เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราได้คุยกันถึงข้อมูลพื้นฐาน และวิธีการเลี้ยงกระต่ายเบื้องต้นไปแล้วนะครับ เนื่องจากความน่ารักและขี้อ้อนของกระต่ายนี่เอง ทำให้เจ้าสี่ขาตัวน้อยนี้ถูกรับเข้ามาเลี้ยงให้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวกันมากขึ้น และด้วยความที่กระต่ายนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงชนิดพิเศษ หรือที่เราจัดอยู่ในกลุ่ม exotic animal ซึ่งกินอาหารที่มีเยื่อใย ได้แก่ หญ้าเป็นหลัก ซึ่งต่างจากในสุนัขและแมว การเลี้ยงดูจึงแตกต่างกันอย่างมาก จากข้อมูลเมื่อสัปดาห์ก่อน ทุกท่านก็คงได้ทราบแล้วว่าปัญหาหรือโรคต่างๆ ที่เกิดได้บ่อย ซึ่งทำให้เจ้ากระต่ายน้อยของเราถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย นั่นคือปัญหาเกี่ยวกับ “การท้องเสียและโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร” นั่นเอง
ในสัปดาห์นี้ เรามารู้จักภาวะความผิดปกติของทางเดินอาหารที่เรียกว่า “ภาวะทางเดินอาหารเคลื่อนตัวลดลงและภาวะหยุดนิ่งของการเคลื่อนตัวของทางเดินอาหาร” หรือ Gastrointestinalhypomotility and Gastrointestinal stasis ซึ่ง อ.สพ.ญ.ดร.พรหมพร รักษาเสรี จาก ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลไว้น่าสนใจทีเดียวครับ
● การเคลื่อนตัวลดลงของทางเดินอาหารมีสาเหตุมาจากอะไร?
1.กระต่ายไม่ยอมกินอาหารจากปัญหาต่างๆ เช่น ภาวะเจ็บปวด โรคฟัน โรคติดเชื้อต่างๆ หรือจากความเครียด เมื่อไม่มีอาหารก็จะทำให้ไม่มีตัวกระตุ้นให้ลำไส้เคลื่อนไหว จะทำให้เกิดการคั่งของก๊าซในลำไส้และทำให้เกิดภาวะเสียดและการปวดท้องได้
2.มีภาวะแห้งน้ำ (dehydration) ของกระเพาะอาหาร ซึ่งเกิดจากการที่กระต่ายกินน้ำน้อยกว่าเดิม จึงทำให้อาหารที่กินเข้าไปแห้งและแข็ง อาหารจึงผ่านลำไส้ได้ยากขึ้น
3.กินอาหารที่มีไฟเบอร์หรือใยอาหารไม่พอเพียง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วไฟเบอร์เหล่านี้จะเป็นตัวกระตุ้นการเคลื่อนตัวของลำไส้เมื่อไฟเบอร์น้อยเกินไป ทำให้ขาดตัวกระตุ้นการเคลื่อนตัวของลำไส้ก็จะทำให้กระต่ายเกิดอาการท้องอืดได้ อาหารที่มีไฟเบอร์เหล่านี้ได้แก่ หญ้าชนิดต่างๆ เช่น หญ้าทิโมที (timothy hay) หญ้าโอ๊ต (oat hay)
หญ้าขน เป็นต้น
4.กินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงเกินไป เช่น อาหารเม็ด ขนมกินเล่น เมล็ดธัญพืช
● กระต่ายที่มีปัญหาโรคทางเดินอาหารหยุดนิ่งจะมีอาการอย่างไร
1.กระต่ายจะเริ่มกินหญ้าและน้ำลดลง จากนั้นก็จะกินอาหารเม็ด (pellets) ลดลงด้วย อาจกินขนมกระต่าย (treats) ได้บ้าง แต่ต่อมาจะเริ่มไม่กินอะไรเลย
2.อุจจาระกระต่ายที่ปกติจะมีลักษณะกลม ชุ่มชื้นเหมือนมีน้ำสะสมอยู่ มีเส้นผ่านศูนย์กลางโดยเฉลี่ยประมาณ 0.7 ซม. แต่ในกระต่ายที่มีอาการของลำไส้เคลื่อนตัวลดลงจะมีขนาดของก้อนอุจจาระเล็กลง แห้งและแข็ง จนถึงไม่มีอุจจาระเลยในกรณีที่ลำไส้หยุดนิ่ง โดยในตัวที่มีอาการรุนแรงมากจะพบมูก (mucoid) ปนออกมากับอุจจาระด้วย
3.ในช่วงแรก กระต่ายจะไม่แสดงอาการใดๆ จะดูร่าเริงเหมือนปกติ แต่ต่อมาจะเริ่มแสดงอาการเจ็บปวด เช่น นั่งกกตัวเหมือนแม่ไก่กกไข่ ไม่ค่อยขยับตัว กัดฟันมีเสียงดังและน้ำลายยืด
4.บางครั้งมีอาการท้องเสีย โดยพบอุจจาระที่นิ่มและเหนียวปนออกมาเป็นระยะ
5.สัตวแพทย์ที่ชำนาญจะสามารถคลำพบว่ามีก๊าซในทางเดินอาหารในปริมาณมาก ประกอบกับฟังเสียงของการเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหารด้วยหูฟังแพทย์ (stethoscope) พบว่ามีการเคลื่อนไหวน้อยจนถึงไม่มีการเคลื่อนไหว
ปัญหาการไม่เคลื่อนไหวของทางเดินอาหารในกระต่ายยังมีต่อครับ สัปดาห์หน้า เราจะมาเรียนรู้วิธีการรักษาและการป้องกันความผิดปกตินี้กันครับ
อาจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี