สวัสดีครับ เมื่อสัปดาห์ก่อน (11-13 พ.ค. 2558) คณาจารย์ สัตวแพทย์ นิสิต และบุคลากรทางสัตวแพทย์ จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในนาม “สัตวแพทย์ จุฬาฯ ติดปีก” ในชื่อภาษาอังกฤษว่า “Winged Vet Chula” นำโดย อาจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร ประธานโครงการ ได้ออกหน่วย ทำหมัน ตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ถ่ายพยาธิ กำจัดเห็บหมัดและป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ ให้กับสุนัขและแมวจรจัด รวมถึงที่มีเจ้าของด้วย ในเขตจังหวัดระยองมาครับ
งานนี้ ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน เราจัดหน่วยเป็น 2 จุด ทั้งชายฝั่งบ้านเพ และบนเกาะเสม็ด โดยวันแรกเราให้บริการที่หอประชุมโรงเรียนวัดเภตรา ตำบลเพ ส่วนในวันที่สอง เราให้บริการที่สถานีอนามัยเกาะเสม็ด ทางทีมงานต้องขอขอบคุณที่เอื้อเฟื้อสถานที่ ที่ใช้ได้จำลองเป็นห้องผ่าตัดประยุกต์และคลินิกเคลื่อนที่สำหรับดำเนินโครงการด้วยครับ
ทีมสัตวแพทย์จุฬาฯ ติดปีก ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีเช่นเคยจาก หนังสือพิมพ์แนวหน้า สายการบินนกแอร์ และเครือ SCG นอกจากนี้ได้รับการสนับสนุนเรื่องยาและเวชภัณฑ์สำหรับการทำหมันและวัคซีนจากพันธมิตรหลายบริษัท ได้แก่ บริษัทรอยัลคานิน (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทเมอเรียล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทเวทเรคคอมเมนต์ จำกัด บริษัทเวอร์แบค (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท MSD (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทโซเอติส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทไทยก๊อส จำกัด บริษัทไบเออร์ไทย จำกัด และบริษัทเนสท์เล่ (ประเทศไทย) จำกัด
งานนี้ สุนัขและแมว “เสร็จ” (ได้รับการทำหมันเพื่อลดอัตราการเพิ่มประชากรสัตว์จรจัด) ไปถึงประมาณ 100 ตัว และได้รับการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า ฉีดยา/หยอดยากำจัดเห็บ-หมัด รวมถึงรับการรักษาไปทั้งสิ้นเกือบ 500 ตัว ซึ่งมากกว่าทุกปีที่เคยจัดมา ทำเอาทีมงานแทบสลบกันทีเดียว แต่เราได้รับความสะดวกสบายเรื่องที่พักและอาหารแสนอร่อยจาก บ้านสับปะรด ในเครือเสม็ดรีสอร์ท ซึ่งคณาจารย์ หมอ และทีมงาน ได้อิ่มหมีพีมันและได้พักผ่อนกันอย่างเต็มที่ โดยการบริการที่แสนอบอุ่นจากทีมพนักงานที่แสนน่ารักจากบ้านสับปะรดทุกคน งานนี้ต้องขอขอบคุณเป็นพิเศษ สำหรับผู้จัดการสาวสวย “คุณใหม่” กัตติกมาส ศิริโยธา ในการดูแลและประสานงานในพื้นที่ ซึ่งทำให้งานผ่านไปได้อย่างคล่องตัวครับ
จากการพูดคุยกับชาวบ้าน ทำให้ทราบว่าชาวบ้านส่วนใหญ่เริ่มเข้าใจแล้วว่า ปัญหาสุนัขและแมวจรจัดนั้น มีสาเหตุหลักมาจาก “การเลี้ยงสัตว์แบบขาดความรับผิดชอบ” หลายคนที่เริ่มเลี้ยงลูกสัตว์เพราะเห็นว่าน่ารัก แต่เมื่อโตขึ้น ความน่ารักและความสวยงามลดลง หรือเริ่มรู้สึกว่าไม่สะดวกเลี้ยง เพราะมีค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงเพิ่มขึ้น ก็ไม่อยากดูแลต่อ หลายคนผลักภาระนี้ให้กับสังคม โดยการนำไปปล่อยตามที่สาธารณะ
การแก้ปัญหาโดยการปลูกฝังที่ผู้ใหญ่นั้นคงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นการรณรงค์ให้เยาวชนรุ่นใหม่มีจิตสำนึกในการเลี้ยงสัตว์ ให้ตระหนักว่า สุนัขและแมวเป็นสิ่งมีชีวิต ไม่ใช่สิ่งของหรือของเล่น ถ้าตัดสินใจจะเลี้ยงแล้ว ก็ให้รับผิดชอบชีวิตเขา เสมือนเขาเป็น “สมาชิกในคนหนึ่งครอบครัว” น่าจะเป็นแนวทางการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดครับ
“การทำหมัน” เป็นเพียงการ “ลดอัตราการเพิ่ม” ให้จำนวนสัตว์เพิ่มในอัตราที่ช้าลง แต่ ไม่ใช่การลดจำนวนสัตว์ เพราะเราไม่ได้ฆ่าสัตว์ ดังนั้นเมื่อผ่านโครงการไปแล้ว สัตว์จรจัดจะยังมีจำนวนคงเดิม และดำรงชีวิตได้ตามปกติตามอายุขัยของเขา เพียงแต่ไม่เพิ่มจำนวนแพร่ลูกหลานให้เป็นปัญหาต่อสังคมเพิ่มขึ้นเท่านั้นเองครับ
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ไม่ให้จำนวนสัตว์จรจัดเพิ่มขึ้น ต้องเริ่มต้นจากตัวเราและครอบครัวของเรา จากนั้นจึงค่อยๆ ขยายไปเป็นหมู่บ้าน ชุมชนที่ใหญ่ขึ้น ถ้าเราปลูกฝังให้เด็กรุ่นใหม่มีความรับผิดชอบต่อสัตว์เลี้ยงมากขึ้นแล้ว ผมมั่นใจว่า ปัญหาสุนัขและแมวจรจัดจะค่อยๆ ลดลงแน่นอนครับ
อาจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี