Ars Electronica by night
หลังจากเดินเล่นในเมืองและเที่ยวโบสถ์แล้ว เมื่อนักท่องเที่ยวเดินมาถึงริมน้ำดานูบ นักท่องเที่ยวจะเห็นอาคารกระจกขนาดใหญ่มากริมแม่น้ำดานูบ อาคารนี้คือ Ars Electronica Center ศูนย์กลางของศิลปะแนวอิเล็กทรอนิกส์ที่มีอีกชื่อหนึ่งว่า Museum of the Future มิวเซียมนี้ถูกจัดตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1996 โดยกลุ่ม Ars Electronica ซึ่งเป็นองค์กรที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อจัดมหกรรมทางด้านเทคโนโลยี ศิลปะและสังคมที่มี Herbert W. Franke เป็นผู้ก่อตั้ง ดั้งเดิมนั้น Ars Electronica เป็นมหกรรมที่จัดขึ้นทุกปีโดยสามารถดึงดูดทั้งศิลปินและผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ ทั่วโลก ต่อมาในปี 1987 ผู้ก่อตั้งได้ตั้งรางวัลสำหรับงานนี้เรียกว่า The Prix สำหรับผู้ที่ชนะประกวด Computer Art
อาคารที่ถูกออกแบบโดย Treusch architecture ZT GmbH นี้มีค่าก่อสร้างมากถึง 30 ล้านยูโรปบนพื้นที่ 5000 ตารางเมตรและแบ่งเป็นส่วนจัดนิทรรศการ 3,000 ตารางเมตร ส่วนของการวิจัย 100 ตารางเมตร ส่วนห้องประชุม 400 ตารางเมตร และส่วนจัดเลี้ยง 650 ตารางเมตร อาคารหอคอยแฝดนี้จะแบ่งเป็นสองส่วนนั่นคือ ส่วนจัดแสดงที่เรียกว่า Main Gallery และส่วนที่เรียกว่า Ars Electronica Futurelab อาคารที่ประกอบด้วยกระจก 1,100 แผ่นนี้จะติดไฟ LED ที่เปลี่ยนสีได้ซึ่งนักท่องเที่ยวจะเห็นการเปลี่ยนสีในเวลากลางคืนเหมือนอย่างงานศิลปะชิ้นยักษ์ตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูบ
Ars Electronica LED
นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมเยือนศูนย์แห่งอนาคตนี้จะได้มีโอกาสชมนิทรรศการที่ออกแบบสำหรับการทดลองต่าง ๆ อันจะสร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจทางด้านวิทยาศาสตร์มากมาย เรื่องราวที่จัดแสดงส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับสิ่งเกิดใหม่บนโลก หรือเทคโนโลยีที่คาดว่าจะถูกผลิตออกมาใช้ในอนาคตอันใกล้ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีเกี่ยวกับการพัฒนาหรือสิ่งที่มีผลกระทบต่อสังคม ส่วนที่เรียกว่า New Views of Humankind นี้จะจัดแสดงเรื่องราวที่สำคัญเกี่ยวกับมนุษย์ นั่นคือ ร่างกายของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นภาพของจอตา อวัยวะต่าง ๆ ที่ถูกขยายด้วยกล้องจุลทรรศน์ รวมทั้งหุ่นยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นให้ทำงานได้เหมือนมนุษย์ด้วย ในหมวดนี้ยังมีห้องปฏิบัติการ 4 ห้องได้แก่ BrianLab ศึกษาเกี่ยวกับการรับรู้ BioLab ดูเรื่องเกี่ยวกับวิศวพันธุศาสตร์ FabLab ศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง DIY และการสร้างสรรพสิ่งแบบสามมิติ RoboLab จัดแสดงความสามารถของหุ่นยนต์ในยุคปัจจุบัน
Biolab
หมวด Deep Space จัดแสดงเกี่ยวกับเรื่องราวนอกโลกทั้งแบบสองมิติและสามมิติ และหมวด GeoCity มีนิทรรศการที่ชื่อ Out of Control ซึ่งสาธิตให้เห็นว่าอินเทอร์เน็ตรู้อะไรเกี่ยวกับมนุษย์ไปแล้วบ้าง ทุกครั้งที่เราคลิ๊กออนไลน์ อินเทอร์เน็ตสามารถที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้คลิ๊กได้อย่างน่าอัศจรรย์จนทำให้มนุษย์ขาดความสามารถในการควบคุมตัวเอง
Biolab
นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังจะได้มีโอกาสชมนิทรรศการ และเล่นเกมต่าง ๆ รวมทั้งได้ลองขับขี่เครื่องบินที่เรียกว่า Flight Simulator ที่ชื่อ Humphrey อีกทั้งยังชมการจัดแสดงเรื่อง Hidden Worlds ซึ่งจะมีเครื่องมือที่เปลี่ยนเสียงและคำของมนุษย์ไปเป็นสัญลักษณ์หรือสีด้วย
Interactive
หลังจากที่นักท่องเที่ยวได้ตื่นเต้นเร้าใจจากประสบการณ์ในห้องต่าง ๆ ของมิวเซียมแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถแวะมาพักจิบกาแฟที่ชั้นบนของอาคารอันเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองที่เรียกว่า Sky Media Loft ได้ด้วย
Display
Display
Display
Ars Electronica ถ่ายจากฝั่งตรงข้าม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี