จั่วหัวว่าเมืองไวน์ สำหรับนักดื่มแล้วก็ไม่ต้องบอกเลย จะเป็นเมืองไหนไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ Bordeaux ทั้งนี้เพราะไวน์จากเมืองนี้เป็นไวน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในหมู่นักดื่มไวน์ แท้ที่จริงแล้ว Bordeaux ไม่ได้มีแค่ไวน์เท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญหลายอย่างในฝรั่งเศส เช่น เป็นเมืองท่าที่สำคัญ เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับหกของฝรั่งเศส และยังเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกในฐานะเมืองที่มีสถาปัตยกรรมของคริสต์ศตวรรษที่ 18 ที่โดดเด่นที่สุดด้วย
เมืองที่มีประวัติย้อนไปถึง 300 ปีก่อนคริสต์ศักราชนี้เป็นของชนเผ่าเซลติก แม้ในปี 107 ก่อนคริสต์ศักราช โรมจะเข้าตี แต่พวกเขาก็สามารถที่จะยื้อไว้ได้ อย่างไรก็ดี ในปี’60 เมืองนี้ก็ตกเป็นของโรมในที่สุด และกลายเป็นเมืองหลวงของโรมอยู่ถึงสามร้อยปี Bordeaux หมดความสำคัญลงหลายร้อยปีจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 12 เมื่อ Duchess Eleanor of Aquitaine ได้สมรสกับพระเจ้าเฮนรี่ที่แปดแห่งอังกฤษ และกลายเป็นศูนย์กลางของการขายไวน์ ในคริสต์ศตวรรษที่ 16Bordeaux ก็มีความสำคัญมากขึ้นเนื่องจากกลายเป็นศูนย์กลางของการขายน้ำตาลและทาสที่มาจาก West Indies ยุคทองของ Bordeaux เริ่มขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 18 เมื่อ Victor Hugo เห็นว่าเมืองนี้มีความสวยงามมาก พระเจ้านโปเลียนที่สาม จึงได้พัฒนาเมืองให้เทียบเท่ากับปารีสยิ่งกว่านั้นในปี 1870 Bordeaux ยังได้มีโอกาสเป็นเมืองหลวงแทนปารีสในสงคราม Franco-Prussian และระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสอง
นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสมาเยี่ยมเยียนเมืองนี้สามารถที่จะเดินชมเมืองได้ไม่ยาก แม้เมืองจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่โดยเริ่มเดินออกจากสถานีรถไฟไปทางทิศตะวันออกเพื่อไปเยี่ยมชมสะพาน Pont de Pierre สะพานแห่งแรกที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมแม่น้ำ Garonne สะพานที่ถูกออกแบบขึ้นในสมัย 1st French Empire ภายใต้บัญชาของพระเจ้านโปเลียนที่หนึ่งนี้กลับถูกสร้างขึ้นภายหลังในสมัยBourbon Restoration สะพานที่มีจำนวนความโค้งใต้สะพาน 17 อัน ตามจำนวนอักษรชื่อของนโปเลียน โบนาปาร์ต นี้เป็นสะพานที่สวยงามที่สุดของเมือง นักท่องเที่ยวที่มาเดินเที่ยวแถวนี้ในวันเสาร์ สามารถที่จะช็อปปิ้งสินค้า low end จากอินเดียและจีนได้ที่ Quai Richelieu ท่าเรือทางซ้ายของแม่น้ำที่เลย Pont de Pierre และหากเลี้ยวไปข้างโบสถ์ก็จะมีอาหารท้องถิ่นและผักผลไม้ให้ได้ซื้อหาด้วย
เดินเลยไปอีกไม่ไกลจะถึงหน้า Place de laBourse จะมีลานกว้างด้านหน้าที่เรียกว่า Miroir d’Eau de Bordeaux ที่มีน้ำพุ และเป็นลานน้ำตื้นๆเหมือนกระจกอยู่ นักท่องเที่ยวจะได้เห็นเด็กเล็กๆรวมทั้งผู้ใหญ่เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานจนหวนรำลึกถึงการเล่นน้ำท่วมในบ้านเรา บ่อสะท้อนที่มีขนาด 3,450 ตารางเมตร แต่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลกที่เพิ่งสร้างขึ้นในปี 2006 นี้บรรจุน้ำปริมาณเพียงแค่ 2 ซม.เท่านั้น บ่อนี้ยังสามารถจะสร้างหมอกทุกๆ 15 นาที ในฤดูร้อนด้วย
หลังจากเล่นน้ำเรียบร้อย นักท่องเที่ยวที่ชอบช็อปปิ้งก็อาจเดินช็อปปิ้งบนถนน St.Catherineซึ่งเป็นถนนช็อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของเมืองยาวถึง 1.2 กิโลเมตร ถนนที่เคยได้รับการขนานนามว่าถนนคนเดินที่ยาวที่สุดของยุโรปนี้เพิ่งได้รับการปรับโฉมใหม่ในปี 2000 นี้เอง ส่วนนักช็อปที่ชื่นชอบกระเป๋าราคาไม่แพงก็สามารถหาซื้อกระเป๋าได้ที่บริเวณ Market Hall เพราะที่นี่มีร้าน Longchampที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในฝรั่งเศสซึ่งมักมีการลดราคากระเป๋าที่หมดฤดูถึง 30-50% ด้วย ยิ่งกว่านั้นนักท่องเที่ยวที่อยากหาซื้อของกินยังสามารถหาซื้อขนมนมเนยหรือแม้แต่อาหารสดได้จาก Carrefour ใน Market Hall อีกต่างหาก หลังจากชมเมืองเสร็จ รับรองได้ว่านักท่องเที่ยวจะหลงใหลเมืองนี้ไม่น้อยไปกว่าปารีสเลยทีเดียว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี