เป็นเจ้าของลักชัวรี่โปรดักส์ที่เก่งสุดๆ สำหรับ “ปุ๋ย-วรวิทย์ ศิริพากย์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท บุรี จำกัด เจ้าของแบรนด์ PANPURI ที่ได้รับการตอบรับที่ดีทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุดรายการ“ผู้หญิงแนวหน้ากับคุณแหน” ทุกวันอาทิตย์เวลา 16.00-16.25 น. ทางสถานี TNN2 ช่อง 784 โดย 2 พิธีกร “ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์” และ “เล็ก-กรกนก ยงสกุล” ได้พาไปพูดคุยถึงผลิตภัณฑ์และรางวัลต่างๆ ที่ PANPURI ได้รับมาจากทั้งในและต่างประเทศ
ปุ๋ย-วรวิทย์ ศิริพากย์ เล่าให้ฟังว่า “PANPURI ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2003 ตอนนี้ก็ 12 ขวบแล้วครับ ตอนเริ่มก่อตั้งจริงๆ ผมเป็นคนที่ชอบใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติอยู่แล้ว เพราะแพ้ง่าย พวกสารเคมี พวกสารสังเคราะห์ หรือน้ำหอมสังเคราะห์ก็จะแพ้ง่าย จะเป็นคนที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติมาตั้งแต่เด็ก แล้วก็มีโอกาสได้ไปเรียนต่างประเทศ อากาศหนาวมาก ตอนนั้นที่แคนาดาลบสูงสุดน่าจะ -40 องศา หนาวมากๆ ก็เลยต้องเรียนรู้การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวไปโดยปริยาย แล้วก็ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติด้วย ก็เลยเป็นความชอบสะสมมาเรื่อยๆ
จากนั้นช่วงที่เรียนปริญญาโท ก็ได้ย้ายไปเรียนที่ยุโรป เผอิญทำธีสิสก่อนจบเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องเกี่ยวกับความสามารถของประเทศไทยที่จะสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ตอนนั้นสปาบ้านเราเพิ่งจะเริ่ม ก็เลยหยิบเรื่องนี้มาทำ มันก็เลยเป็นอะไรที่สานต่อกันมา พอมีโอกาสได้กลับมาอยู่ที่เมืองไทยก็รู้สึกว่าผลิตภัณฑ์และธุรกิจนี้มันไปได้จริงๆ ในบ้านเรา ก็เลยเริ่มทำขึ้นมา
โปรดักส์แรกๆ ที่เราทำ จริงๆ ต้องบอกว่าตอนมาครั้งแรกก็จัดเต็มเลย มาครบตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าเลย ค่อนข้างเตรียมงานมาระดับหนึ่งนะครับ โปรดักส์เราแรกๆ เราก็มีจุดเด่นแต่ต้นเลย ว่าเราต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่มันธรรมชาติจริงๆ สมัยนั้นยังไม่ค่อยมีผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค เรียกว่าเมืองไทยแทบจะไม่มีเลย เพราะส่วนผสมก็หายากมากเลย เราก็เริ่มจากการไม่ใช้น้ำหอม ใช้ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติจริงๆ เป็นจุดเริ่มต้น
ของเรา
(ซ้าย) พิธีกรรายการ ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์, ปุ๋ย-วรวิทย์ ศิริพากย์, เล็ก-กรกนก ยงสกุล
พวกกลิ่นหอมที่ใช้ก็พวกสารสกัดต่างๆ น้ำมันที่ใช้ อะไรที่มันรุนแรงต่อผิวทั้งหลายเราก็จะไม่ใช้ ส่วนตัวผมเป็นคนชอบอ่านฉลากด้วยมั้งครับ เวลาทานอาหาร เวลาซื้อของ จะอ่านฉลากอันนี้ผ่าน อย. หรือเปล่า จะต้องเป็นคนเลือกครับ ถ้าเราจะทำอาหารกินเองก็ต้องเลือกซอสที่ดีที่สุด เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเราเอง ของของเราจึงค่อนข้างที่จะเป็นโปรดักส์ที่ค่อนข้างที่จะมีความเสี่ยงกับการแพ้น้อยมาก เพราะผลิตภัณฑ์ธรรมชาติมันจะค่อนข้างอ่อนโยนต่อผิว แล้วก็ไม่มีสารเคมี ทำให้คนโอกาสแพ้จะน้อยลง
PANPURI จริงๆ เป็นแบรนด์แรกเลยครับ ที่นำส่วนผสมจากเกษตรอินทรีย์ ที่เราเรียกว่าออร์แกนิคมาใช้ น่าจะประมาณปี 2006 ตอนนั้นเรานำมาใช้ในสบู่ก้อนแรกของเรา และหลังจากสบู่ก้อนแรกเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ เราก็นำมาใช้ในผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพิ่มขึ้นอีก หลังจากที่เรียกว่าเราเป็นคนจุดกระแสความต้องการของผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค
จนมาถึงเป็น PANPURI ออร์แกนิคสปา ที่นี่ โดยคอนเซ็ปต์นี้จริงๆ ฟังง่ายแต่ทำยาก ก็คือว่าทุกอย่างที่แตะต้องตัวลูกค้าจะต้องเป็นออร์แกนิค ฉะนั้นชาที่ดื่มอยู่นี้ก็เป็นออร์แกนิค เข้าไปให้ห้องทรีทเม้นท์ผลิตภัณฑ์ที่นำมาสัมผัสกับผิว ก็เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคแม้แต่ผ้าฝ้าย ผ้าเช็ดตัว ผ้าขนหนูที่ใช้ ก็เป็นผ้าออร์แกนิค ทุกรายละเอียดเลยครับ ซึ่งจริงๆ ต้องบอกว่าผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคมันดีไม่ใช่กับผิวพรรณอย่างเดียว มันดีกับธรรมชาติด้วย ช่วยรักษาดิน รักษาน้ำ หลายๆ อย่างเลยครับ PANPURI ก็พยายามเป็นผู้นำด้านนี้มาตลอด
สำหรับชื่อ PANPURI จริงๆ PANPURI มาจากภาษาบาลีสันสกฤต มาจาก 2 คำครับ คำว่า ปันยะ ที่แปลว่า ปัญญา หรือความตื่นความสว่างของจิตนี่เอง ส่วนผลิตภัณฑ์ชิ้นที่เป็นไฮไลท์ที่ขายดีมากๆ จริงๆ ก็มีหลายชิ้นเลยนะครับ ถ้าเอาเริ่มต้นก่อนลูกค้าจะรู้จัก PANPURI จากกลิ่นก่อนดีกว่าครับ เพราะว่ากลิ่นของ PANPURI จะค่อนข้างมีมิติที่หลากหลาย และก็มีเอกลักษณ์ของตัวเอง กลิ่นมะลิเป็นกลิ่นหลักๆ ของเรา กลิ่นตะไคร้ กลิ่นกระดังงา ก็จะเป็นกลิ่นหลักๆ”
ผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่นิยมที่สุดจะเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาผิวกาย ที่ลูกค้าจะใช้ได้บ่อยๆ เช่น มีน้ำมันอยู่ตัวหนึ่งขายดีตลอดกาล จะเป็นน้ำมันที่โดนน้ำจะกลายเป็นน้ำนม ซึ่งตัวนี้จะเป็นบาธออยส์ด้วย เป็นน้ำมันทาตัวเพื่อความชุ่มชื้นได้ด้วย แล้วก็จะเป็นน้ำมันนวดได้ด้วยครับ ตัวนี้จะเป็นทรีอินวันที่ขายดีมาก มีหลายกลิ่น ตัวนี้จะเป็นที่นิยมตลอดกาลแล้วก็แอนด์ครีม ก็จะเป็นที่นิยมของลูกค้าเช่นกัน พกติดตัวได้ง่าย ที่เหลือก็จะเป็นกลุ่มที่สร้างกลิ่น เช่น เทียน เทียนหอมของ PANPURIหลายๆ ท่านคงรู้จักในหลายๆ งาน”
เมื่อถามถึงเรื่องรางวัลต่างๆ ที่ PANPURI เคยได้รับ ปุ๋ย-วรวิทย์ ศิริพากย์ บอกว่า เอาจริงๆ PANPURI ได้รับรางวัลทั้งในประเทศ และก็ต่างประเทศค่อนข้างเยอะนะครับ ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ผมขอกล่าวถึงรางวัลล่าสุดปีนี้ปีที่ผ่านมา เราได้รางวัลจากทั้งเยอรมนี ทั้งฮ่องกง และก็ไอส์แลนด์ ที่เกี่ยวกับทรีทเม้นท์ อย่างฮ่องกงเขาให้รางวัลที่เมืองไทยว่าเป็นเบสท์เดย์สปา คือเขาดูทั่วเอเชียเลย แล้วเขามองว่าสปาที่ไหนเป็นสปาที่ดีที่สุดในเอเชีย PANPURI ออร์แกนิค สปาก็ได้ไป
ที่เยอรมนีก็เป็น เบสท์ทรีทเม้นท์ ก็คือผลิตภัณฑ์ที่นำไปใช้ทำทรีทเม้นท์ในสปาที่ดีที่สุด ก็เป็น PANPURI ที่ไอส์แลนด์ก็เช่นกัน อย่างปีที่แล้วก็ได้รับเกียรติท่านนายกรัฐมนตรีด้วยให้ PANPURI เป็น เบสท์ไทยแลนด์ เป็นแบรนด์ที่ดีที่สุดของประเทศไทย
สุดท้ายก็อยากฝากข้อคิดถึงคนที่ประกอบธุรกิจสายนี้ จริงๆ ส่วนตัวผมเชื่อตลอดเวลาว่า เราจะต้องทำในสิ่งที่เรารัก รักและลุ่มหลงเลยดีกว่า คือถ้าเรารักและก็ลุ่มหลงมันจริงๆ จะอยู่กับมันได้ทั้งวัน แล้วจะมีความใส่ใจกับทุกสิ่งที่เป็นสิ่งที่เราทำผมไม่เชื่อในเรื่องผลตอบแทนหรือรางวัล หรือการที่จะต้องคิดว่า ทำแล้วจะต้องได้เงินหรือจะรวยมาก่อน ผมว่าจุดประสงค์หลักๆ คือเราทำในสิ่งที่เรารักดีที่สุด แล้วความสำเร็จอื่นๆ ก็จะตามมาเอง แล้วสองก็ต้องมีหัวใจกับสมองควบคู่กันไป คนคนหนึ่งไม่สามารถทำทุกอย่างได้ จะต้องมีทีมงานที่ดี ผมเองก็ทำทุกอย่างไม่ได้เหมือนกันต้องขอบคุณทีมงานที่ทำให้ PANPURI มาได้ถึงวันนี้ ก็คง 2 ข้อหลักๆ นี้ ก็มีทั้งหัวใจและสมองไปด้วยกันครับ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี