ป้ากุล-รศ.กุลวรา ชูพงศ์ไพโรจน์
ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรม “เสาร์สร้างสุข” ภายใต้ “SOOK Activity” ตอน “นิทานสร้างเด็กฉลาด” เพื่อเสริมสร้างจินตนาการให้กับเด็กๆ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ในครอบครัว ภายในงานจัดให้มีการเสวนาภายใต้หัวข้อ “นิทานสร้างสุข” โดยนักเล่านิทานระดับแถวหน้าของเมืองไทย รศ.กุลวรา ชูพงศ์ไพโรจน์ หรือป้ากุล ของเด็กๆ พร้อมด้วยสองนักแสดงเด็กมากความสามารถ น้องเจมส์-จิรายุขุนรักษ์ และ น้องจีน่า-พัตทรีญาภรณ์ บุญธุ่มรัตนา มาร่วมเรียนรู้เทคนิคการเล่านิทานตลอดจนประดิษฐ์หุ่นมือแบบง่ายๆ อีกทั้ง ยังมีกิจกรรมเวิร์กช็อปประดิษฐ์ของเล่นจากวัสดุเหลือใช้กับ พันเอกสิทธิโชค มุกเตียร์ ซึ่งมีเหล่าบรรดาคุณพ่อ-คุณแม่ จูงมือลูกๆ มาร่วมกิจกรรมคับคั่ง
รศ.กุลวรา ชูพงศ์ไพโรจน์ หรือ ป้ากุล ได้กล่าวถึงความสำคัญของนิทานกับการสร้างเด็กฉลาดว่า การเล่านิทานเป็นการสร้างการเรียนรู้ สร้างจินตนาการ ส่งเสริมพัฒนาการทางด้านอารมณ์จิตใจ ในขณะที่เด็กฟังนิทาน เด็กจะมีความสนุกสนานเพลิดเพลิน ทำให้เด็กมีความสงบ สุขุมเยือกเย็น และมีสมาธิมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญนิทานยังช่วยพัฒนาทักษะทางด้านภาษา การฟัง พูด อ่านและเขียน ส่งเสริมพัฒนาการทางด้านสติปัญญา นอกจากนี้การเล่านิทานยังช่วยให้เด็กได้เคลื่อนไหวส่วนต่างๆของร่างกาย ซึ่งเป็นการพัฒนาทางด้านกล้ามเนื้อใหญ่ ทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของคนในครอบครัว ที่ได้ใช้เวลาร่วมกัน
“นิทานที่เล่าให้ลูกฟังนั้น คุณพ่อ-คุณแม่ควรเลือก เป็นนิทานสั้นๆ ง่ายๆ จบเรื่องด้วยความสุข แทรกคุณธรรมคำสอนที่เข้าใจง่าย เช่น นิทานกลอนสั้นๆ หรือคุณพ่อ คุณแม่อาจแต่งนิทานขึ้นมาใหม่ก็ได้ ลูกจะชอบฟังเสียงของคุณพ่อคุณแม่ เพราะเป็นเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความรัก ความเมตตา ในการเล่านิทานที่จะสร้างความสนใจให้เด็กอยากฟังนิทานนั้น ควรเลือกใช้โทนเสียงตื่นเต้นเร้าใจ พร้อมกับเลียนเสียงตัวละคร ในเรื่องเพื่อเพิ่มความสนุก เช่น เสียงสัตว์ เสียงฝนตก เสียงรถไฟ ฯลฯ และควรมีอุปกรณ์เสริมในการเล่านิทานเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ โดยใช้อุปกรณ์ง่ายๆ เช่น ใช้การพับกระดาษประกอบการเล่านิทาน เช่นเมื่อเล่าว่ามีภูเขาลูกหนึ่ง ก็พับกระดาษเป็นสามเหลี่ยม เด็กก็จะได้เรียนรู้ว่าภูเขามีรูปทรงเป็นสามเหลี่ยม และได้เรียนรู้รูปทรงเรขาคณิตไปด้วยในตัว อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กๆ อยากที่จะพับกระดาษเป็นรูปทรงต่างๆ ด้วยตนเองบ้าง ช่วยให้เด็กพัฒนากล้ามเนื้อมือ และพัฒนาจินตนาการของเขาอีกด้วย”
น้องๆ ที่มาร่วมงานสนุกกับของเล่นจากวัสดุเหลือใช้
ด้านนักประดิษฐ์ของจากเศษวัสดุเหลือใช้ พันเอกสิทธิโชค มุกเตียร์ ได้แนะนำการประดิษฐ์ของเล่นจากวัสดุเหลือใช้อย่างง่ายๆ ที่ช่วยเสริมสร้างความฉลาดของเด็กว่า “ของเล่น เป็นสิ่งสำคัญของพัฒนาการในวัยเด็ก การเล่นที่ให้ความสนุกสนาน เพลิดเพลิน สามารถกระตุ้นการเรียนรู้ของเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งพ่อ แม่ ผู้ปกครอง สามารถนำเอาวัสดุเหลือใช้มาดัดแปลงเป็นของเล่นวิทยาศาสตร์ได้สารพัด เช่น ฮาร์ดดิสก์ที่ไม่ใช้แล้ว นำมารื้อ ถอด แยกชิ้นส่วน แล้วนำกลับมาใช้เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าประกอบเป็นของเล่น เช่น ตุ๊กตากลไก สามารถขยับได้ หรือนำมาดัดแปลงเป็นกระดิ่งไฟฟ้า รวมถึงนำมาดัดแปลงเป็นเครื่องปั่นไฟสุดหรรษา โดยการใช้มือหมุนเฟืองเพื่อให้ไฟสีสว่างขึ้นมา หรือเพื่อให้เพลงดังขึ้นมาจาก 2 มือของ พ่อ แม่ กับลูก ร่วมกัน ของเล่นเหล่านี้นอกจากจะเสริมสร้างจินตนาการและแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ ทำให้เขาสนใจคิดค้นสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้แล้ว ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและลดมลภาวะให้กับโลกอีกด้วย”
พันเอกสิทธิโชค มุกเตียร์
น้องจีน่า-พัตทรีญาภรณ์ บุญธุ่ม รัตนา กล่าวว่า “จีน่าชอบอ่านนิทานมากๆ ค่ะ เพราะนิทานจะมีคติสอนใจ บางเรื่องก็จะสอดแทรกคุณธรรม หรือบางเรื่องก็จะสอนความประพฤติที่ควรทำและไม่ควรทำ บางทีถ้าผู้ใหญ่เดินมาบอกเราว่าห้ามทำอย่างนั้นนะ ห้ามทำอย่างนี้ บางทีเราก็อาจไม่เชื่อ เพราะเราไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องห้าม แต่นิทานมีภาพแสดงให้เราเห็นผลลัพธ์ของการกระทำ เช่น ถ้าเป็นคนชอบโกหก ต่อไปจะไม่มีใครเชื่อ ไม่มีใครช่วยเหลือ เหมือนเช่นนิทานเด็กเลี้ยงแกะ”
น้องจีน่า-พัตทรีญาภรณ์ บุญธุ่มรัตนาและคุณแม่
ทั้งนี้ กิจกรรมเสาร์สร้างสุขยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกหลากหลาย ในทุกวันเสาร์ ที่ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซ.งามดูพลี กรุงเทพฯ ผู้สนใจสามารถร่วมกิจกรรมได้ฟรี ด้วยการส่ง ชื่อ-นามสกุล อายุ ที่อยู่ และเบอร์โทร. ระบุกิจกรรมที่สนใจมาที่ activity.thc@thaihealth.or.th หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 081-7318270 (09.00-17.00 น.) จันทร์-เสาร์ เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ Line ID : thaihealth_center รวมทั้งติดตามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ www.thaihealthcenter.org
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี