ผศ.พญ.สุวิรากร โอภาสวงศ์
เพราะไลฟ์สไตล์ที่มีความสะดวกสบายจากการใช้บริการช็อปปิ้งออนไลน์ โดยเฉพาะคุณสาวๆ ที่เป็นนักช็อปตัวยง อยากได้อะไรก็สั่งซื้อได้ทางอินเตอร์เนต ตั้งแต่เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ไม่เว้นแม้แต่ เครื่องสำอาง แต่การสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ก็เข้าข่าย “ตาดีได้ตาร้ายเสีย” เพราะผู้ซื้อไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นได้สัมผัสสินค้าของจริงก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งการสั่งซื้อเครื่องสำอางออนไลน์ในระยะนี้มักมีข่าวการร้องเรียนเครื่องสำอางไม่ได้มาตรฐานหรือมีส่วนผสมอันตรายจากผู้บริโภคหลายราย แทนที่จะสวยกลับทำให้หน้าพัง มีอาการปวดแสบ ปวดร้อน อาการคันเป็นตุ่มแดง ตุ่มน้ำ มีขุย มีผื่นแดงบวม ซึ่ง สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย มิได้นิ่งนอนใจออกมาให้ความรู้แก่ผู้บริโภคก่อนตัดสินใจซื้อเครื่องสำอางออนไลน์
ผศ.พญ.สุวิรากร โอภาสวงศ์ ประธานประชาสัมพันธ์ สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากกรณีที่มีกระแสผ่านโซเชียลเนตเวิร์กเกี่ยวกับผู้บริโภคสั่งซื้อเครื่องสำอางผ่านทางอินเตอร์เนต และเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงนั้น ทางสมาคมแพทย์ผิวหนังฯ มีความเป็นห่วงอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในยุคที่ทุกคนต่างให้ความสำคัญเรื่องความสวยงาม ความดูดี ดูสวย โดยคำว่า “เครื่องสำอาง” นั้นหมายถึงวัตถุที่มุ่งหมายสำหรับใช้ทา ถู นวด โรย พ่น หยอด ใส่ อบ หรือกระทำด้วยวิธีอื่นใด ต่อส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายเพื่อความสะอาด ความสวยงาม หรือส่งเสริมให้เกิดความสวยงาม ซึ่งเครื่องสำอางที่ถือว่ามีอัตราทำให้เกิดผลข้างเคียงสูง ได้แก่ น้ำยายืดผม ครีมทำให้ผิวขาว ครีมรักษาฝ้า น้ำยาหรือครีมขจัดขน ส่วนที่มีอัตราทำให้เกิดผลข้างเคียงปานกลาง ได้แก่ น้ำยาดัดผม น้ำยาย้อมผม ครีมบำรุงผม มาสก์หน้า โฟมอาบน้ำ ครีมแก้สิว ลิปสติก ครีมรองพื้น น้ำยาทำความสะอาดอวัยวะเพศ ยากันแดด ยาระงับกลิ่นกายและยาลดเหงื่อ
“อาการผิดปกติจากการใช้เครื่องสำอางอาจเกิดได้ 2 แบบ คือ แพ้แบบการระคายเคืองในทางการแพทย์ใช้เรียกว่า
Irritant contact dermatitis พบได้ 80-90% และมักเกิดขึ้นกับคนส่วนใหญ่ อาการนี้จะเกิดขึ้นต่อเมื่อผิวสัมผัสกับสารหรือสภาวะที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น สภาวความเป็นกรด-ด่างมากเกินไป ร้อน-เย็นเกินไปใช้สารเคมีหรือเครื่องสำอางที่ทำให้ผิวแห้งมีส่วนผสมสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ง่ายเป็นปริมาณมากหรือใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาการแสดงของการระคายเคือง เช่น มีผื่นแดงและถ้ารุนแรงก็เป็นตุ่มน้ำได้ โดยอาการผิดปกตินี้จะเกิดขึ้นบนบริเวณที่ทาเท่านั้น จะไม่ลามไปส่วนอื่นๆ ส่วนการแพ้อีกแบบ คือการแพ้จริงๆ สารทำให้เกิดการแพ้ได้บ่อย ได้แก่ น้ำหอม ที่ช่วยให้เครื่องสำอางมีกลิ่นน่าใช้และกลบกลิ่นสารเคมี สารกันบูด เช่น พาราเบนฟอร์มัลดีไฮด์ สารที่อยู่ในยาย้อมผม ได้แก่สารพาราเฟนนีลีนไดเอมีน สารลาโนลินหรือไขแกะที่เป็นตัวทำเนื้อครีมหรือโลชั่น”
ดร.นพ.เวสารัช เวสสโกวิท
สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้แล้ว จะแก้ไขทำอย่างไรนั้น ผศ.พญ.สุวิรากร ให้ความรู้เพิ่มเติมว่า ในขั้นแรกเลยคือต้องหยุดใช้เครื่องสำอางต้องสงสัยนั้นทันที หากมีเครื่องสำอางต้องสงสัยหลายตัว ให้หยุดใช้ตัวที่นำมาใช้ใหม่แล้วเกิดอาการก่อน ถ้าหยุดใช้แล้วอาการดีขึ้นก็อาจแสดงว่าเครื่องสำอางตัวนั้นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้แพ้ หากมีอาการแพ้มาก มีผิวหน้าอักเสบอยู่ให้หยุดใช้เครื่องสำอางทุกชนิด อนุญาตให้ใช้ลิปสติก (ถ้าไม่มีผื่นที่ปาก) เครื่องสำอางแต่งดวงตา (ถ้าไม่มีผื่นรอบดวงตา) แป้งเด็ก เมื่ออาการผิวหนังอักเสบหายแล้วค่อยลองใช้ทีละตัว เป็นอย่างๆ ไป ถ้าเกิดผื่นขึ้น ให้ลองหยุดตัวที่ใช้สุดท้าย ถ้าอาการหายไป ก็น่าจะเกิดอาการแพ้เครื่องสำอางนั้นๆ วิธีที่จะพิสูจน์ง่ายๆ ว่าเครื่องสำอางชนิดนั้นเป็นสาเหตุที่เกิดจากการแพ้จริงหรือไม่ ให้ทำการทดสอบโดยทาเครื่องสำอางที่สงสัยบริเวณท้องแขน วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 1 สัปดาห์ หากมีผื่นขึ้นก็แสดงว่าแพ้จริงและให้หยุดใช้เครื่องสำอางนั้นๆ
ด้าน ดร.นพ.เวสารัช เวสสโกวิท ประธานฝ่ายแพทย์และจริยธรรม สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติม
ว่า ในส่วนของเครื่องสำอางที่ขายทางอินเตอร์เนตส่วนใหญ่ มักจะมีสารที่ผิดกฎหมายเจือปนอยู่อาทิ สารจำพวกไฮโดรควิโนน สารสเตอรอยด์ สารปรอท ซึ่งสารเหล่านี้จะทำให้หน้าขาวใสอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อใช้ไประยะหนึ่งแล้วหน้าจะบางลง เส้นเลือดขยาย แพ้ง่าย หยุดใช้ไม่ได้เกิดการติด และบางครั้งทำให้เกิดด่างขาวถาวรได้ ปัจจุบันมีเครื่องสำอางที่ขายทางอินเตอร์เนต สั่งผลิต และขึ้นทะเบียนถูกต้อง แต่พอขายจริงก็ส่งตัวที่มีสารผิดกฎหมายเพื่อจะได้เห็นผลเร็วๆ เมื่อทางองค์การอาหารและยาไปจับก็ปฏิเสธว่าไม่ใช่ของตัวเอง มีคนมาปลอมใช้ชื่อเหมือนกันบ้าง ซึ่งเป็นการค้าที่ไม่มีคุณธรรมและจริยธรรมอย่างยิ่ง
“ในส่วนเครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐานนั้น ปัจจุบันกองควบคุมเครื่องสำอาง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ออกกฎหมายควบคุมการผลิตเครื่องสำอางให้เครื่องสำอางทุกชนิดต้องขึ้นทะเบียน แสดงส่วนประกอบ โรงงานผลิต ผู้จัดจำหน่าย วันที่ผลิต หรือวันหมดอายุ เพื่อว่าถ้าเกิดอาการแพ้แล้ว การทราบได้ว่าสาเหตุการแพ้เกิดจากสารอะไรจะได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามในท้องตลาดมีเครื่องสำอางที่ไม่ได้อยู่ในข่ายนี้มากมาย เช่น เครื่องสำอางที่ขายตามตลาดนัด หรือขายตามสถานเสริมความงาม บนอินเตอร์เนต
ดังนั้น ก่อนการตัดสินใจซื้อเครื่องสำอางออนไลน์ หรือแม้จะซื้อตามร้านจำหน่ายทั่วไป ควรต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายประการ เช่น แหล่งผลิต รายละเอียดของเครื่องสำอาง สารประกอบส่วนผสมต่างๆ ในเครื่องสำอาง เลขที่ใบอนุญาตเครื่องสำอาง ชื่อเสียงของแบรนด์เครื่องสำอาง ตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียทั้งเงิน เสียใจ และเสียเวลา แทนที่จะได้หน้าสวยกลับได้หน้าเสีย เพราะตกเป็นเหยื่อของเครื่องสำอางไม่ได้มาตรฐานและเป็นอันตรายต่อตนเอง”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี