ใช้ล้อรถตุ๊กตุ๊กจุ่มสีและนำมาลากบนกระดาษ
เช้านี้อากาศเย็นสบาย เราเลยเลือกใช้บริการรถตุ๊กตุ๊กนั่งจากบ้านไปยัง ถ.พระราม 4เพื่อไปเข้าชมงานนิทรรศการ “การเรียนรู้แบบ Project Approach” ของเด็กๆ โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ ได้เห็นบรรยากาศของโรงเรียนที่คึกคักและอุ่นหนาฝาคั่งด้วยผู้ปกครองที่จูงมือเด็กๆ มาชมนิทรรศการกัน ไหนๆ ก็นั่งรถตุ๊กตุ๊กมาถึงที่นี่แล้ว งั้นเราไปดูผลงานโครงงานของเด็กชั้นอนุบาล 2/1 ที่เลือกสืบค้นเรื่องรถตุ๊กตุ๊ก
คุณครูประจำชั้นเล่าให้ฟังว่า กระบวนการเรียนรู้แบบโครงงาน Project Approach เรื่อง “รถตุ๊กตุ๊ก” เด็กๆ ใช้เวลาในการเรียนรู้ทั้งหมด 7 สัปดาห์ น้องทิกเกอร์–ด.ช.ชยพลขัมพานนท์ เล่าว่า “รถตุ๊กตุ๊ก กำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ.2503 โดยเป็นรถตุ๊กตุ๊กหน้ากบ เป็นเครื่องยนต์ 2 จังหวะ 250 CCใช้เรือมหานครขนมา แล้วคนไทยเอามาดัดแปลงใส่เครื่องยนต์อยู่ข้างล่าง และเรียกว่ารถตุ๊กตุ๊ก เพราะมันมีเสียงแบบกระตุกๆ มีแฮนด์บังคับเลี้ยวซ้ายหรือขวา มีแบตเตอรี่ไว้จ่ายไฟ ล้อรถหมุนได้เพราะมีเพลา มี 5 เกียร์ รวมเกียร์ถอยหลัง ข้างหน้ารถมีไฟตรงกับไฟเลี้ยว หลังรถมีไฟเบรกสีแดง มีเบาะไว้นั่งด้านหลัง มีเครื่องยนต์ทำให้รถวิ่งได้ บางคันใช้น้ำมันดีเซล บางคันใช้แก๊ส LPG หรือ NGVแต่ทุกคันจะมีควันออกมาจากท่อไอเสีย มีกลิ่นเหม็นและเป็นมลพิษต่ออากาศ”
คุณครูไก่ เข้าชมผลงานและร่วมอ่านนิทานที่เด็กๆแต่งเอง
นอกจากนี้ คุณครูยังได้พานักเรียนห้อง อ.2/1 ไปทัศนศึกษาขั้นตอนการผลิตรถตุ๊กตุ๊กที่ บริษัท ไทย ตุ๊กตุ๊ก มอเตอร์ จำกัด น้องโอม-ด.ช.พิสิษฐ์ พงศ์พิเชฐกุล เล่าว่า “รถตุ๊กตุ๊กมีหลายแบบ คือ แบบสาธารณะที่เป็นรถรับจ้างทั่วไปมีเครื่องยนต์ 350 CC และ รถตุ๊กตุ๊ก ส่วนบุคคล ที่ใช้ในโรงแรม โรงพยาบาล มีเครื่องยนต์ 650 CCถ้าเป็นรถตุ๊กตุ๊กสีน้ำเงินเหลืองไว้รับจ้างทั่วไปบางคนเอารถตุ๊กตุ๊กไปดัดแปลงเป็นรถขายของขายไอศกรีม บนหลังคารถตุ๊กตุ๊กจะมีป้าย TAXI น้องปริ๊นเซส-ด.ญ.ธัญญพัทธ์ ชัยศรีสุขอำพร มาเล่าเสริมเกี่ยวกับกฎจราจรเกี่ยวกับรถตุ๊กตุ๊กว่า “คนขับรถตุ๊กตุ๊กต้องใส่เสื้อสีฟ้าเพราะเป็นรถรับจ้าง รถตุ๊กตุ๊กห้ามขึ้นทางด่วนและสะพานสูงๆ เพราะขับช้าอาจจะเกิดอันตรายได้ และรถตุ๊กตุ๊กมีโทษมากกว่าประโยชน์จึงไม่ผลิตเพิ่ม เหลือในกรุงเทพฯ ประมาณ 7,000 คัน ไม่มีประตูหน้าต่าง ไม่มีที่รัดเข็มขัด ไม่มีกระจกป้องกันควันรถทำให้เวลานั่งรถต้องสูดควันพิษเข้าไป ประโยชน์ของรถตุ๊กตุ๊กเอาไว้รับส่งผู้โดยสารและสามารถขนของได้ บางคันจะมีป้ายโฆษณาติดบนรถด้วย”
สัปดาห์นี้การเรียนรู้เรื่องตุ๊กตุ๊กเข้มข้นขึ้น เด็กๆ ได้ระดมสรรพกำลัง ช่วยกันประดิษฐ์รถตุ๊กตุ๊กจำลอง ทำขึ้นจากเศษวัสดุต่างๆ โดยเด็กๆ ได้ร่วมกันคิดสร้างสรรค์ผลงานจำลองรถตุ๊กตุ๊กขนาดเท่าของจริง มีการเลือกใช้วัสดุในแต่ละส่วนของรถตุ๊กตุ๊ก เช่น เบาะที่นั่งใช้ขวดน้ำมาต่อๆ กัน โดยการใช้ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมมาช่วย รวมทั้งยังเชื่อมโยงถึงวิชาคณิตศาสตร์เรื่องการกะระยะใกล้-ไกล เส้นทางที่ตุ๊กตุ๊กวิ่ง ความสูง ความกว้างและความยาวของรถตุ๊กตุ๊กจำลองอีกด้วย
ช่วยกันสืบค้นข้อมูลของรถตุ๊กตุ๊ก
สัปดาห์สุดท้ายของการทำโครงงานเรื่อง ”รถตุ๊กตุ๊ก” เด็กๆ ได้ร่วมกันทบทวนความรู้รวมถึงสรุปถึงกิจกรรมทั้งหมดที่เด็กๆ ได้ร่วมกันค้นคว้ามาตลอด 7 สัปดาห์ นอกจากเป็นการเรียนรู้แบบ Project Approach ที่ช่วยเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ รอบตัวเด็กอย่างลุ่มลึกด้วยตนเองแล้ว ยังได้เรียนรู้ที่จะบูรณาการทักษะวิชาการต่างๆ เข้าไปด้วย รวมถึง “สะเต็มศึกษา” (STEM Education) ซึ่งประกอบไปด้วยทักษะวิชา วิทยาศาสตร์ (S-science) เทคโนโลยี(T-Technology) วิศวกรรม(E-Engineering) และคณิตศาสตร์ (M-Mathematics) ที่เด็กๆ เหล่านี้สามารถเรียนรู้จดจำความรู้แง่มุมต่างๆ จากการได้ลงมือศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง รวมทั้งยังเป็นพื้นฐานสอนวิธีการคิดในรูปแบบต่างๆ ให้แก่เด็กอีกด้วย
เด็กๆ นั่งบนรถตุ๊กตุ๊กจำลอง ที่สร้างสรรค์ด้วยฝีมือตนเอง
พวกหนูได้ขึ้นรถตุ๊กตุ๊กกันทุกคนเลย
ไปทัศนศึกษาที่ บจก.ไทย ตุ๊กตุ๊ก มอเตอร์
สาธิตการใช้แบตเตอรี่สำหรับรถยนต์
ต้องเรียนรู้กฎจราจรเกี่ยวกับการขับรถด้วย
ช่วยกันประดิษฐ์ส่วนประกอบของรถตุ๊กตุ๊กจำลอง
เด็กๆ ช่วยกันสร้างรถตุ๊กตุ๊กจำลอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี