วตาย ก็ไม่สามารถกดปุ่ม restart ขึ้นมาใหม่ได้
4.คุณมีเวลาว่าง ที่จะอยู่ เล่น เลี้ยง ดูแล และให้ความรักแก่เขามากน้อยเพียงใด ถ้ายังไม่มีเวลาในตอนนี้ ควร “รอ” จนกว่าคุณจะมีเวลาเพียงพอกว่านี้ จะดีกว่าไหม? โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่สัตว์ที่คุณเลี้ยงเกิดอาการเจ็บป่วย เวลาของคุณเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเขามาก จะอ้างว่าไม่มีเวลา คงไม่ได้เด็ดขาด
ดังนั้น อยากเรียนย้ำว่า ก่อนเลี้ยงสัตว์ชนิดไหน ก็ควรจะต้องถามตัวเองก่อน และคิดเพิ่มอีกสักนิดว่า “เรารู้จักเขาดีพอแค่ไหน” “เราพร้อมหรือยังที่จะเลี้ยงและรับผิดชอบชีวิตน้อยๆ ที่จะขึ้นอยู่กับคุณเท่านั้น” และ “ผลกระทบต่อชีวิตและเพื่อนบ้านหรือคนอื่นๆ มีมากหรือน้อยแค่ไหน”...หากคำตอบของคุณสื่อความหมายว่า “พร้อมแล้ว” ละก็ ลุยได้เลยครับ! สัตว์เลี้ยงเหล่านั้น จะได้มีเจ้าของที่เหมาะสมก็การเลี้ยงดูจริงๆ เสียทีครับ
ก่อนลากันไปวันนี้ ผมมีข่าวฝากที่น่าสนใจที่เหมาะกับผู้รักสัตว์อย่างแฟนคอลัมน์ pet care ครับ ที่สำคัญคือ “ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ” อีกด้วย
วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2557 เวลา 08.30-12.00 น. ทางภาควิชาสัตวบาล ร่วมกับ โรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดโครงการบริการให้ความรู้แก่เจ้าของสุนัขและแมว เรื่อง “การดูแลสุนัขและแมวที่เจ็บป่วยด้วยตัวเองอย่างง่ายๆ” โดยมีวิทยากรหลายท่าน หนึ่งในนั้นคือ ผศ.น.สพ.ชาตรี คติวรเวช ผู้ให้แง่คิดในการเลี้ยงสัตว์ในบทความข้างต้นนี้เองครับ สถานที่จัดคือ โรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ที่สนใจ สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ 02-2189678-9 ในวันเวลาราชการ เพียง 50 ท่านเท่านั้น งานนี้พลาดไม่ได้นะครับ
อาจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และเสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี