สวัสดีครับ เมื่อวันที่ 2-4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทีมงาน “สัตวแพทย์ จุฬาฯ ติดปีก” นำทีมโดย อาจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร ประธานโครงการฯ ได้จัดทีมคณาจารย์ สัตวแพทย์ นิสิต และบุคลากรทางสัตวแพทย์ จากคณะ
สัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกหน่วยทำหมัน ตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ถ่ายพยาธิ กำจัดเห็บหมัดและป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ ให้กับสุนัขและแมวทั้งที่มีเจ้าของและจรจัด ในเขตอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ครับ
โครงการนี้ ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรแสนดีเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็น สายการบินนกแอร์ และหนังสือพิมพ์แนวหน้า รวมถึงบริษัทผลิตยาและเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์อีกหลายบริษัท งานนี้ ผมกล้าพูดได้อย่างเต็มปากเลย ว่าเป็น “การร่วมมือของชุมชน” อย่างแท้จริง เนื่องจากมีการร่วมมือกันของคนในชุมชนปาย ไม่ว่าจะเป็นหน่วยราชการ (เทศบาลตำบล ปศุสัตว์อำเภอ อาสากู้ภัยการกุศล กลุ่มปายจิตอาสาเพื่อหมาแมวจรจัด) รวมถึงผู้ประกอบการในท้องที่ และอาสาสมัครทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยมี คุณประภาภรณ์ ยมกวาง เป็นผู้ประสานงานในท้องที่ครับ
วันที่ 2 ก.พ. 2558 ทีมงานรวมตัวกันที่สนามบินดอนเมือง ตั้งแต่ตี 5 เพื่อมุ่งหน้าสู่เชียงใหม่ด้วยสายการบินนกแอร์ (ผู้สนับสนุนตลอดกาลของเรา) เที่ยวแรกเวลา 6 โมงเช้า
เมื่อถึงเชียงใหม่ ทีมงานก็เดินทางมุ่งหน้าสู่อำเภอปายโดยรถตู้ 3 คัน แม้จะมีปัญหาขลุกขลักบ้าง เนื่องจากเมื่อออกจากสนามบินเชียงใหม่ได้ไม่ถึง 10 นาที รถตู้คันหนึ่งก็เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย ทำให้เสียเวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมง แต่....ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อความตั้งใจของทีมงานทุกคนครับ เรามุ่งหน้าสู่ “ปาย” ด้วยใจมุ่งมั่น ผ่าน 762 โค้งได้สบาย ระหว่างทางก็มีการแวะพักข้างทาง เพื่อให้ทุกคนได้ปรับสมดุลของ “น้ำในหู” กันบ้างเป็นระยะครับ
การออกหน่วยครั้งนี้ ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน พวกเราได้ทำหมันน้องแมวและหมาไปเกือบ 100 ตัวครับ และได้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและรักษาโรค รวมถึงกำจัดเห็บหมัดและถ่ายพยาธิได้อีกกว่า 100 ตัวด้วย
เป็นที่สังเกตได้ว่า สุนัขที่ปายนี้ มีปัญหาเรื่อง “พยาธิเม็ดเลือด” ซึ่งมีสาเหตุมาจาก “เห็บ” ครับ สุนัขที่นี่ส่วนใหญ่มีเห็บเยอะมาก โรคพยาธิในเม็ดเลือดนี้ทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง ไม่แข็งแรง เมื่อเกิดแผลแล้วเลือดจะหยุดยาก โรคนี้อันตรายถึงชีวิตเชียวนะครับ ซึ่งแนวทางการป้องกันเห็บนั้น ผมจะมานำเสนอในครั้งต่อๆ ไป
ปัญหาสุนัขและแมวจรจัดนั้น มีสาเหตุหลักมาจาก “การเลี้ยงสัตว์แบบขาดความรับผิดชอบ” เมื่อโตขึ้น ไม่น่ารัก ไม่สวย ไม่สะดวกเลี้ยง เพราะมีค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงเพิ่มขึ้น ก็ไม่อยากเลี้ยง และนำไปปล่อย ให้เป็นภาระแก่สังคมต่อไป การแก้ที่ผู้ใหญ่คงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นการรณรงค์ให้เยาวชนรุ่นใหม่มีจิตสำนึกในการเลี้ยงสัตว์ ให้ตระหนักว่า สุนัขและแมวเป็นสิ่งมีชีวิต ไม่ใช่ตุ๊กตาหรือของเล่น ถ้าตัดสินใจจะเลี้ยงแล้ว ก็ให้รับผิดชอบชีวิตเขา เสมือนเขาเป็น “สมาชิกคนหนึ่งครอบครัว” น่าจะเป็นแนวทางการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดครับ
ถ้าเด็กรุ่นใหม่มีความรับผิดชอบต่อสัตว์เลี้ยง ผมมั่นใจว่า ปัญหาสุนัขและแมวจรจัดจะค่อยๆ ลดลงครับ...ผมเชื่ออย่างนั้น...
อาจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร. ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี