“เกิดเป็นมนุษย์ เมื่อคิดจะทำสิ่งใดที่ถูกต้องดีงามแล้ว จงเพียรพยายามทำเรื่อยไป แม้จะยากเย็นแสนเข็ญจนแทบจะสิ้นชีวิต ก็จงเพียรทำต่อไปเถิด แล้วผลสำเร็จที่ดีงามจักบังเกิดในที่สุดอย่างแน่นอน”
การแสดงละครเพลงเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา เรื่อง “พระมหาชนก เดอะ ฟีโนมีนอน ไลฟ์โชว์” (MAHAJANAKA the Finale Live Show : A Tribute to His Majesty The King) ปิดฉากการแสดงไปแล้วเมื่อค่ำวันที่ 20 ธันวาคม หลังจากแสดงต่อเนื่องมา 20 รอบ (เริ่มมาตั้งแต่ 1 ธันวาคม) รอบสุดท้ายมีศิลปินเพลงแจ๊สระดับโลก ประกอบด้วย Larry Carlton, John Pizzarelli, John Di Martino, Diane Schuur, Winter Play และ The Count Basie Orchestra มาร่วมขับร้องและบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ อาทิ เพลงแสงเทียน เพลง
ยามเย็น และเพลงอาทิตย์อับแสง ฯลฯ
ส่วนเนื้อเรื่องของการแสดงครั้งนี้ได้เชิญบทพระราชนิพนธ์ “พระมหาชนก” ซึ่งแฝงปรัชญาคุณธรรมความเพียร ความวิริยอุตสาหะ การเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน ไปจัดแสดงบนเวทีกลางน้ำในสวนเบญจกิติ
เนื้อเรื่องย่อ
ณ เมืองมิถิลาแห่งรัฐวิเทหะ พระเจ้ามหาชนก พระราชาทรงมีพระโอรส 2 องค์ คือ อริฏฐชนก และ โปลชนก เมื่อพระราชบิดาสวรรคต อริฏฐชนกขึ้นครองบ้านเมืองต่อ ส่วนโปลชนกทรงเป็นอุปราช แต่มีอำมาตย์คนหนึ่งไม่พอใจโปลชนกจึงยุแหย่ให้อริฏฐชนกระแวงพระอนุชาโดยใส่ความเท็จว่าโปลชนกคิดขบถ พระราชาทรงเชื่อคำเท็จนั้น จึงให้จับโปลชนกไปขัง แต่โปลชนกเสด็จหนีไปได้ โดยไปอยู่ที่ชายแดนเมืองมิถิลา แล้วรวบรวมไพร่พลยกทัพไปตีเมืองมิถิลา อริฏฐชนกทรงเห็นว่าไม่มีทางเอาชนะได้ จึงตรัสสั่งพระมเหสีซึ่งทรงมีพระครรภ์แก่ให้หนีไป ส่วนพระองค์ทรงออกทำศึกแล้วสิ้นพระชนม์ในสนามรบ ในที่สุดโปลชนกทรงขึ้นเป็นกษัตริย์ ครองเมืองมิถิลาสืบต่อมา
ส่วนพระมเหสีของอริฏฐชนกเสด็จหนีไปอยู่เมืองกาลจัมปากะ โดยมีพราหมณ์ทิศาปาโมกข์ให้การอุปถัมภ์ จนพระนางประสูติพระโอรส แล้วทรงตั้งพระนามว่า มหาชนกกุมาร เมื่อเติบใหญ่พระกุมารทรงร่ำเรียนศิลปวิทยาการทั้งปวงจนแตกฉาน แล้วหวังจะกลับไปทวงพระราชบัลลังก์คืน
ครั้นอายุ 16 พรรษา ได้ทูลกับพระมารดาว่าจะขอเดินทางไปค้าขาย ณ เมืองสุวรรณภูมิ เพื่อหาเงินทองมาใช้สำหรับกอบกู้บ้านเมืองคืนมา พระมหาชนกทรงนำสินค้าบรรทุกในเรือสำเภามุ่งหน้าไปสุวรรณภูมิ แต่เรือประสบพายุใหญ่จนอัปปาง ก่อนเรือจะอัปปางนั้น ผู้คนต่าง ๆ ในเรือต่างแตกตื่นโกลาหล แต่พระมหาชนกทรงเตือนให้ทุกคนตั้งสติให้มั่นแล้วพยายามว่ายน้ำข้ามทะเลให้จงได้ แต่ไม่มีใครฟัง เมื่อเตือนใครก็ไม่มีใครฟัง ในที่สุดพระมหาชนกจึงเสวยอาหารจนอิ่มหนำ แล้วทรงนำผ้าไปชุบน้ำมันให้ชุ่ม แล้วนุ่งผ้านั้นเพราะผ้าชุ่มน้ำมันจะช่วยไล่สัตว์ในน้ำได้ และยังช่วยให้ลอยตัวในน้ำได้นาน
พระมหาชนกทรงว่ายน้ำอยู่นาน 7 วัน 7 คืน จนนางมณีเมขลา เทพธิดาผู้รักษามหาสมุทรได้เห็นพระมหาชนกว่ายน้ำมาหลายวันจึงลองพระทัยด้วยการถามว่า ใครหนอ ช่างว่ายน้ำอยู่ได้นานถึง 7 วัน ทั้งที่มองไม่เห็นฝั่ง จะทนว่ายไปเพื่ออะไรกัน
พระมหาชนกตรัสว่า ความเพียรย่อมมีประโยชน์ แม้จะมองไม่เห็นฝั่ง เราก็จะว่ายไปจนกว่าจะถึงฝั่งในสักวันหนึ่ง
นางมณีเมขลาบอกว่า มหาสมุทรกว้างใหญ่นัก ท่านจะพยายามว่ายสักเท่าไรก็คงไม่ถึงฝั่ง ท่านคงจะตายเสียก่อนเป็นแน่
พระมหาชนกตรัสว่า คนที่ทำความเพียรนั้น แม้จะต้องตายไปในขณะกำลังทำ ความเพียรพยายามอยู่ ก็จะไม่มีผู้ใดมาตำหนิติเตียนได้ เพราะได้ทำหน้าที่เต็มกำลังแล้ว
นางมณีเมขลาถามต่อว่า การทำความพยายามโดยมองไม่เห็นทางบรรลุเป้าหมายนั้น มีแต่ความยากลำบาก อาจถึงตายได้ จะต้องเพียรพยายามไปทำไมกัน
พระมหาชนกตรัสว่า แม้จะรู้ว่าสิ่งที่เรา กำลังกระทำนั้นอาจไม่สำเร็จก็ตาม ถ้าไม่เพียรพยายามแต่กลับหมดมานะเสียแต่ต้นมือ ย่อมได้รับผลร้ายของความเกียจคร้านอย่างแน่นอน ย่อมไม่มีวันบรรลุถึงเป้าหมายที่ต้องการ บุคคลควรตั้งความเพียรพยายามแม้การนั้นอาจไม่สำเร็จก็ตาม เพราะเรามีความพยายาม ไม่ละความตั้งใจ เราจึงยังมีชีวิตอยู่ได้ ในทะเลนี้เมื่อคนอื่นได้ตายกันไปหมดแล้ว เราจะพยายามสุดกำลัง เพื่อไปให้ถึงฝั่งให้จงได้
นางมณีเมขลาได้ยินดังนั้นก็เอ่ยสรรเสริญความเพียรของพระมหาชนก แล้วช่วยอุ้มพาข้ามมหาสมุทรไปยังฝั่งเมืองมิถิลา แล้วในที่สุดพระมหาชนกก็สามารถกลับไปทวงคืนพระราชบัลลังก์ได้ตามพระประสงค์ในที่สุด เมื่อทรงขึ้นเป็นพระราชาแห่งมิถิลาแล้ว ก็ทรงทำความผาสุกให้กับอาณาประชาราษฎร์เป็นอย่างดี แล้วในที่สุดวันหนึ่งพระมหาชนกก็พระราชทานตำแหน่งพระราชาให้พระราชกุมารของพระองค์ พระนามว่าทีฆาวุกุมาร แล้วพระมหาชนกก็เสด็จออกไปทรงบำเพ็ญเพียร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี