เช้าวันอาทิตย์กิจกรรมที่สำคัญที่สุดของคนคริสต์ก็คือ การเข้าโบสถ์ ไหนๆ มา Bordeaux เมืองที่มีโบสถ์สวยที่สุดแห่งหนึ่งในฝรั่งเศสแล้วนักท่องเที่ยวควรหาประสบการณ์ในการเข้าพิธีกรรมในโบสถ์ให้ได้สักครั้ง การเดินทางไปโบสถ์สำคัญ Bordeaux Cathedral หรือ St.Andre ก็ไม่ยาก สามารถเดินออกจากสถานีตรงไปยังโบสถ์ที่อยู่กลางเมืองได้เลยใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที โบสถ์ที่ถูกกล่าวถึงครั้งแรกในประวัติศาสตร์ในปี 814 นี้ ได้รับขนานนามว่า St.Andre เพื่ออุทิศให้แก่พระสันตะปาปา Urban II
ในปี 1096
โบสถ์นี้มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์เพราะเป็นสถานที่อภิเษกสมรสระหว่าง Eleanor of Aquitaine กับพระเจ้าหลุยส์ที่ 7 ก่อนเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งฝรั่งเศส นอกจากนี้ในคริสต์ศตวรรษที่ 14 ที่นี่ยังมีอิทธิพลมากเพราะดูแลโบสถ์อีกหลายแห่ง ผู้ออกแบบโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบ Gothic แห่งนี้ตั้งใจจะสร้างให้มีหอระฆัง 4 หอ แต่สุดท้ายสร้างเพียงสองหอ เพราะการสร้างครบสี่หอจะหนักเกินกว่าที่ดินจะรับนํ้าหนักได้ ปัจจุบันโบสถ์แห่งนี้ได้เป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมแบบ
Angevic Gothic ที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดจาก Ile de France Gothic
นอกจาก Bordeaux Cathedral แล้วนักท่องเที่ยวอาจหาประสบการณ์ของพิธีมิสซาในตอนเช้าวันอาทิตย์ได้จากโบสถ์ Notre dame หรือ Church of Our Lady of Bordeaux โบสถ์ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ในสมัยรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 เมื่อพระองค์ต้องการที่จะขยายป้อมปราการเพื่อดูแลมิให้เกิดการจลาจลในปี 1684 บนที่ดินเดิมของโบสถ์โดมินิกันใกล้กับ Grand Theatre นี้ถูกออกแบบตามแนวทางสถาปัตยกรรมแบบบาโรคโดย Pierre Berquin และลูกชายของเขา ด้านหน้าแท่นบูชาจะมีรูปของสันตะปาปาโดมินิกัน 4 องค์ คือ St.Ambrose, St.Gregory, St.Jerome และ St.Augustine
หลังจากเสร็จนักท่องเที่ยวเยี่ยมเยือนโบสถ์และเข้าพิธีกรรมทางศาสนาเสร็จในตอนเช้านักท่องเที่ยวก็อาจหาความสำราญด้วยการช็อปปิ้งได้แถว Quai Richelieu เพราะมีตลาดนัดของมือสองในวันอาทิตย์ หรือเดินเลยไปถึง Quai de Chatrone ที่อยู่ใกล้กับ Contemporary Art Museum เพื่อชมตลาดสด ที่จะมีขายผัก ผลไม้ เบอร์รี่แห้ง เครื่องเทศและไวน์ รวมทั้งชีส
นักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อไวน์ดีของ Bordeaux ได้ในราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป เพราะเจ้าของไวน์ที่ได้รับรางวัลในแต่ละปีนำไวน์ที่ชนะประกวดมาเสนอขายเองโดยเจ้าของร้านไวน์หรือ Chateaux แต่ละแห่งจะมาบรรยายสรรพคุณและวิธีการดูฉลาก รวมทั้งให้ชิมอย่างจุใจจนเป็นที่พอใจของนักช็อปทั้งหลาย
เสร็จจากชิมและซื้อไวน์และชีสแล้วก็มาถึงไฮไลท์อีกอย่างของเมือง Bordeaux นั่นคือ การกินหอยนางรมสดๆ แกล้มไวน์ขาว เนื่องจากเขตนี้เป็นเขตส่งออกหอยนางรม นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสมาแถวนี้จึงควรลองลิ้มชิมรสวิธีการกินหอยนางรมสดๆ แบบชาวฝรั่งเศส โดยทั่วไปพ่อค้าชาวฝรั่งเศสจะขายหอยนางรมเป็นจาน ร้านค้าที่เป็นเพิงๆ จะติดราคาตั้งแต่ 6.5-8.5 เหรียญตามขนาดของหอยที่มักขายทีละ 6 ตัว โดยจะขายคู่กับไวน์ขาวเพื่อเพิ่มรสชาติอาหารให้กับคอไวน์ การกินหอยของชาวฝรั่งเศส แตกต่างจากเมืองไทยตรงที่ เขาจะแกะฝาหอยสด ๆ เมื่อมีคนสั่งซื้อแล้วเท่านั้นและทิ้งนํ้าไว้ในหอยโดยไม่เอานํ้าแข็งโป๊ะ เวลากินก็บีบมะนาวที่แถมมาให้ในจานแล้วจับทั้งฝาหอยซดสดๆ เลย ยิ่งถ้าแกล้มไวน์ขาวที่ขายมาพร้อมชุด 2 แก้ว เพิ่มอีก 2-3 เหรียญจะยิ่งได้รสชาติความหอมและหวานของหอยนางรมมากขึ้น นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสทดลองกินหอยนางรมริมนํ้าเยี่ยงนี้แล้ว รับรองได้ว่าจะติดใจจนอยากกลับมาเมืองนี้ทุกปีอย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี