กระบวนการหยุดอายุด้วยเข็ม เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วยังฟังดูเป็นเรื่องไกลตัวจริงๆ แต่พอมาถึงยุคนี้ การฉีด “โบทูลินั่มท็อกซิน” หรือที่คุณสาวๆ เรียกกันติดปากว่า “โบท็อกซ์” กลับดูเป็นเรื่องใกล้ตัวเอามากๆ คลินิกเสริมความงามหลายแห่งมีให้บริการนี้ในราคาที่เอื้อมถึงได้ไม่ยากนัก สาเหตุที่ทำให้คุณสาวๆ และชายหนุ่มทั่วโลก หันมาเลือกการฉีด “โบทูลินั่ม ท็อกซิน” หรือ “โบท็อกซ์” เพื่อชะลอริ้วรอยให้ดูสวยเปล่งปลั่งตลอดเวลา จนกลายเป็นกระแสฟีเวอร์ไปทั่วโลก เพราะเป็นนวัตกรรมความสวยความงาม ที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจทั้งใบหน้าและร่างกาย
นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ รองผู้อำนวยการ สถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า เป็นชื่อทางการค้าของสารโบทูลินั่มท็อกซิน (Botulinum toxin) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สร้างจากแบคทีเรียชื่อครอสตริเดียม ค้นพบโดย จิสทินัส เคอร์เนอร์ นายแพทย์ชาวเยอรมัน มีการใช้มายาวนานมาก เริ่มต้นโดยการนำมารักษากล้ามเนื้อคอกระตุก กล้ามเนื้อตากระตุก รวมถึงอาการปวดไมเกรน ตาเหล่ โดยสกัดให้ท็อกซินตัวนี้มีความเข้มข้นน้อยที่สุด ประมาณ 1 ในล้านๆ ส่วน จนกลายเป็นโปรตีนบริสุทธิ์ และใช้ในปริมาณที่น้อยที่สุดเพื่อความปลอดภัย และพอแพทย์นำมาใช้กับคนไข้ที่มีปัญหาตากระตุก ก็พบว่า นอกจากตาหายกระตุกแล้ว ริ้วรอยก็หายไปด้วย และนี่ก็เป็นที่มาของท็อกซินมหัศจรรย์ที่แพทย์ศัลยกรรมความงามและผิวพรรณ นำมาใช้ในการรักษาริ้วรอยเหี่ยวย่นที่เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อ และปรับรูปหน้าให้แก่สาวๆ กันในปัจจุบัน เพราะเห็นผลรวดเร็วและชัดเจนเลยหลังฉีด
“ท็อกซิน เมื่อนำมาใช้ในการลดริ้วรอยจะออกฤทธิ์ ภายใน 3-4 วัน เพราะทำให้กล้ามเนื้อขยับได้น้อยส่วนถ้าใช้ในการปรับรูปหน้า จะเห็นผลใน 1-2 เดือน เพื่อไปมีผลให้กล้ามเนื้อมันเล็กลงอีก ข้อควรระวัง ในการใช้ท็อกซิน คนไข้ไม่ควรเคี้ยวเยอะมันเหมือนเป็นการออกกำลังกายกล้ามเนื้อ จะทำให้กล้ามเนื้อกลับมาโตเร็วอีก ส่วนในการใช้ท็อกซินเพื่อการรักษาด้านความงามทางการแพทย์จะใช้ในปริมาณ 100-200 ยูนิต ในการฉีดแต่ละครั้ง ซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายในระยะยาว”
นพ.จินดา โรจนเมธินทร์
สำหรับคุณสาวที่สนใจการฉีดสาร “โบทูลินั่ม ท็อกซิน” เคล็ดลับง่ายๆ หมอขอแนะนำว่า เริ่มแรกคนไข้ต้องเข้าใจก่อนว่าปัญหาของตนเองคืออะไร มีวิธีรักษากี่แบบ จะมีความจำเป็นต้องใช้ท็อกซินหรือไม่ เพราะปัญหาบางอย่างอาจแค่ทายา หรือปฏิบัติตัวให้ถูกก็น่าจะเพียงพอ และเมื่อคนไข้เลือกใช้ท็อกซินในการรักษา การปฏิบัติตัวหลังฉีดภายใน 1 ชั่วโมงแรก คนไข้ควรขยับกล้ามเนื้อใบหน้า เช่น ยิ้มเยอะๆ เพื่อที่ท็อกซินจะได้ดูดซึมได้ดี และออกฤทธิ์เร็วขึ้น จากนั้นใน 3-4 ชั่วโมงแรก ไม่ควรนอนหลับ เพราะการนอนอาจจะทำให้ท็อกซินไหลไปในจุดที่ไม่ต้องการ และที่สำคัญห้ามนวดในจุดที่ฉีดท็อกซินลงไป เพราะจะทำให้ท็อกซินไหลไปในจุดที่ไม่ต้องการเช่นกัน อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมา เช่น 1.หลังจากฉีดแล้วจะรู้สึกแข็งไปทั้งใบหน้า บังคับกล้ามเนื้อบนใบหน้าไม่ได้ ทำให้หน้าดูทื่อคล้ายกับหุ่นยนต์ 2.หางคิ้วกระดก 3.หนังตาตก กล้ามเนื้อที่เป็นอัมพาตไปอาจทำให้หนังตาของคุณตกลง หน้าดูจึงดูอ่อนล้าเหมือนคนง่วงนอนอยู่ตลอดเวลา 4.หน้าผากตกและตึง 5.ความรู้สึกชาและผิวช้ำ และ 6.ใบหน้าบางส่วนเป็นอัมพาต
การเลือกที่จะสวยอย่างฉลาด และคุ้มค่าปลอดภัย คงเป็นคำตอบของสาวๆ ทุกคนอย่างแน่นอน...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี