พม่า หรือเมียนมาร์ กำลังเนื้อหอมมากเหลือเกินในความรู้สึกของชาวตะวันตก แต่คนไทยบางคน ซึ่งมีดินแดนติดกับพม่ากลับบอกว่ารู้สึกเฉยๆ กับเมืองพม่า บางคนบอกว่าไม่คิดจะไปเที่ยวพม่า เพราะเชื่อไม่มีอะไรน่าสนใจ
Mr.Flower ขอบอกคุณๆ ที่คิดว่าพม่าไม่มีอะไรน่าสนใจว่า คุณคิดผิดอย่างมาก เพราะในความเป็นจริงแล้ว พม่ามีความน่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะในเรื่องพระพุทธศาสนา วัดวาอาราม สถูปเจดีย์ ศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมและวิถีชีวิต เศรษฐกิจการค้าการขาย รวมถึงเรื่องการเมืองภายในของพม่า
ขอบอกตรงๆ ว่า พม่าน่าสนใจมาก ถ้าหากคุณได้เคยไปสัมผัสพม่ามาบ้างแล้ว คุณจะรู้ว่าเมืองพม่ามีแง่มุมที่น่ารัก น่าค้นหา และน่าเข้าไปท่องเที่ยวจริงๆ การเข้าไปท่องเที่ยวพม่าในยุคสมัยนี้ก็แสนสะดวกสบาย และที่สำคัญคือเราสามารถเที่ยวได้ในราคาที่ไม่แพงจนรู้สึกว่าถูกขูดรีด (แม้ที่พักในพม่าจะค่อนข้างแพงกว่าเมืองไทยมากสักหน่อยก็ตาม แต่เราก็สามารถเลือกพักได้ตามความพึงพอใจ)
อีกอย่างหนึ่งที่คนไทยประทับใจมากเวลาไปเยือนเมืองพม่า คือ อัธยาศัยและไมตรีจิตของคนพม่า ยิ่งถ้าเขารู้ว่าเราเป็นคนไทยมาจากกรุงเทพฯ ด้วยแล้ว คนพม่าจะแสดงอาการปลื้มมาก จะชวนพูดชวนคุยอย่างเป็นกันเอง และให้ความสนอกสนใจกับกรุงเทพฯ อย่างออกนอกหน้านอกตา ซึ่งก็ทำให้เราซึ่งเป็นคนไทยรู้สึกปลื้มอยู่มิใช่น้อย
สัปดาห์ก่อน Mr.Flower ได้เกริ่นเรื่องนำเที่ยวเมืองพม่าไปแล้ว โดยเน้นเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ในเมืองย่างกุ้ง และเมืองที่ใกล้เคียงกับย่างกุ้ง ที่ใช้เวลานั่งรถยนต์ไปเกินสองชั่วโมง ปรากฏว่ามีผู้อ่านที่เป็นแฟนคอลัมน์ติดต่อมาหลายสิบราย หลายคนบอกว่าขอให้ทำรายการทัวร์ให้ละเอียด เพื่อจะได้ทราบว่าไปเที่ยวที่ไหนบ้าง และใช้เวลากี่วัน
สัปดาห์นี้ Mr.Flower ขอนำเสนอรายการทัวร์ให้คุณๆ ได้พิจารณาดังต่อไปนี้ครับผม
เที่ยวเมืองย่างกุ้งและหงสาวดี 4 วัน 3 คืน
วันแรกของการเดินทาง (กรุงเทพฯ - ดอนเมือง -ย่างกุ้ง) โดยสายการบินนกแอร์
04.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินดอนเมือง เคาน์เตอร์สายการบินนกแอร์ แถว 6 A โดย Mr.Flower และเจ้าหน้าที่จะคอยต้อนรับ และอำนวยความสะดวก
06.30 น. บินสู่เมืองย่างกุ้ง โดยสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD 4230
07.15 น. (เวลาท้องถิ่นในพม่าช้ากว่าไทย 30 นาที)ถึงสนามบินมินกาลาดง เมืองย่างกุ้ง สาธารณรัฐสหภาพเมียนมาร์ ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เสร็จแล้วเดินทางเข้าโรงแรมที่พัก แต่ยังไม่สามารถเช็คอินเข้าห้องพักได้เนื่องจากยังเป็นเวลาเช้ามาก แต่คณะของเราจะรับประทานอาหารเช้าในโรงแรม เสร็จแล้วเที่ยวชมย่านใจกลางเมืองบริเวณถนนสุเลพยา ซึ่งมีอาคารโบราณที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของย่างกุ้ง สร้างในยุคอาณานิคมอังกฤษ ถนนหนทางและผังเมืองเป็นรูปแบบวิกตอเรียน อาคารสำคัญ อาทิ ทำเนียบรัฐบาล ศาลาว่าการเมืองย่างกุ้ง อาคารศาลฎีกาและศาลสูงสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ โรงแรมสแตรนด์ และย่านธุรกิจและธนาคารต่างๆ
พักรับประทานอาหารกลางวัน ทานเสร็จก็เดินเที่ยวชมย่านไชนาทาวน์ และย่านอินเดียทาวน์ สองเขตการค้านี้แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระหว่างชนชาติพม่า-จีน-อินเดีย ได้เป็นอย่างดี จากนั้นนำคุณไปกราบสักการะพระมหาเจดีย์ชเวดากอง ศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของพม่าซึ่งประดิษฐานพระเกศาธาตุ 8 เส้นของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มหาเจดีย์นี้เป็นที่เคารพสักการะอย่างสูงสุดของชาวพม่า ชาวไทย รวมถึงพุทธศาสนิกชนทั่วโลก คณะของเราจะใช้เวลา ณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นเวลานาน เพื่อให้คุณได้ไหว้พระ และสวดมนต์อธิษฐาน รวมถึงได้สมาธิ ณ ลานของพระมหาเจดีย์ ขอเรียนว่ายิ่งคุณได้อยู่ในบริเวณพระมหาเจดีย์ชเวดากองเป็นเวลานานๆ คุณจะอิ่มเอิบและปีติกับพุทธสถานแห่งนี้อย่างมหัศจรรย์ ขอเรียนว่าหลายต่อหลายคนใช้เวลาบนลานพระมหาเจดีย์นี้ยาวนานมาก ยิ่งค่ำยิ่งงดงามวิจิตรจนสุดจะพรรณนา เมื่อกราบนมัสการเสร็จเรียบร้อยแล้วเราจะลงไปรับประทานอาหารค่ำด้วยกัน จากนั้นก็เข้าพักในโรงแรม
วันที่สองของการเดินทาง จากย่างกุ้งสู่เมืองหงสาวดี
เมื่อรับประทานอาหารเช้าเสร็จสรรพ คณะของเราก็จะนั่งรถปรับอากาศไปเมืองหงสาวดี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30–2 ชั่วโมง) เมื่อไปถึงก็จะไปกราบสักการะพระเจดีย์ไจ๊ปุน (Kyaipun Pagoda) ซึ่งมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยรอบทั้ง 4 ทิศ (คล้ายกับวัดพระสี่อิริยาบถ ที่กำแพงเพชร) สูง 30 เมตร แต่ปัจจุบัน พระพุทธรูปองค์ที่หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก เป็นพระพุทธรูปที่ถูกสร้างขึ้นใหม่แทนองค์ที่พังทลายลงไป จุดสังเกตคือดูที่พระพักตร์จะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมแบบพม่า ส่วนอีก 3 องค์เป็นแบบศิลปะมอญ
เสร็จแล้วไปกราบสักการะ พระเจดีย์ชเวมอดอ(Shwemawdaw) หรือพระธาตุมุเตา พระเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองหงสาวดี ประดิษฐานพระเกศาธาตุพระพุทธเจ้า เราจะกราบอธิษฐานและสวดมนต์ด้วยกันที่หน้าพระพุทธรูปและแต่ละท่านก็จะไปไหว้พระประจำวันเกิด เสร็จแล้วก็เป็นเวลารับประทานอาหารเที่ยง
ช่วงบ่าย เข้าชมซากพระราชวังของพระเจ้าบุเรงนอง หรือผู้ชนะสิบทิศ (Ruin Palace of Bayinnaung The Great) ชมซากเสาไม้สักกว่า 200 ต้น ที่เป็นฐานรากของอาคารที่เชื่อว่าเป็นพระราชวังของพระเจ้าบุเรงนอง จากนั้นไปกราบนมัสการพระพุทธไสยาสน์ชเวทัยวง (Shwethalyaung)องค์พระนอนที่งดงามที่สุดในพม่า แล้วหลังจากนั้นจะพาคุณๆ ไปเที่ยวชมตลาดสินค้าพื้นเมือง ดูงานแกะสลักไม้ แวะซื้อแป้งทานาคา และสินค้าสารพัด ซื้อของจนหนำใจแล้วก็จะพาคุณๆ
เดินทางกลับเมืองย่างกุ้ง รับประทานอาหารค่ำในย่างกุ้ง แล้วเข้านอนพักผ่อนในโรงแรม
วันที่สามของการเดินทาง เน้นเที่ยวอย่างเจาะลึกในเมืองย่างกุ้ง
หลังรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว จะนำเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ย่างกุ้ง ชมพระที่นั่งสิงหาสนบัลลังก์ของพระเจ้าสีป่อ กษัตริย์องค์สุดท้ายของพม่าก่อนที่จะถูกอังกฤษยึดครองเป็นเมืองขึ้น ชมเครื่องประดับต่างๆ ชมเครื่องทองและอัญมณี รวมถึงโบราณวัตถุอีกมากมาย ในพิพิธภัณฑ์นี้อาจจะดูไม่ทันสมัยมากนัก แต่ขอรับรองว่ามีของดีๆ ให้ชมอย่างคาดไม่ถึง เที่ยวชมจนได้เวลาเที่ยง คณะก็จะไปรับประทานอาหารเที่ยงด้วยกัน (อาจจะแวะให้คุณได้ชมทำเนียบเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศพม่า โดยถ่ายรูปอยู่ด้านนอก ขอเรียนว่าทำเนียบท่านทูตไทยแห่งนี้มีอายุเก่าแก่นับร้อยปี และเป็นอาคารที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองย่างกุ้ง)
ช่วงบ่ายเดินทางโดยรถปรับอากาศสู่เมืองสิเรียม(Syriam) ชื่อเดิมว่า ตันเลียน (Thanlyin) อดีตคือเมืองท่าค้าขายสำคัญของชาวโปรตุเกส ตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 21 ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายใกล้ปากน้ำพะโค ช่วงที่จะไหลลงสบกับแม่น้ำย่างกุ้ง แล้วขยายลงสู่ปากอ่าวทะเลอันดามัน นำคุณๆ นั่งเรือข้ามไปเกาะกลางแม่น้ำ เพื่อกราบนมัสการพระเจดีย์กลางน้ำ ยี เลพะยา (Yele Phaya Pagoda) เสร็จแล้วเดินทางกลับย่างกุ้ง รับประทานอาหารค่ำแล้วเข้าพักในโรงแรม
วันที่สี่ของการเดินทาง (ย่างกุ้ง – กรุงเทพฯ)
รับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว จะนำคุณๆ ไปกราบสักการะพระเจดีย์โบตาตวง ซึ่งประดิษฐานพระเกศาธาตุไว้ 1 องค์ และไปกราบนมัสการเทพทันใจ (นัตโบโบยี) เทพที่ชาวพม่าและไทยเคารพนับถืออย่างมาก ทุกคนนิยมไปขอพรและขอให้ได้ในสิ่งที่ตนเองปรารถนา เชื่อกันว่าอธิษฐานสิ่งใดแล้วจะสมความปรารถนาทุกประการ (เน้นว่าในสิ่งดีๆ เท่านั้น หากขอให้โกงบ้านกินเมือง เทพเจ้าก็ไม่ช่วยให้สมปรารถนานะครับ) จากนั้นก็จะไปขอพรจากเทพกระซิบ (อะมาดอว์เมียะ)ชาวพม่าและไทยเคารพและกราบไหว้กันมานานแล้ว การขอพรจากเทพกระซิบ ต้องเข้ากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของท่าน โดยห้ามไม่ให้คนอื่นได้ยินว่าขออะไร ชาวพม่าและชาวไทยนิยมขอพรจากเทพองค์นี้กันมาก จากนั้นก็ถึงเวลารับประทานอาหารเที่ยง
ช่วงบ่ายนำไปเที่ยว ตลาดสก๊อต หรือตลาดโบชก“Bogyoke” ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองย่างกุ้ง คราวนี้แหละเชิญคุณๆ ไปเลือกซื้อสินค้าตามที่คุณปรารถนา อาทิ โสร่งพม่า ไม้แกะสลัก เครื่องเขิน และอัญมณีต่างๆ รวมถึงหยก เลือกตามอัธยาศัยนะครับ Mr.Flower ไม่แนะนำร้านใดเป็นพิเศษ เมื่อซื้อของจนหนำใจแล้วก็จะพาไปกราบสักการะวัดพระเขี้ยวแก้ว ที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วอันศักดิ์สิทธิ์ อัญเชิญมาจากประเทศจีน ซึ่งเป็นองค์เดียวกับที่อัญเชิญมาที่พุทธมณฑล ประเทศไทย และไปกราบนมัสการพระพุทธรูปหินอ่อน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักจากหินอ่อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศพม่า จากนั้น
ก็เป็นเวลาอาหารค่ำ หลังจากอาหารค่ำ ก็จะเดินทางไปสนามบินมินกาลาดง
21.00 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD 4239
22.45 น. ถึงสนามบินดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ด้วยความสวัสดีและความประทับใจ
สำหรับโรงแรมที่คณะของเราตั้งใจจะเข้าพักคือโรงแรมชาเทรี่ยม ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการประสานงาน ส่วนราคาที่ตั้งไว้คือไม่เกิน 25,000 บาท ทริปนี้รับสมาชิกเพียง 40 คนเท่านั้นครับ สนใจโปรดติดต่อ Mr.Flower เบอร์โทร.081-9250300
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี