เมื่อไม่นานมานี้ ท่านนักท่องโลกโซเชียลคงจะได้เห็นภาพภาพหนึ่งผ่านตามานะครับ เป็นภาพแมวที่หน้าบวมเยื่อเมือกสีเขียวเข้มจนเป็นสีม่วง ซึ่งเป็นภาพที่น่าสงสารและมีคนแชร์ต่อๆ กันมามากมาย ซึ่งบ่งถึงอันตรายจาก “พาราเซตามอล” หรือยาลดไข้ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในคนนั่นเองครับ
วันนี้ผมมีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับอันตรายของยาสามัญประจำบ้านในคน ซึ่งมีกันในตู้ยาของทุกบ้าน แต่เป็นยา (พิษ) ที่เป็นอันตรายสำหรับเจ้าเหมียวครับ ข้อมูลดีๆนี้ มาจาก สพ.ญ.อรรัมภา ศรีม่วง คุณหมอที่น่ารักอีกท่านหนึ่งประจำแผนกฉุกเฉินและสัตว์ป่วยวิกฤติโรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ หรือคลินิกฉุกเฉิน ซึ่งทุกคืน มักจะมีเคสฉุกเฉินที่น่าตื่นเต้น (แฝงความน่ากลัว) มาเข้ารับการรักษาอย่างไม่ขาดสาย โดยสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากความประมาทและการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเจ้าของ ซึ่งผมจะนำมาเล่าให้ฟัง (เพื่อให้เกิดการป้องกันและระมัดระวัง) เป็นระยะครับ
ตัวอย่างหนึ่งที่คุณหมออรรัมภาได้เจอที่คลินิกฉุกเฉินนี้ มีคุณป้าท่านหนึ่งนำแมวมารักษา และเล่าด้วยเสียงตื่นเต้นว่า...“คุณหมอคะแมวของป้าไม่สบาย ซึมมาหลายวัน ไม่กินข้าวเลย จามฟุตฟิต มีน้ำมูกไหลเยิ้มมาตลอด ป้าคิดว่ามันคงเป็นหวัด เพราะตัวมันร้อนจี๋เลย ป้าสงสารน่ะป้าเลยป้อนยาพาราให้กินไปครึ่งเม็ดจ้ะ”
หลังจบประโยคบอกเล่าของคุณป้าแล้ว ประกอบกับการเห็นอาการของแมวที่นำมาวางบนโต๊ะตรวจ ซึ่งแมวมีอาการหน้าบวม หายใจลำบาก เหงือกและเยื่อเมือกสีม่วงคล้ำ คุณหมอก็รับรู้ได้ว่า นี่คืออาการของแมวที่กำลังทรมานตรงหน้านั้นคืออาการที่เกิดจากความเป็นพิษของยาพาราเซตามอลซึ่งทำให้สัตว์ถึงกับตายได้อย่างง่ายดาย
เมื่อคุณป้าทราบสาเหตุเบื้องต้นว่ามาจากการป้อนยาลดไข้ให้ด้วยความรักแต่รู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้วก็ถึงกับร้องไห้ เอ่ยปากขอโทษเจ้าเหมียวด้วยความเสียใจเป็นการใหญ่ ที่ต้องมาป่วยหนัก เพราะความไม่รู้ของตัวเองเป็นสาเหตุ
ยาพาราเซตามอลคืออะไร มีอันตรายอย่างไร?
ทุกท่านคงทราบแล้วว่า ยาพาราเซตามอลนี้ จัดเป็นยาสามัญประจำบ้านที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย (จนเกินความจำเป็น) ในคน ไม่ว่าจะมีอาการปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ เป็นหวัด คนส่วนใหญ่ก็มักจะคิดถึงยาตัวนี้เป็นอันดับแรก เจ้าของสัตว์ส่วนใหญ่ก็เช่นเดียวกัน เมื่อเห็นสัตว์ไม่สบายเลยคิดว่า เด็กตัวร้อนยังกินยานี้ได้เลย จึงบรรจงป้อนยาพาราฯ ให้กินแต่หารู้ไม่ว่ายาตัวนี้เป็นพิษกับน้องหมาน้องแมวอย่างร้ายกาจ เนื่องจากแมวไม่มีเอนไซม์ที่ใช้ขับยาตัวนี้ออกจากร่างกายทำให้มีผลต่อการ
เสียสภาพของเม็ดเลือดแดง ทำลายตับ และรุนแรงจนถึงตาย ส่วนในสุนัขนั้นมีความทนต่อปริมาณที่ได้รับมากกว่าแมว แต่การให้ยาชนิดนี้ในสุนัข ก็จำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์ หากสุนัขได้รับยาเกินขนาดที่กำหนด ก็สามารถทำให้เกิดอาการตับวายและเสียชีวิตได้เช่นกัน
แมวได้รับพาราฯ มีอาการอย่างไร
อาการจากพิษของพาราเซตามอลในแมว จะพบว่าแมวสามารถแสดงอาการให้เห็นได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง โดยมีอาการซึม อ่อนแรง อาเจียน หน้าบวมตัวบวม ตัวเหลือง เหงือกสีม่วง หายใจลำบาก ตับวายและตายในที่สุด
เมื่อแมวได้รับยาพาราฯ เราควรทำอย่างไร
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่พอจะทำได้ก่อนพาไปพบสัตวแพทย์ (โดยด่วน) ทำดังนี้
1.การกระตุ้นให้อาเจียน เพื่อลดปริมาณสาร หากเพิ่งได้รับยามาใหม่ๆ โดยการใช้เกลือป่นหรือเกลือละลายน้ำป้อน (ต้องระวังไม่ให้สำลัก หรือมีข้อจำกัดหากสัตว์ป่วยเป็นโรคไตอยู่แล้วนะครับ)
2.ลดการดูดซึมยาเข้าสู่กระแสเลือด โดยป้อนผงถ่าน (Charcoal) นม หรือ ไข่ขาวดิบกรอก ต้องระวังการสำลักเข้าหลอดลมเช่นกัน
3.รีบพาสัตวเลี้ยงมาพบสัตวแพทย์ทันทีเพื่อรับยาต้านพิษให้เร็วที่สุด
อยากเรียนให้ท่านเจ้าของสัตว์ทุกท่านทราบว่า ขอให้ทุกท่านระมัดระวังในการใช้ยานี้ ไม่ว่าจะเป็นยานี้โดยตรง หรือยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของพาราและขอให้ช่วยบอกต่อๆ กันเป็น“ทาน” เพื่อจะได้ป้องกันไม่ให้เกิดความทรมานและการเสียชีวิต ที่เกิดจากความรักแต่ “รู้เท่าไม่ถึงการณ์” ของเจ้าของสัตว์กันนะครับ
การป้อนยาให้สัตว์เลี้ยงกินเองโดยความไม่รู้ เพราะเห็นว่า “คนกินได้ สัตว์ก็กินได้” นั้น เป็นความคิดที่ผิดนะครับ อาจเป็นการคร่าชีวิตสัตว์เลี้ยงที่คุณรักได้เลยทีเดียว เหมือนประโยคที่ตลกชอบเอามาพูดเล่นกันว่า “คนนะ ไม่ใช่แมว” แต่หมออยากจะบอกกลับไปว่า “นี่แมวนะ ไม่ใช่คน !!”
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง สามารถติดต่อสอบถามโดยตรงที่โรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โทร.02-2189715 หรือ 02-2189752 (คลินิกฉุกเฉินนอกเวลาราชการ ตลอด 24 ชั่วโมง)
อาจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร. ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และเสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี