เฉลียว ปรีกราน
เนรมิต ‘ยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค’ แลนด์มาร์คใหม่ที่ปากคลองตลาด
หากใครมีโอกาสได้ไป “ปากคลองตลาด” ย่านการค้าดอกไม้ ผัก ผลไม้ ขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศจะเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยของแผงค้า สภาพภูมิทัศน์ที่แลดูสะอาด โปร่งตาขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ทั้งนี้ เป็นฝีมือของการบริหารจัดการของ กลุ่มบริษัทยอดพิมาน จำกัด ภายใต้การนำของ เฉลียว ปรีกราน ที่ต้องการปรับโฉมปากคลองตลาดลุคใหม่ ที่ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ซื้อขายสินค้า แต่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้ผู้ค้าในตลาดและประเทศไทย
เฉลียว ปรีกราน ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท ตลาดยอดพิมาน จำกัด เท้าความถึงตลาดเก่าแก่ที่มีความเป็นมายาวนาน และน้อยคนจะรู้ที่เราๆ เรียกกันว่าติดปากคลองตลาด ว่าไม่ได้มีแค่ตลาดเดียว หากจะเรียกให้ถูกต้องต้องเรียกว่า ย่านปากคลองตลาด ซึ่ง ประกอบด้วย 3 ตลาดใหญ่ ได้แก่ ตลาดปากคลองตลาด ซึ่งเป็นตลาดค้าส่ง-ปลีก ผัก ผลไม้ ภายใต้การกำกับดูแลของ องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย ตลาดยอดพิมาน เป็นตลาดค้าส่ง-ปลีก ดอกไม้ เจ้าของคือ บริษัท สุดาศิริ จำกัด ของ หม่อมราชวงศ์สุนิดา กิติยากร และตลาดส่งเสริมเกษตรไทยเป็นของเอกชนรายหนึ่ง มีเนื้อที่รวมกันทั้งหมดกว่า 20 ไร่ ส่งผลให้ปากคลองตลาด เป็นตลาดผักผลไม้ ดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่ติดอันดับที่ 4 ของตลาดดอกไม้ทั่วโลก และยังเป็นตลาดกล้วยไม้ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3ของโลกอีกด้วย
“สภาพในขณะนั้น ตลาดปากคลองตลาดทรุดโทรม แออัด ไม่เป็นระเบียบ ไม่ถูกสุขลักษณะ ประกอบกับผู้เช่าพื้นที่ใช้พื้นที่อย่างผิดประเภท เพราะขาดการพัฒนาปรับปรุงมานานกว่า 50 ปี เมื่อกลุ่มยอดพิมานได้รับสัมปทานจากองค์การตลาด เข้ามาบริการจัดการตลาดปากคลองตลาด จึงได้เร่งพัฒนาโครงการแบบเร่งด่วนในการปรับปรุงให้เป็นตลาดที่ถูกสุขลักษณะมากขึ้น จนตลาดปากคลองตลาดมีสภาพที่ดูสะอาดเรียบร้อยอย่างที่เห็นในปัจจุบัน แต่ทั้งหมดก็ยังต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนตลาดยอดพิมาน เราได้ซื้อจาก ม.ร.ว.สุนิดา กิติยากร ซึ่งมีนักลงทุนหลายรายที่มาเสนอซื้อ แต่ในที่สุดท่านก็ตัดสินใจขายให้กับกลุ่มยอดพิมาน เพราะเราได้ให้คำมั่นสัญญากับท่านว่าเราจะดำเนินกิจการตามเจตนารมณ์ของท่านต่อไป คือไม่เปลี่ยนแปลงตลาดยอดพิมานไปเป็นอย่างอื่น ที่จะทำให้ผู้เช่า ผู้ค้าภายในตลาดได้ผลกระทบความเดือดร้อน ซึ่งสภาพตลาดยอดพิมานก็ไม่ต่างกับตลาดปากคลองตลาดมากนัก เราจึงได้ทำการพัฒนาปรับปรุงตลาดยอดพิมานไปพร้อมๆ กัน”
ในการเข้ามาบริหารจัดการตลาดทั้งสองแห่งนั้น เฉลียว ยอมรับว่า ในช่วงแรกของการพัฒนาปรับปรุงตลาดทั้งสองแห่งได้รับการต่อต้านพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ค้าในตลาดยอดพิมานเขามีความกังวลว่า เจ้าของใหม่จะปิดตลาดเพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไปทำกิจการอย่างอื่นหรือไม่
“สิ่งที่ผมทำเป็นอันดับแรกๆ เลยคือการลงไปคุยกับพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ลงไปบอกเล่าให้เขาเห็นว่าเราตั้งใจมาปรับปรุงพัฒนาเพื่อให้ตลาดดีขึ้น ผมไม่ได้จะมาเปลี่ยนแปลงวิถีชุมชนซึ่งมันเป็นเอกลักษณ์ของตลาดมาช้านาน แต่เราจะมาช่วยกันทำให้ตลาดปากคลองตลาดและตลาดยอดพิมาน กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางการค้าเชิงอนุรักษ์ เพราะพื้นที่นี้ก็เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ที่เป็นจุดขายจะทำให้พ่อค้าแม่ค้าขายของได้มากขึ้น มีกำไรมากขึ้น ทุกวันนี้เราก็ได้รับความเข้าใจมากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าผู้ค้าทั้งหมด ซึ่งเราก็ยังต้องมีการลงไปพูดคุยชี้แจง และรับฟังความคิดเห็นของผู้ค้าเพื่อนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาปรับปรุงตลาด เพราะผมยึดหลักที่ว่าผู้ค้าอยู่ได้ เราก็อยู่ได้”
หัวเรือใหญ่แห่งกลุ่มยอดพิมาน ยังบอกอีกว่าโชคดีที่ได้เข้ามาบริหารจัดการตลาดค้าส่ง ค้าปลีก ดอกไม้ ผัก ผลไม้ ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ และเขาก็ “หลงรัก” พื้นที่ที่แห่งนี้ยิ่งนัก ตลาดที่มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์
“ผมรักเพราะผมชอบทุกสิ่งที่เป็นประวัติศาสตร์ของคนไทย มันเป็นเรื่องราวที่น่าภูมิใจ ซึ่งการเข้ามาพัฒนาโครงการตรงนี้มันไม่จำเป็นเลยที่เราจะลบอดีตแล้วสร้างของใหม่ สถาปัตยกรรมอาคารโครงสร้างหลายอย่างก่อสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 มีความสวยงาม ทำไมเราจะไม่อนุรักษ์ไว้ ทำไมเราไม่ทำสิ่งที่มีอยู่แล้วให้เป็นจุดแข็ง และทำให้เกิดประโยชน์ได้ นี่คือหลักการบริหารจัดการตลาดทั้งสองแห่งของผม”
และนี่เองจึงเป็นที่มาของโครงการล่าสุด“ยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค” (Yodpiman Riverwalk) ภายใต้แนวคิด “ไทย เฮอริเทจ มอลล์” (Thai Heritage Mall) โครงการพัฒนาพื้นที่ที่เคยเป็นโกดังบริเวณด้านหลังตลาดยอดพานที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้กลายเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ที่จะเป็นแหล่งพักผ่อนและแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร และส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะรัตนโกสินทร์อีกทางหนึ่ง ด้วยงบประมาณกว่า 1,500 ล้านบาท
“ยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค เราได้พัฒนาปรับปรุงอาคารโกดังเก่า ให้เป็นอาคารสองชั้น ใน
รูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอ คลาสสิก โคโลเนียล เพื่อให้กลมกลืนไปกับทัศนียภาพโดยรอบบริเวณเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ ส่วนภายในอาคารถูกตกแต่งพื้นที่จากเรื่องราวประวัติศาสตร์ของพื้นที่โครงการ ตั้งแต่สมัยอยุธยา, กรุงธนบุรี, กรุงรัตนโกสินทร์ จนถึงปัจจุบัน ประกอบด้วย 6 อาคาร ได้แก่ สยามปราการ วิมานอโยธยา นาวาพาณิชย์ วิจิตพระนคร ยอดพิมานธานี และบุรีสราญ ที่เชื่อมต่อด้วยระเบียงทางเดินริมแม่น้ำยาวถึง 284 เมตร เพื่อให้ผู้มาใช้บริการได้ชื่นชมทิวทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำได้เต็มอิ่ม
ผมกล้าพูดได้ว่า ยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค จะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยที่สุด ไม่ใช่แค่เพียงตัวอาคาร แต่พื้นที่ตั้งตรงนี้นับว่าเป็นโค้งน้ำที่มีความสวยงาม เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุด ด้านหนึ่งมีสะพานพุทธฯ อีกฝั่งของแม่น้ำคือ วัดกัลยาณมิตร และวัดอรุณฯ ที่นักท่องเที่ยวจะแวะมาช็อปปิ้ง พักผ่อน และเดินทางไปเที่ยวต่อตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญภายในเกาะรัตนโกสินทร์ก็สามารถทำได้”
ขณะนี้ ยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จไปกว่า 99% ซึ่งนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มากประสบการณ์ เฉลียว ปรีกราน เชื่อมั่นว่า ยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค จะมีส่วนในการสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยได้เป็นอย่างมากแล้วเตรียมตัวไป Check in @YodpimanRiverwalk กันได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 นี้อย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี