“ดูกรภิกษุทั้งหลาย สถานที่ควรเห็น ควรให้เกิดความสังเวชแห่งกุลบุตรผู้มีศรัทธา 4 แห่งนี้ 4 แห่งเป็นไฉน คือ สถานที่ควรเห็น ควรให้เกิดความสังเวชแห่งกุลบุตรผู้มีศรัทธาว่า พระตถาคตประสูติ ณ ที่นี้ 1 พระตถาคตตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ณ ที่นี้ 1 พระตถาคตทรงประกาศธรรมจักรอันยอดเยี่ยม ณ ที่นี้ 1 พระตถาคตปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ณ ที่นี้ 1 ดูกรภิกษุทั้งหลาย สถานที่ควรเห็น ควรให้เกิดความสังเวชแห่งกุลบุตรผู้มีศรัทธา 4 แห่งนี้แล ฯ” (พระสุตตันตปิฎก เล่ม 13 อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต - ตติยปัณณาสก์ - 2. เกสีวรรค - สังเวชนียสูตร)
ความดีเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยากเย็นสำหรับมนุษย์และสัตว์ที่ตั้งใจจะทำความดี แต่ความดีจะเป็นสิ่งที่แสนยุ่งยากสำหรับมนุษย์และสัตว์ที่ไม่ตั้งใจจะทำความดี บุญกุศลจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยเพราะตัวเราเป็นผู้สร้าง ไม่มีใครทำบุญแทนใครได้ ผู้ใดทำ ผู้นั้นได้
ผู้สร้างและสะสมบุญกุศลไว้ตลอดเวลาย่อมบังเกิดความสุขในทุกขณะ แม้ยามชีวิตจะประสบความคับขันเดือดร้อน บุญที่สะสมไว้ก็จะช่วยบรรเทาความทุกข์ได้ระดับหนึ่ง ดังนั้นชีวิตของผู้ทำบุญทำกุศลจึงมีแต่ความร่มเย็น สดใส และเอิบอิ่มในผลแห่งบุญ
แต่นับเป็นเรื่องน่าประหลาดที่คนทุกคนต่างก็รู้ดีว่าบุญเป็นสิ่งที่ควรสร้างสม แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลับพบว่าคนจำนวนไม่น้อยยังจงใจละเลยไม่คิดสร้างบุญสร้างกุศล ซึ่งก็คงเป็นกรรมของแต่ละปัจเจก
ตะลอนเที่ยวสัปดาห์นี้จะขอเน้นเรื่องการเดินทางไปสร้างบุญสร้างกุศล ณ ดินแดนพุทธภูมิ สังเวชนียสถาน 4 ที่ประเทศอินเดีย และเนปาล โดยขออนุญาตเรียนย้ำเตือนสมาชิกผู้ร่วมจาริกแสวงบุญ ระหว่างวันที่ 17 - 26 กุมภาพันธ์ 2558 ขอเรียนย้ำให้ทุกท่านกรุณาเตรียมร่างกายให้พร้อม สมาชิกหลายท่านส่งเอกสารสำหรับใช้ทำวีซ่าเข้าประเทศอินเดียและเนปาลให้ Mr. Flower เรียบร้อยแล้ว แต่บางท่านก็ยังให้เอกสารไม่ครบ ดังนั้นท่านใดที่ยังให้เอกสารไม่ครบ กรุณาติดต่อ Mr. Flower โดยด่วนที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-9250300
สมาชิกบางท่านชำระค่ามัดจำและค่าตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว แต่ขาดการติดต่อกันไประยะหนึ่ง โดยเฉพาะในช่วงสิ้นปีเก่า ขึ้นปีใหม่ เนื่องหลายท่านเดินทางไปพักผ่อนในต่างประเทศ ดังนั้นขอความกรุณาท่านสมาชิกที่จะเดินทางไปกับคณะของเรา โปรดกรุณาติดต่อ Mr. Flower ด่วนที่สุดครับ
การเตรียมตัวสำหรับทริปนี้ เนื่องจากช่วงเวลาที่เราเดินทางไปกราบนมัสการสังเวชนียสถานทั้งสี่นั้นเป็นช่วงเวลาที่อากาศไม่หนาวเย็นมากนัก (อุณหภูมิเฉลี่ย 13-20 องศาเซลเซียส) ดังนั้นท่านจึงไม่จำเป็นต้องนำเครื่องหนาวไปมาก เพียงแค่นำผ้าห่ม เช่น ผ้าแพรสำหรับคลุมร่างกายเวลาสวดมนต์นั่งสมาธิ ณ ลานกลางแจ้งก็เพียงพอแล้ว สมาชิกบางท่านถามว่าจำเป็นต้องนุ่งขาวห่มขาวตลอดเวลาหรือไม่ ขอเรียนว่า ไม่จำเป็นครับ ท่านสะดวกอย่างไร ก็โปรดจัดเตรียมชุดเหล่านั้นไป เพียงขอให้ระลึกว่าชุดเหล่านั้นจะช่วยให้ท่านสวมใส่แล้วสบายเวลานั่งสมาธิและไหว้พระ
กำหนดการเดินทาง
วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์
09.00 น. พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบินไทย เที่ยวบินTG 327
12.10 น. ออกเดินทางไปเมืองคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย
14.00 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงสนามบินคยา ผ่านพิธีการตรวจเอกสาร รับสัมภาระ ออกเดินทางโดยรถบัสปรับอากาศไปวัดลาวนานาชาติ ต.พุทธคยา
15.30 น. ถึงวัดลาวนานาชาติ เก็บสัมภาระ ทานอาหารกลางวัน
17.00 น. ไปนมัสการพระมหาเจดีย์พุทธคยา ต้นพระศรีมหาโพธิ์สถานที่ตรัสรู้ นมัสการพระแท่นวัชรอาสน์ หลวงพ่อพระพุทธเมตตา อายุกว่า 1,400 ปี สวดมนต์ นั่งสมาธิ
19.00 น. เดินทางกลับวัดลาวนานาชาติ ทานอาหารเย็นพักค้างคืน
วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์
06.00 น. ออกจากวัดลาวเดินทางไปเมืองราชคฤห์และเมืองนาลันทา (ทานอาหารเช้าบนรถ) ระยะทางประมาณ 90 กม.
09.00 น. ถึงเมืองราชคฤห์ เดินขึ้นเขาคิชฌกูฏ ผ่านถ้ำสุกรขาตา ถ้ำที่พระโมคคัลลานะบรรลุพระอรหันต์ และถ้ำของพระสาลีบุตร ผ่านกุฏิพระอานนท์ จากนั้นจะเดินขึ้นยอดเขา อันเป็นที่ตั้งของคันธกุฎี ที่ประทับของพระพุทธองค์ สวดมนต์ไหว้พระ ทำประทักษิณรอบพระคันธกุฎี
11.30 น. ถึงวัดไทยนาลันทา ทานอาหารกลางวัน
13.30 น. นมัสการหลวงพ่อองค์ดำ สร้างด้วยหินแกรนิตดำ เป็นพระพุทธรูปที่สร้างสมัยเดียวกับหลวงพ่อพระพุทธเมตตา
15.30 น. เดินทางกลับวัดลาวนานาชาติ พุทธคยา
18.00 น. ถึงวัดลาวฯ ทานอาหารเย็น พักค้างคืน
วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์
06.30 น. ทานอาหารเช้า แล้วเดินทางไปบ้านนางสุชาดา สถานที่ซึ่งนางถวายข้าวมธุปายาสแด่เจ้าชายสิทธัตถะ ก่อนตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ
11.00 น. เดินทางกลับวัดลาวฯ ทานอาหารกลางวัน
13.30 น. เดินทางไปวัดนานาชาติที่ตั้งอยู่ในเมืองพุทธคยา เช่น วัดญี่ปุ่น วัดทิเบต วัดภูฏาน วัดจีน วัดพม่า
16.00 น. เดินทางกลับวัดลาวฯ ทานอาหารเย็น พักผ่อนตามอัธยาศัยเพื่อเตรียมตัวเดินทางไกลวันรุ่งขึ้น
วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์
04.00 น. เดินทางไปเมืองกุสินารา ทานอาหารเช้าและกลางวันบนรถ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง ระยะทาง 300 กิโลเมตร)
15.00 น. ถึงเมืองกุสินารา นมัสการสถานที่พระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานที่สถูปปรินิพพาน คณะจะสวดมนต์ไหว้พระ ทำสมาธิ แล้วเดินทางต่อไปมกุฎพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ (ห่างจากสถูปประมาณหนึ่งกิโลเมตร คณะทำประทักษิณสามรอบ
18.00 น. เข้าพักที่วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ทานอาหารเย็น พักค้างคืน
วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์
06.00 น. ทานอาหารเช้า แล้วออกเดินทางไปต.ลุมพินี ประเทศเนปาล
11.00 น. ถึงสาลวโนทยาน 960 จุดพักผ่อนพรมแดนอินเดีย-เนปาล ทานอาหารกลางวัน
12.00 น. เดินทางไปชายแดนประเทศอินเดีย ถึงด่านโซนาลีติดกับชายแดนประเทศเนปาล ตรวจลงตราหนังสือเดินทาง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง แล้วเดินทางไปตำบลลุมพินี (ห่างจากชายแดนประมาณ 33 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 45 นาที)
14.30 น. ถึงตำบลลุมพินี กราบนมัสการสถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ตั้งอยู่ระหว่างเมืองกบิลพัสดุ์กับเมืองเทวทหะ นมัสการวิหารมายาเทวี ชมสระโบกขรณี คณะจะสวดมนต์ ทำสมาธิ ทำประทักษิณรอบวิหาร
17.30 น. เดินทางไปวัดไทยลุมพินี ทานอาหารเย็น ทำพิธีทอดผ้าป่า พักค้างคืน
วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์
06.00 น. ทานอาหารเช้าแล้วออกเดินทางถึงชายแดน ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง เดินทางไปเมืองสาวัตถี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง ระยะทาง 175 กิโลเมตร (ถนนสภาพไม่ดีนัก) ทานอาหารกลางวันบนรถ
15.00 น. ถึงเมืองสาวัตถี ไปวัดเชตวัน สถานที่ที่พระพุทธองค์ ทรงจำพรรษาอยู่ถึง 25 พรรษา นมัสการพระคันธกุฎีพระพุทธองค์ ต้นอานันทโพธิ์ บ้านอนาถบิณฑิกเศรษฐี บ้านองคุลีมาล
18.00 น. เดินทางไปวัดไทยเชตวัน ทานอาหารเย็น
19.00 น. เดินทางไปวัดเกาหลี พักค้างคืน
วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์
06.00 น. เดินทางไปวัดไทยเชตวัน ทานอาหารเช้า ออกเดินทางไปตำบลสารนาถ เมืองพาราณสี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง (ระยะทาง 305 กิโลเมตร) ทานอาหารกลางวันบนรถ
17.00 น. เดินทางถึงตำบลสารนาถ พักที่วัดไทยสารนาถ ทานอาหารเย็น พักค้างคืน
วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์
05.00 น. เดินทางไปล่องเรือชมแม่น้ำคงคายามเช้าตรู่
08.00 น. เดินทางกลับวัดไทยสารนาถ ทานอาหารเช้า
09.30 น. เดินทางไปธรรมเมกขสถูป สถานที่ที่พระบรมศาสดาแสดงปฐมเทศนาธัมมจักกัปปวัตนสูตรโปรดปัญจวัคคีย์ คณะจะสวดมนต์ ทำสมาธิ ทำประทักษิณสามรอบ
11.30 น. เดินกลับวัดไทยสารนาถ ทานอาหารกลางวัน
13.00 น. เดินทางกลับพุทธคยา ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง (ระยะทาง 250 กิโลเมตร)
20.00 น. ถึงวัดลาวฯ พักค้างคืน
วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์
07.00 น. ทานอาหารเช้า สวดมนต์ ไหว้พระ ทำสมาธิ พักผ่อนตามอัธยาศัย
11.00 น. ทานอาหารกลางวัน
16.00 น. เดินทางไปมหาเจดีย์ นั่งสมาธิ สวดมนต์
19.00 น. กลับที่พัก ทานอาหารเย็น พักค้างคืน
วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์
06.00 น. ทานอาหารเช้า เดินทางไปกราบนมัสการลาหลวงพ่อพุทธเมตตา พระมหาเจดีย์ ต้นพระศรีมหาโพธิ์
11.00 น. ทานอาหารกลางวัน
12.00 น. เดินทางจากวัดลาวฯ ไปสนามบินคยา เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ
12.30 น. ถึงสนามบินคยา ตรวจสอบสัมภาระ รับ boarding pass
14.45 น. เดินทางกลับไทยโดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 328 สู่สนามบินสุวรรณภูมิ
21.15 น. (เวลาประเทศไทย) ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
ทริปนี้เป็นทริปสำหรับการทำบุญทำกุศลโดยแท้ ดังนั้นระหว่างการไปกราบนมัสการสังเวชนียสถานสี่ และนั่งสมาธิ จะมีพระสงฆ์เป็นผู้นำสวดมนต์โดยตลอด ขอให้ท่านที่ร่วมเดินทางโปรดเตรียมสุขภาพให้ดี เพราะในบางเมืองที่เราจะไปนั้นอาจจะต้องใช้เวลาเดินทางด้วยรถบัสเป็นเวลานานนับ 10 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรและถนนของแต่ละเมือง)
หมายเหตุ ทริปต่อไป ประมาณเดือนมีนาคม จะเดินทางไปกราบนมัสการพระมหาเจดีย์ชเวดากอง และท่องเที่ยวเมืองพม่า โปรดติดตามรายละเอียดในตะลอนเที่ยวครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี