พระยาแรกนาในพิธีแรกนาขวัญ
การทำนาปลูกข้าวนั้นเป็นอาชีพหลักในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ดังนั้นจึงมีพิธีกรรมอันเกี่ยวเนื่องจากวัฒนธรรมข้าวแตกต่างกัน สำหรับประเทศไทยนั้นได้มีพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เป็นพระราชพิธีสำคัญซึ่งเพิ่งจัดพิธีผ่านมาเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม อาทิตย์นี้จึงนำเรื่องราวของพิธีเก่าที่ปรากฏอยู่ในตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ ซึ่งมีความตามอักขระเดิมว่า “ในเดือนหก พระราชพิธีไพศาขจรดพระนังคัล พราหมณ์ประชุมกันผูกพรดเชิญเทวรูปเข้าโรงพิธี ณ ท้องทุ่งละหานหลวงหน้า พระตำหนักห้าง เขากำหนดฤกษ์แรกนาว่าใช้วันอาทิตย์ พระเจ้าแผ่นดินทรงเครื่องต้นอย่างเทศทรงม้าพระที่นั่ง พยุหยาตรา เป็นพระบวนเพชรพวงพระอัครชายาและพระราชวงศานุวงศ์ พระสนมกำนัลเลือกแต่ที่ต้องพระราชหฤทัย ขึ้นรถประเทียบตามเสด็จไปในกระบวนหลังประทับที่พระตำหนักห้าง จึงโปรดให้ออกญาพลเทพธิบดีแต่งตัวอย่างลูกหลวง มีกระบวนแห่ประดับด้วย กรรเชิงบังสูร พราหมณ์เป่าสังข์โปรยข้าวตอกนำหน้า ครั้นเมื่อถึงมณฑลท้องละหาน ก็นำพระโคอุสภราชเทียมไถทอง พระครูพิธีมอบยามไถและประฎักทอง ให้ออกญาพลเทพเป็นผู้ไถที่หนึ่งพระศรีมโหสถ ซึ่งเป็นบิดานางนพมาศเอาแต่งตัวเครื่องขาวอย่างพราหมณ์ ถือไถหุ้มด้วยรัตกัมพลแดง เทียมด้วยโคกระวินทั้งไม่ประฎัก พระโหราลั่นฆ้องชัยประโคมดุริยางค์ดนตรี ออกเดินไถเวียนซ้ายไปขวา ชีพ่อพราหมณ์ปรายข้าวตอกดอกไม้ บันเลือเสียงสังข์ไม้บัณเฑาะว์นำหน้าไถ ขุนบริบูรณ์ธัญญา นายนักงานนาหลวงแต่งตัวนุ่งเพลาะคาดรัดประคดสวมหมวกสาน ถือกระเช้าโปรยหว่านพืชธัญญาหารตามทางไถจรดพระนังคัลถ้วนสามรอบ ในขณะนั้นมีการมหรสพ ระเบงระบำโมงครุ่มหกคะเมนไต่ลวด ลวดบ่วงรำแพนแทงวิสัยไก่ป่าช้าหงส์รายรอบปริมณฑลที่แรกนาขวัญ แล้วจึงปล่อยพระโคทั้งสามอย่างออกกินเสี่ยงทายของห้าสิ่ง แล้วโหรพราหมณ์ก็ทำนายตามตำรับไตรเพท ในขณะนั้นพระอัครชายาก็ดำรัสสั่งพระสนมให้เชิญเครื่องพระสุพรรณภาชน์มธุปายาสขึ้นถวายพระเจ้าอยู่หัวเสวย ราชมัลก็ยกมธุปายาสเลี้ยงลูกขุนทั้งปวง” พระราชพิธีสำคัญนี้เชื่อว่ามีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยแล้วและได้กระทำต่อเนื่องกันมาถึงสมัยอยุธยา ซึ่งมีการจัดแตกต่างกันดังปรากฏในกฎมณเทียรบาลว่า “พระเจ้าแผ่นดินไม่ได้เสด็จไปในพิธี โปรดให้เจ้าพระยาจันทกุมารเป็นผู้แทนพระองค์มอบพระแสงอาญาสิทธิ์ให้ ส่วนพระพลเทพคงเป็นตำแหน่งเสนาบดี สำหรับพระเจ้าแผ่นดินนั้น ในตอนนี้ทรงทำเหมือนหนึ่งออกจากอำนาจความเป็นกษัตริย์ทรงจำศีลเงียบเสียสามวัน” และในคำให้การของชาวกรุงเก่าได้กล่าวว่า“พระราชพิธีจรดพระนังคัล พระเจ้ากรุงศรีอยุธยาโปรดให้ พระจันทกุมารแรกนาต่างพระองค์ ส่วนพระมเหสีก็จัดนางเทพีต่างพระองค์เหมือนกัน นั่งเสลี่ยงเงินมีกระบวนแห่เป็นเกียรติยศ ไปยังโรงพิธีซึ่งตั้งที่ตำบลวัดผ้าขาว ครั้นถึงเวลามงคลฤกษ์พระจันทกุมาร ถือคันไถเทียมด้วยโคอุสุภราชออกญาพลเทพจูงโคไถ 3 รอบ นางเทพีหว่านข้าวเสร็จแล้ว จึงปลดโคอุสุภราชให้กินน้ำ, ถั่ว, งา, ข้าวเปลือก ถ้ากินสิ่งใดก็มีคำทำนายต่างๆ” ระหว่างการพระราชพิธีจรดพระนังคัลสามวันนั้นได้มีการยกพระราชทานภาษีค่าท่าและอากรขนอนแก่พระจันทกุมารผู้เป็นพระยาแรกนา เมื่อกระทำพิธีนี้แล้วราษฎรจึงจะเริ่มลงมือไถหว่านทำนาได้พระราชพิธีนี้ได้กระทำกันต่อมาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ไม่ได้เว้น ในรัชกาลที่ 1 นั้น ให้ถือว่าตำแหน่งเจ้าพระยาพลเทพนั้นทำหน้าที่เป็นพระยาแรกนาคู่กันกับพระยายืนชิงช้า จนถึงรัชกาลที่ 3 จึงตกลงเป็นธรรมเนียมว่า ผู้ใดยืนชิงช้าให้เป็นผู้แรกนาด้วย พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญนี้จึงเป็นพิธีสำคัญที่จัดกันมาแต่สมัยโบราณ ซึ่งผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดินถือเป็นธรรมเนียมต่อกันมาจนถึงปัจจุบันนี้ เพื่อให้พระราชพิธีนี้เป็นขวัญกำลังใจให้แก่ชาวนาและเกษตรกรซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม ในรัชกาลปัจจุบันพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญได้ดำเนินการตามแบบอย่างโบราณราชประเพณี โดยดัดแปลงให้เหมาะแก่กาลสมัย อาทิ พิธีของพราหมณ์ก็มีการตัดทอนให้เหลือน้อยลงผู้เป็นพระยาแรกนาแต่เดิมนั้นให้ตกเป็นหน้าที่ของปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในระยะแรกนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรพระราชพิธีทุกปีณ มณฑลพิธีที่สนามหลวง โดยมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทูตานุทูตเกษตรกรและประชาชนได้มาชมการแรกนาเป็นจำนวนมาก เมื่อเสร็จพิธีแล้ว ประชาชนจะพากันแย่งเก็บเมล็ดข้าว นำไปผสมกับพันธุ์ข้าวที่ปลูกหรือเก็บไว้เป็นถุงเงินเพื่อความสิริมงคล ซึ่งเป็นพิธีที่เป็นภูมิขวัญภูมิข้าวของเกษตรกรของแผ่นดินเช่นเดียวกับพิธีกรรมของแต่ประเทศที่มีการทำนาในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญในปัจจุบัน
เฉวียนพระโคกินเลี้ยง
สนามหลวงสถานที่จัดพระราชพิธี
พิธีเกี่ยวกับข้าวของเวียดนาม
การทำนาดำ
ผ้าเสี่ยงทายการทำนา
พิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญในอดีต
พิธีแรกนาของเมียนมา
ภาพเขียนพระยาแรกนา
ภาพเขียนพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
ลงมือปักกล้าข้าวในนา
เริ่มต้นการทำนาหลังพิธี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี