มีคำถามว่า เหตุใดคนไทยจึงรักพระเจ้าอยู่หัวของเขายิ่งกว่าชีวิต
คำตอบคือ เพราะคนไทยซาบซึ้งดี ว่าพระเจ้าอยู่หัวของเขานั้น ทรงรักคนไทยจนเกินกว่าจะหาถ้อยคำใดๆ มาบรรยายให้ครบถ้วนได้
ภาพพระเจ้าอยู่หัวทรงโน้มพระวรกายจนพระพักตร์ใกล้ชิดกับศีรษะของหญิงชราที่ไปเฝ้ารอชมพระบารมี ทำให้คนไทยตระหนักและประจักษ์ในน้ำพระทัยอันมากล้นเกินพรรณนาของพระผู้ทรงเป็นพ่อของแผ่นดิน
ภาพพระเจ้าอยู่หัวประทับนั่งกับพื้นดินเสมอและใกล้ชิดกับพสกนิกรของพระองค์ทำให้ลูกของพ่อทุกคนปลื้มปีติจนไม่สามารถจะกลั้นน้ำตาแห่งความจงรักภักดีไว้ได้
พ่อของแผ่นดินทรงมีพระราชหฤทัยมุ่งมั่นที่จะแก้ไขความทุกข์ความร้อนทั้งปวงให้กับลูกๆ ทุกคน บนแผ่นดินของพ่อ “พ่อ” ทรงระลึกเสมอว่าทุกข์ของพสกนิกรก็คือทุกข์ของพระองค์ ดังนั้นจึงทรงทำทุกหนทางเพื่อดับความทุกข์ของแผ่นดิน
พระเจ้าอยู่หัวทรงทุ่มเทพระองค์เพื่อให้ลูกไทยทุกคนมีความสุขอย่างยั่งยืน โดยได้พระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริไว้มากมายจนเกินจะพรรณนา ซึ่งโครงการของ “พ่อ” นั้นมีกระจายอยู่ทั่วทุกหนแห่งบนแผ่นดินนี้
ที่แห่งใดแล้ง ร้อน กันดาร และขาดแคลน “พ่อ” จะเสด็จพระราชดำเนินไปดับทุกข์ให้พสกนิกรโดยทันใด ซึ่ง “พ่อ” ได้พระราชทานโครงการฝนหลวงเพื่อดับทุกข์ให้ แล้วยังพระราชทานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเพาะปลูก และการชลประทานอีกด้วย
โครงการพัฒนาลุ่มน้ำป่าสัก
นอกจากนี้ยังพระราชทานโครงการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้กับลูกทุกคนเพื่อใช้เป็นแนวคิดในการดำเนินชีวิตอย่างพออยู่ พอกิน เพื่อความพอเพียงอย่างยั่งยืน ซึ่งได้พระราชทานแนวคิดนี้ไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2517 เพื่อให้พสกนิกรตระหนักถึงทางสายกลางของชีวิต และเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยแนวคิดทฤษฎีนี้คือพื้นฐานของการดำรงชีวิตมนุษย์ โดยจุดเด่นของแนวปรัชญานี้คือ ความสมดุล และการอยู่ร่วมกันของคนทุกคนในสังคม
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการส่งเสริมและพัฒนาความรู้ด้านการเกษตรโดยยึดหลักวิชาและใช้เทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ที่เข้าใจได้โดยง่ายเข้าผสมผสานกับภูมิความรู้ของชุมชน เพื่อให้ราษฎรสามารถนำไปปฏิบัติใช้ได้จริง ดังที่เราทุกคนจะพบได้จาก “ศูนย์ศึกษาการพัฒนา” ที่มีในทั่วทุกภูมิภาค โดยเป็นศูนย์รวมของการศึกษาและ
ค้นคว้าในด้านการพัฒนาการเกษตรแขนงต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือกับราษฎรในการทำการเกษตรอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน
นอกจากนี้ “พ่อ” ได้พระราชทานแนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่ ที่ให้แนวคิดด้านการจัดพื้นที่ดินสำหรับการอยู่อาศัยเพื่อมีชีวิตอย่างยั่งยืน โดยแบ่งพื้นที่เป็นส่วน ๆ ดังนี้ พื้นที่สำหรับแหล่งน้ำ พื้นที่ดินเพื่อทำเป็นที่นาปลูกข้าว พื้นที่ดินสำหรับปลูกพืชไร่
ชนิดอื่นๆ และพื้นที่สำหรับอยู่อาศัยและเลี้ยงสัตว์ ในอัตราส่วน 3:3:3:1 ซึ่งเป็นหลักการบริหารจัดการที่ดินและน้ำเพื่อการเกษตรบนที่ดินขนาดเล็กให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน
กล่าวได้ว่า “พ่อ” พระราชทานโครงการที่เกี่ยวข้องกับป่า ดิน น้ำ การเกษตร สิ่งแวดล้อม ด้านวิศวกรรม ด้านการส่งเสริมอาชีพ ด้านส่งเสริมสวัสดิการสังคม ด้านสาธารณสุข ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และด้านการสื่อสารคมนาคม ให้กับลูกทุกคนบนแผ่นดินไทยอย่างครบถ้วน
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ลูกไทยทุกคนซึ่งเป็นพสกนิกรของ “พ่อ” ตระหนักดีว่า “พ่อ” ทรงเป็นพระผู้ใหญ่อย่างแท้จริง “พ่อ” ทรงต้องการให้ลูกๆ ทุกคนมีความสุข พออยู่ พอกิน และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างสมบูรณ์
“พ่อ” พระราชทานแนวคิดนี้เพื่อให้ลูกทุกคนอยู่อย่างสุขสบาย และเพื่อให้ประเทศชาติมีความมั่นคง
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
...การพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น ต้องสร้างพื้นฐาน คือความพอมี พอกิน พอใช้ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นเบื้องต้นก่อน โดยใช้วิธีการและใช้อุปกรณ์ที่ประหยัดแต่ถูกต้องตามหลักวิชา เมื่อได้พื้นฐานมั่นคงพร้อมพอควรและปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญและฐานะเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลำดับต่อไป หากมุ่งแต่จะทุ่มเทสร้างความเจริญ ยกเศรษฐกิจขึ้นให้รวดเร็วแต่ประการเดียว โดยไม่ให้แผนปฏิบัติการสัมพันธ์กับสภาวะของประเทศและของประชาชนโดยสอดคล้องด้วย ก็จะเกิดความไม่สมดุลในเรื่องต่างๆ ขึ้น ซึ่งอาจกลายเป็นความยุ่งยากล้มเหลวได้ในที่สุด...(พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ.2517)
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ทั้งหลายทั้งปวงที่กล่าวมา ณ ที่นี้ เป็นแค่เพียงเศษเสี้ยวเล็กๆ ส่วนหนึ่งจากน้ำพระทัยของพระผู้ทรงเป็นพ่อของแผ่นดินไทย “พ่อ” ผู้ทรงให้ความรักจนเกินจะพรรณนาได้กับคนไทยทั้งแผ่นดิน
นี่คือ “พ่อ” ผู้ทรงลดพระวรกายโน้มพระองค์ลงไปหาลูกไทยทุกคนเสมอมา
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ศูนย์รักษ์สุนัขหัวหิน
ศูนย์รักษ์สุนัขหัวหิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี