สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯทรงเปิดและ ทอดพระเนตรเทวสตรี
ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์มานั้น ได้พบว่ามนุษย์มีความเชื่อต่อบทบาทสตรีเพศอย่างมากจนถือว่า “แม่เป็นใหญ่” ดังปรากฏในวัฒนธรรมยางซาวและป้านโพที่จีน ด้วยสตรีนั้นได้เกี่ยวพันในพิธีกรรมเพื่อความอุดมสมบูรณ์อยู่หลายเรื่อง อาทิตย์นี้ขอตามรอย เทวสตรี ที่มีการจัดนิทรรศการพิเศษเนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช 2558 เรื่อง “เทวสตรี : คติพุทธพราหมณ์ และความเชื่อในประเทศไทย” ไปจนถึงวันที่ 26 กรกฎาคม พุทธศักราช 2558 ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ด้วยความสำคัญในเรื่องนี้ได้มีหลักฐานทางโบราณคดี ประวัติศาสตร์ และศิลปกรรม ที่เป็นประติมากรรมรูปเคารพเนื่องในศาสนา เครื่องราง ตำราสมุดไทย ตามความเชื่อสืบต่อยุคสมัยทั้งพุทธศาสนา ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และคติความเชื่อท้องถิ่น
เทวสตรี ที่ได้รับการนับถือในประเทศไทยนั้นมีมากมายในศาสนาฮินดู-พราหมณ์นั้นมีเทวสตรีแห่งพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ได้แก่ พระแม่อุมาหรือพระนางปาราวตีพระนางลักษมี พระสุรัสวดี ในศาลาพุทธมีเทวสตรีผู้มีพลังแห่งปัญญา ได้แก่ พระนางปรัชญาปารมิตา พระนางโยคินี พระนางตาราหรือดารา พระนางจุนทา ในความเชื่อท้องถิ่นที่อยู่กับธรรมชาติและอาชีพเกษตรนั้นแก่ พระแม่ธรณี พระแม่โพสพ พระแม่คงคา แม่ซื้อ นางกวัก และพระภูมิเจ้าที่ ผีสางนางไม้ประจำถิ่น เป็นต้น ในความเชื่อดังกล่าวนี้ทำให้มีการสร้างรูปเคารพที่มีความสำคัญกันตามยุคสมัยตามบทบาทที่มีอยู่ในแหล่งโบราณคดีต่างๆทั่วประเทศ เทวสตรีองค์สำคัญที่มีบทบาทในความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดินนั้นได้มีรูปเคารพให้ศึกษาเรียนรู้มีพระอุมา ศิลปะลพบุรี แบบสมโบร์ไพรกุก อายุราวพุทธศตวรรษที่ 12 หรือมีอายุกว่า 1,400 ปี พระอรรธนารีศวร จากจังหวัดอุบลราชธานี เป็นรูปเคารพที่สร้างแบบครึ่งองค์ระหว่างพระศิวะกับพระอุมา แสดงถึงความเคารพในเทวสตรีเทียบเท่ากับเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ จัดเป็นเทวรูปรุ่นเก่า อายุราวพุทธศตวรรษที่ 12 เป็นเทวรูปที่เก่าแก่ที่สุดองค์หนึ่งในเอเชียอาคเนย์ พระนางปรัชญาปารมิตา จากปราสาทเมืองสิงห์ จังหวัดกาญจนบุรี ศิลปะลพบุรี อายุราวพุทธศตวรรษที่ 18 เป็นรูปแห่งปัญญาบารมีที่นำไปสู่การหลุดพ้น ตามคติศาสนาพุทธฝ่ายมหายานพระนางอุมาเทวี หรือพระนางปาราวตี จากเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ศิลปะสุโขทัย อายุราวพุทธศตวรรษที่ 20 พระพักตร์และสัดส่วนพระวรกายงดงามตามแบบศิลปะยุคทองของช่างไทย พระลักษมี ศิลปะอยุธยาจากอิทธิพลศิลปะอินเดียใต้อายุราวพุทธศตวรรษที่ 21
ภาพเขียนพระอิศวร พระอุมาเทวีและพระลักษมี ในตำราเก่า
ส่วนความเชื่อในเรื่องความอุดมสมบูรณ์นั้น เนื่องจากการทำนาเป็นอาชีพหลักของแผ่นดิน ไทยจึงนับถือเทวสตรีที่เกี่ยวกับดิน น้ำ และข้าว จึงมีเรื่องของ พระแม่ธรณีแทนแผ่นดินที่ใช้เพาะปลูก พระแม่คงคา แทนน้ำที่เป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตและใช้ในการเกษตร พระแม่โพสพ ที่เป็นตัวแทนผลผลิต ทางการเกษตรคือ ข้าว จึงมีพิธีที่เกี่ยวข้องกับการทำนาและผลิตผลทางการเกษตรจนมีประเพณีและความเชื่อสืบต่อเนื่องกันมาจนทุกวันนี้ แม้แต่ผู้ดูแลรักษาทารกแรกเกิดก็มี แม่ซื้อหรือแม่วี เพื่อดูแลให้ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บจนเติบใหญ่ อันเกิดจาก ปักษีหรือปีศาจลำบองราหู อัคคีมุขี และสะพั้น โดยมีแม่ซื้อทั้งเจ็ดดูแลเด็กผู้เกิดในวันต่างๆ แทนหมอยาที่ยังไม่มีหรือมีน้อยอยู่ และผู้ช่วยเหลือในการค้าขาย สร้างความเมตตาเป็นที่นิยมชมชอบก็มีนางกวัก เป็นต้น ส่วนผู้ดูแลรักษาสถานที่ เรือกสวนไร่นาก็มีพระภูมิเจ้าที่อีก 9 องค์ เป็นภูมิสวน ภูมิบ้าน อย่างที่นิยมตั้งศาลพระภูมิกัน อันเป็นภูมิเทวาอารักษ์ มีภูมิเทวีที่นับถือ แม้กระทั่งบรรพบุรุษผู้มีคุณก็ยกเป็นพระภูมิดูแลลูกหลานในตระกูล จนมีพิธีและกิจกรรมการสักการบูชาตามกลุ่มชาติพันธุ์ และเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพได้อาศัยเรื่องเหล่านี้ทำมาหากินกับผู้ที่มีความหลงเชื่อมากกว่าความศรัทธาและปัญญา เรื่องอย่างนี้มีอยู่ในเรื่องพรหมชาติเก่า และสมุดไทยเรื่องเทวปาง อันเป็นตำราแสดงคติการนับถือเทวสตรีในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ในราชสำนัก สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ และใช้เป็นภูมิแห่งความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดินด้วยความเป็นพระแม่แห่งเทวสตรีตามอย่างโบราณ (ขอบคุณข้อมูลและภาพจากพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติและเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมศิลปากร
นางกวัก เทวสตรี ที่สร้างเมตตามหานิยมดีนัก
พระนางปรัชญาปารมิตา ศิลปะลพบุรี
พระนางปาราวตี ศิลปะอินเดียใต้ จากเทวสถานเมืองละคร
พระนางอุมาเทวี หรือปาราวตี ศิลปะสุโขทัย
พระสุรัสวดี หรือพราหมณ์ศิลปะลพบุรี จากพนมรุ้ง
พระอรรธนารีศวร จากอุบลราชธานี
พระแม่โพสพ เทวสตรีแห่งการเกษตร
ภาพเขียนพระนางอุมาเทวีในสมุดไทยตำราเทวปาง
แผ่นดินเผาเทวสตรี ศิลปะทวาราวดี
หม้อดินเผาอายุ 3,000-4,000 ปี แสดงเต้านมของสตรี
เทวสตรี ศิลปะลพบุรี จากปราสาทพนมวัน
พระแม่ธรณี ศิลปะรัตนโกสินทร์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี