หน้าหนาวมาถึงแล้ว (แต่สำหรับคนกรุงเทพฯ ไม่ค่อยจะแน่ใจว่าหนาวจริงหรือ) คนไทยที่นิยมความเย็นจากธรรมชาติก็มักจะขึ้นไปสัมผัสความเย็นที่ภาคเหนือกันยกใหญ่ ดังนั้นหลายจังหวัดภาคเหนือในช่วงเดือนธันวาคมนี้จึงมีผู้คนไปเยือนกันอย่างมากมาย
และเพื่อมิให้ตกกระแส Mr.Flower จึงขอชวนคุณๆ ไปแอ่วเหนือด้วยกันเจ้า แต่มิได้ไปขึ้นดอยสัมผัสความหนาวเย็น เพียงแต่จะชวนคุณๆ ไปไหว้สากราบนมัสการพุทธสถานสำคัญของเมืองลำปาง เขลางค์นคร
พุทธสถานแห่งแรกที่จะพาคุณไปไหว้สาก็คือ พระธาตุลำปางหลวง ตั้งอยู่ที่ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา (อยู่ห่างจากตัวจังหวัดไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ 18 กิโลเมตร) วัดนี้มีจุดเด่นตรงที่ตั้งอยู่บนเนินสูงเด่น มีบันไดนาค ซึ่งทำเป็นรูปมกรคายพญานาคทอดยาวพาขึ้นสู่ซุ้มประตูโขงที่งดงามมาก เมื่อผ่านซุ้มประตูโขงก็จะถึงวิหารหลวง ภายในวิหารหลวงประดิษฐานมณฑปพระเจ้าล้านทอง หลังพระวิหารหลวงคือองค์พระธาตุเจดีย์ลำปางหลวงหุ้มด้วยแผ่นทองจังโก ตามตำนานระบุว่าองค์พระธาตุเจดีย์นี้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้
นอกจากนี้ยังมีโบราณสถานอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ วิหารน้ำแต้ม วิหารต้นแก้ว วิหารละโว้ หอพระพุทธบาท พระอุโบสถ หอพระไตรปิฎก และวิหารประดิษฐานพระแก้วดอนเต้า (หอพระแก้วนี้อยู่ในเขตสังฆาวาส ซึ่งต้องเดินออกจากกำแพงแก้วด้านทิศใต้)
วัดพระธาตุลำปางหลวงนี้มีประวัติมายาวนานตั้งแต่ พ.ศ. 2019 โดยเฉพาะวิหารพระพุทธมีประวัติว่าสร้างขึ้นคู่กับวิหาร
น้ำแต้ม ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 40 นิ้ว มีพุทธลักษณะ และส่วนสัดงดงามมาก วิหารพระพุทธเป็นวิหารทิศ ตามจักรวาลคติมีองค์พระธาตุเจดีย์เป็นศูนย์กลาง สร้างขึ้นเป็นวิหารหลังแรกของวัด เมื่อปี พ.ศ.2019
โบราณสถาน และพุทธสถานแห่งที่สอง ซึ่ง Mr.Flower จะพาคุณไปไหว้สาคือ วัดไหล่หิน หรือวัดเสลารัตนปัพพตาราม
ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเกาะคา วัดสำคัญเก่าแก่อายุหลายร้อยปีของลำปาง มีหลักฐานบ่งบอกว่าเมื่อปี พ.ศ.2181 วัดนี้เป็นเพียงพระอารามเล็กๆ แต่มีพระภิกษุสามเณรไปบวชเรียนเป็นจำนวนมาก วัดนี้เป็นสำนักศึกษาของพระสายป่าที่ถือธุดงควัตรเป็นหลักปฏิบัติ โดยเฉพาะพระมหาป่าเกสร ปัญโญ (ครูบาศีลธรรมเจ้า) ความเคร่งครัดในวัตรปฏิบัติของท่านเป็นที่เลื่องลือไปไกลถึงเมืองเชียงตุง จนเจ้าฟ้าเชียงตุงทรงเลื่อมใสแล้วมาสร้างวิหารวัดไหล่หินถวาย ต่อมาเจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต เจ้าผู้ครองนครลำปางองค์สุดท้ายได้สร้างอุโบสถถวาย และมีชาวบ้านมากมายต่างศรัทธา วัดนี้เป็นที่เก็บรักษาคัมภีร์โบราณอายุกว่า 700 ปี จารเป็นตัวอักษรบาลี และอักษรล้านนา จารไว้เมื่อปี จ.ศ. 601 (พ.ศ. 1782) ชื่อคัมภีร์ “สกาวกณณี” มีทั้งสิ้น 7 ผูก จำนวน 364 หน้า) วัดไหล่หินมีโบราณสำคัญมากมาย เช่น วิหารโถง โบสถ์ เจดีย์ ซุ้มประตูโขง และโรงธรรม โดยเฉพาะซุ้มประตูโขงเป็นซุ้มทรงปราสาทสกุลช่างลำปาง
พุทธสถานแห่งที่สามของลำปางที่เราจะไปไหว้สาในทริปนี้คือ วัดศรีชุม ตั้งอยู่ในตัวเมืองลำปาง วัดที่มีศิลปะและสถาปัตยกรรมการก่อแบบพม่าที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองลำปาง และอาจจะเรียกได้ว่าสมบูรณ์ที่สุดในเมืองไทยก็คงจะไม่ผิด มีบันทึกว่าในประเทศไทยมีวัดแบบพม่าอยู่ทั้งหมด 31 วัด แต่วัดศรีชุมเป็นวัดแบบพม่าที่ใหญ่ที่สุด วัดนี้สร้าง (จริงๆ ต้องบอกว่าบูรณะจากวัดเดิมที่เก่าแก่และมีขนาดเล็ก) เมื่อปี พ.ศ. 2433 โดยคหบดีพม่าชื่อ จองตะก่า อูโย พ่อเลี้ยงหม่องยี และแม่เลี้ยงป้อม ที่เข้ามาทำธุรกิจป่าไม้กับประเทศไทยในยุคที่อังกฤษเป็นเจ้าอาณานิคมของพม่า แต่เดิมนั้นวัดศรีชุมมีพระวิหารศิลปะ และสถาปัตยกรรมแบบพม่าผสมล้านนา หลังคาเป็นเครื่องไม้ยอดแหลมแกะสลักอย่างวิจิตรบรรจง แต่เมื่อปี พ.ศ. 2535 เกิดเพลิงไหม้พระวิหารเสียหายเกือบทั้งหมด จึงต้องสร้างและบูรณะขึ้นมาใหม่ภายหลัง ซึ่งก็ทำได้งดงามไม่แพ้ของเดิม แต่ผู้เฒ่าผู้แก่ที่เคยเห็นของเดิมยังยืนยันว่าของเดิมสวยงามและวิจิตรบรรจงกว่าปัจจุบันมากนัก
วัดศรีชุมได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของไทยเมื่อปี พ.ศ. 2524 มีโบราณสถานสำคัญคือพระวิหาร หอสวดมนต์ พระอุโบสถทรงจตุรมุข และพระธาตุเจดีย์ที่กล่าวกันว่าบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ตามหลักฐานจากแผ่นจารึกซึ่งบันทึกโดยเจ้าอาวาส พระปัญญาวังสะเถระ เมื่อปี พ.ศ. 2529 ระบุว่าวัดนี้มีชื่อไทยว่า วัดศรีชุม และชื่อพม่าว่า หญ่องไวง์จอง คำว่าศรีหมายถึงต้นศรีมหาโพธิ์ที่ปลูกไว้ภายในวัด ส่วนคำว่า ชุม หมายถึง ชุมนุม ล้อมรอบ เพราะว่าในอดีตวัดนี้สร้างทับวัดเดิมซึ่งมีต้นพระศรีมหาโพธิ์ขึ้นล้อมรอบอยู่เป็นจำนวนมาก
ทริปนี้เราไปไหว้สากราบนมัสการพุทธสถานสำคัญของเมืองเขลางค์นครด้วยกันครับ แฟนคอลัมน์ท่านใดที่ยังไม่เคยไปไหว้สาพุทธสถานสำคัญเหล่านี้ Mr.Flower ขอแนะนำว่าควรหาโอกาสไปกราบนมัสการนะครับ แล้วท่านจะอิ่มเอิบใจ เพราะความซาบซ่านในกุศลที่ท่านสร้าง หากท่านต้องการจะไปเป็นหมู่คณะและต้องการให้ Mr.Flower พาไปชมเมืองลำปางแบบเจาะลึก โปรดติดต่อที่ E-Mail address luangpee@hotmail.com หรือโทรศัพท์ 091-7233615
ขอบคุณสายการบินนกแอร์ที่พา Mr.Flower ไปเยือนเมืองลำปางในทริปนี้ และขอแจ้งให้ทราบว่านกแอร์บินให้บริการจากสนามบินดอนเมืองถึงเมืองลำปางเป็นประจำทุกวันมาตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2557 โดยให้บริการวันละสองเที่ยวบิน และอาจจะเพิ่มเที่ยวบินมากขึ้นในช่วงปีใหม่นี้
หมายเหตุ สำหรับผู้ที่ร่วมทริปแสวงบุญ ณ แดนพุทธภูมิ กราบนมัสการสังเวชนียสถานสี่แห่ง ที่อินเดียและเนปาลกับ Mr. Flower ซึ่งจะเดินทางในวันที่ 17-26 กุมภาพันธ์ 2558 กรุณาส่งเอกสารดังต่อไปนี้สำหรับทำวีซ่าเข้าอินเดียและเนปาล 1) พาสปอร์ตเล่มจริงซึ่งต้องมีอายุใช้งานได้เกิน 6 เดือนนับจากวันเดินทาง 2) สำเนาพาสปอร์ต 2 ใบ 3) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน อย่างละหนึ่งชุด4) รูปถ่ายหน้าตรงขนาดสองคูณสองนิ้ว ฉากหลังเป็นสีขาวเท่านั้น จำนวนสองรูป กรุณาส่งเอกสารให้ เฉลิมชัย ยอดมาลัย หนังสือพิมพ์แนวหน้า เลขที่ 96 หมู่ 3 ซอยสยามสามัคคี ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดเทศบาล เขตหลักสี่ กทม. 10210 กรุณาส่งจดหมายลงทะเบียนเพื่อป้องกันการสูญหาย ถ้าหากท่านใดสะดวกจะส่งด้วยตัวเอง โปรดกรุณาโทร. แจ้งก่อนครับ เพื่อจะได้รอรับด้วยตัวเอง ขอบคุณครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี