นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสมาฝรั่งเศส และเที่ยวปารีส มาร์กเซย์ บอร์กโดจนชุ่มปอดแล้ว เมืองหนึ่งที่น่าสนใจและแนะนำให้มาเที่ยวก็คือToulouse เมืองทางใต้ที่เป็นแหล่งผลิต Airbus เครื่องบินที่สายการบินไทยเป็นลูกค้าประจำ การเดินทางจากปารีสอาจไกลสักหน่อยใช้เวลามากถึง 05.30-06.30 ชั่วโมง ซึ่งคงเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับไม่ได้ หรือมาจาก Marseille ก็ใช้เวลาร่วม4 ชั่วโมง ซึ่งอาจนานไปหน่อย แต่ยังพอที่จะเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับได้เช่นกันโดยต้องออกจาก Marseille เช้าหน่อย และกลับถึงคํ่าหน่อย นักท่องเที่ยวที่อยากมาเมืองนี้จึงควรมาจาก Bordeaux หรือ Montpillier มากกว่าเพราะจะใช้เวลาเพียงแค่ 2 ชั่วโมงเศษเท่านั้น แต่หากนักท่องเที่ยวมีเวลามากพอ และไม่เบื่อการเก็บกระเป๋าบ่อยๆ ควรมานอนค้างเมืองนี้เลย เพราะที่นี่เป็นเมืองสวยและมีสถานที่ท่องเที่ยวมากพอควรที่จะทำให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาได้สองวันอย่างสบาย ๆ
สถานที่แรกที่นักท่องเที่ยวจะผ่านหลังออกจากสถานีรถไฟคือ Chapelle du Carmel โบสถ์ที่ตั้งอยู่บนถนน Perigord อันเป็นโบสถ์ที่เหลืออยู่ของสำนักชี The Carmelites ofToulouse Haute-Geronne นี้ถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มแม่ชี Carmelite ซึ่งเป็นแม่ชีกลุ่มแรกที่มาถึง Toulouse พระเจ้าหลุยส์ที่ 13 และ Anna of Austria พระมเหสีได้มาวางศิลาฤกษ์โบสถ์แห่งนี้เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ปี 1622 และพระองค์ยังได้สัญญาว่าจะพระราชทานทุนทรัพย์ 25,000 ปอนด์เพื่อใช้ในการก่อสร้าง แต่พระองค์กลับมิได้มอบให้โบสถ์ตามสัญญาส่งผลให้การก่อสร้างโบสถ์ล่าช้า
อย่างไรก็ดี อารามก็สามารถสร้างจนสำเร็จในปี 1643 การตกแต่งผนังของโบสถ์แห่งนี้เป็นผลงานของ Jean-Pierre Rivalz ส่วนการตกแต่งเพิ่มเติมภายหลังเป็นผลงานของ Jean-BaptisteDespax ลูกศิษย์ของเขาในปี 1752โบสถ์แห่งเดียวที่ไม่ถูกทำลายในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศสนี้กลายเป็นโรงเรียนสอนศาสนาในระหว่างปี 1807-1905 แต่ภาพเขียนหลายชิ้นที่ตกแต่งโบสถ์ก็ถูกเคลื่อนย้ายและสูญหายไป เมื่อรัฐบาลออกกฎหมายแยกรัฐกับศาสนจักรอย่างเด็ดขาด โบสถ์นี้ได้กลายเป็นมิวเซียมของมหาวิทยาลัยไป และกลับมาเป็นสมบัติของกระทรวงวัฒนธรรมอีกครั้งโดยเปิดให้สาธารณชนเข้าใช้ในปี 1975 นักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนโบสถ์นี้มักใช้เวลาไม่มากและรู้สึกแปลกใจ เพราะที่นี่ไม่มีเก้าอี้ให้นั่งเหมือนอย่างโบสถ์อื่น
ส่วน Cathedral Saint Etienne de Toulouse หรือมหาวิหารประจำเมืองตูลูสอันเป็นที่ประทับของ Archbishop ของตูลูสนี้ถูกกล่าวขวัญขึ้นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ในปี 844ด้านหน้าของโบสถ์จะมีลักษณะแปลกเพราะวิหารถูกสร้างห่างกันหลายทศวรรษโดยแต่ละครั้งสร้างไม่เสร็จ ครั้งแรกสร้างในปี 1230 แล้วต่อเติมในปี 1272 แต่ทำคนละด้านแต่ก็สร้างไม่เสร็จอีกเช่นกัน หลังจากนั้นวิหารก็ได้รับการปรับปรุงตกแต่งใหม่หลายครั้งให้เป็นแนว Gothic ภายใต้โครงสร้างแบบ Romanesque จนทำให้เกิดการเชื่อมต่อเกิดขึ้นแบบไม่สมดุล แถมยังสร้างไม่เสร็จอีกอยู่ดี จวบจนกระทั่งทศวรรษที่ 1920 วิหารก็ได้รับการสร้างกำแพงใหม่และเพิ่มเติมประตูทางเข้าทางทิศเหนือให้เหมือนกับทิศตะวันตก ไม่เพียงด้านนอกของวิหารจะสร้างไม่เสร็จ ด้านในก็สร้างไม่เสร็จเช่นกัน ห้องสวดมนต์ห้องแรกถูกสร้างตั้งแต่ปี 1279 แต่ห้องอื่น ๆที่เหลืออีก 14 ห้องสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 14 และส่วนกระจกสีได้รับการตกแต่งตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 ก็สำเร็จลงในคริสต์ศตวรรษที่ 19 แม้วิหารแห่งนี้จะมีประวัติการสร้างที่ยาวนาน ไม่ต่อเนื่องแถมไม่เคยเสร็จสมบูรณ์ แต่นักท่องเที่ยวจะเห็นว่าสถาปัตยกรรมด้านนอกสวยงามน่าประทับใจไม่น้อยเลยทีเดียว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี