หากใครเคยไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา ก่อนข้ามสะพานคลองอัมพวาไปวัดอัมพวาเจติยาราม ขวามือจะเป็นทางเข้าโครงการตลาด “อัมพวาครับ” ที่สามารถเดินเชื่อมต่อไปยังร้านค้าริมคลองของตลาดน้ำอัมพวาได้ ด้วยแนวคิดสุดเก๋ ภายในโครงการมีสตูดิโองานศิลป์ ร้านอาหาร โฮมสเตย์ และร้านค้า ที่กลายเป็นจุดเช็คอินยอดฮิตเพราะการตกแต่งอันน่ารักไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ “แชะ” และ “แชร์” กันอย่างเพลิดเพลิน โครงการเก๋ๆ นี้เกิดขึ้นได้จากความคิดสร้างสรรค์ของนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ลูกหลานชาวอัมพวาโดยกำเนิด “ชัชทวี พิทักษ์ตุ้ม” หรือที่ใครมักเรียกเขาติดปากว่า “เสี่ยทอม”
“เมื่อก่อนตลาดน้ำอัมพวาไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น ส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ตรงฝั่งปากน้ำที่ติดกับแม่น้ำแม่กลอง ไม่ได้ลึกเข้ามาข้างในอย่างนี้ จะทำอย่างไรให้มันขยายมาทางนี้ได้บ้าง พอดีมาเจอบ้านเก่าหลังหนึ่ง เป็นของ นายกเทศมนตรีอัมพวา นายสรรชัย อารยอสนีมีพื้นที่ประมาณไร่กว่าๆ สามารถเดินทะลุมาริมคลองได้ ผมเห็นที่ตรงนี้ก็ไปปรึกษาผู้ใหญ่ที่นับถือว่าผมอยากจะทำอะไร ท่านก็สนับสนุนเห็นด้วย ผมจึงได้ขอเช่าที่จากนายกสรรชัย นำมาทำตลาดแบ่งพื้นที่ให้ร้านค้ามาเช่า ส่วนหนึ่งทำเป็นโฮมสเตย์ แต่แรกๆ คือให้มาขายฟรีก่อน คอนเซ็ปต์พื้นที่โครงการจะออกแนวเรโทรย้อนยุค มีร้านค้าไอเดีย เก๋ๆ ราคาไม่แพงร้านอาหารนั่งชิลได้ ส่วนที่มาของชื่อ อัมพวาครับ ผมอยากให้ทุกคนที่มารู้สึกได้ถึงความยินดีต้อนรับและแสดงความขอบคุณที่มาเที่ยวอัมพวา”
เป็นเวลา 6 ปีที่ ชัชทวี ปลุกปั้น “อัมพวาครับ” จนกลายเป็นจุดเช็คอินที่นักท่องเที่ยวต้องเข้ามาเดินชม ถ่ายรูปสวยๆ ตามมุมต่างๆ ตั้งแต่ช่วงบ่ายไปถึงค่ำ
“ผมไม่ได้เก็บค่าเช่าแพง ในโครงการอัมพวาครับ มีอยู่ 30 ร้านค้า ไม่เยอะนะแต่เน้นคุณภาพมากกว่า ผมจะบอกกับผู้เช่าตั้งแต่เริ่มต้นเลยว่าเราเป็นหุ้นส่วนกันคือผมจะหาผู้เช่าที่มีแนวคิดตรงกัน ผมจะเน้นว่าเราไม่ขายของแพง แต่อยู่ได้ นักท่องเที่ยวมาแล้วมีความสุข
อย่างร้านงามเงียบเรียบง่าย เป็นร้านขายภาพเขียนของ ครูเจี๊ยบ สอนศิลปะอยู่ในโรงเรียนที่อัมพวา ครูเจี๊ยบก็มานั่งวาดรูปโชว์ บางวันก็มีนักเรียนมานั่งเรียนวาดรูปก็เป็นอีกสีสันหนึ่งให้กับอัมพวาครับ เราก็พยายามปรับปรุงให้อัมพวาครับ มีกิมมิกแปลกใหม่มาให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส เพราะแค่นักท่องเที่ยวเดินเข้ามาถ่ายรูป ผมเห็นรอยยิ้มพวกเขา ผมก็มีความสุข ทุกวันนี้ผมก็คิดว่าประสบความสำเร็จนะ เพราะอัมพวาครับมีส่วนช่วยตลาดน้ำอัมพวาขยายตัวได้ มีนักท่องเที่ยวมาเดินทางฝั่งนี้มากขึ้น”
นอกเหนือจากโครงการตลาด อัมพวาครับ ชัชทวี ยังมีไอเดียเด็ดต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยร้านอาหารชื่อเก๋ “สถานีอัมพวาค่ะ” ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับทางเข้าโครงการอัมพวาครับ เน้นบรรยากาศสบายๆ อาหารรสชาติดี แต่ราคามิตรภาพแบบขายนักเรียนประถม ราคาจานละ 19 บาท นักเรียนมัธยม ราคาจานละ 59 บาท และเมนูมหาวิทยาลัย ราคาจานละ 109 บาท
“อาหารที่ร้านสถานีอัมพวาค่ะ คอนเซ็ปต์จริงๆ ผมวางไว้ว่ารสมือแม่ อาหารง่ายๆ แต่อร่อยในราคามิตรภาพ เมนูประถม 19 บาท มี 4 เมนู ข้าวกะเพราหมู ไข่ดาวนกกระทา ข้าวเกือบมันไก่ฉีก ต้มยำปลาทู กระหล่ำปลีผัดน้ำปลา ดูเหมือนจะน้อยแต่อิ่ม เป็น
สูตรคุณแม่ของผม เมนูมัธยม 59 บาท ข้าวหน้าไก่ไข่ข้น พิซซ่าโทส อีหมูจี๊ดจ๊าด สปาเกตตีสไปซี่ ส่วนมหาวิทยาลัย 109 บาท เป็นเมนูที่เชฟแนะนำ ไก่บัฟฟอโร่วิงส์ สปาเกตตีคาโบนาร่า มันฝรั่งชีส และ กุ้ง Yummy ผมก็ตกแต่งร้านให้ได้บรรยากาศคล้ายๆ ห้องเรียน มีกระดานดำเขียนข้อความต่างๆ ด้วยชอล์ก มีของเล่น เป็นห้องเรียนที่นำอาหารเข้ามากินได้
ไอเดียนี้ผมได้จากการเข้าเป็นสมาชิกสมาคมการค้าธุรกิจบริการและผลิตภัณฑ์ผสมผสาน ที่มีนโยบายในการแทนคุณแผ่นดิน การทำธุรกิจที่ไม่ได้มองแต่ผลกำไรที่เป็นตัวเงิน แต่ยังต้องตอบแทนแผ่นดินด้วย ผมก็เลยได้ไอเดียนี้มา ประจวบเหมาะกับที่มีคนมาเที่ยวอัมพวาแล้วบ่นว่าของแพง ผมเลยอยากให้นักท่องเที่ยวที่มามีเงิน 300 บาท พิสูจน์ว่าอาหารราคาไม่แพงแต่อิ่มอร่อย และได้ประโยชน์ครบถ้วนมีอยู่จริงๆ คือค่าแรงขั้นต่ำก็มาเที่ยวอัมพวาได้แล้ว สมมุติว่ามาจากกรุงเทพฯ นั่งรถตู้ไปกลับกรุงเทพฯ-อัมพวา 120-180 บาท นั่งเรือเที่ยว 60 บาท กินข้าว 1 จาน น้ำ 1 ขวด เลือกซื้อของฝากนิดหน่อย ได้เดินชมสิ่งดีๆ กลับบ้านไปอย่างมีความสุข”
โครงการตลาดอัมพวาครับ และสถานีอัมพวาค่ะ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของธุรกิจเล็กๆ ที่เขาดูแลอยู่ ไม่นับรวมธุรกิจ อัมพวาครับ รีสอร์ท กิจการรับจัดป่า และบริษัทน้ำรินการช่าง จำกัด ให้บริการงานออกแบบก่อสร้าง เราก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเขาเอาเวลาจากไหนมากมายมาดูแลธุรกิจเหล่านี้
“พ่อผมสอนไว้ว่า ถ้าเราตื่นก่อนคนอื่น เราจะได้กำไรมากว่าคนอื่น ได้สูดอากาศดีๆ ก่อนคนอื่น มีเวลาที่จะทำอะไรมากกว่าคนอื่น ผมก็ทำอย่างนี้มาตลอด อีกอย่างคือลูกน้อง คนที่มาทำงานกับผม ผมจะบอกเสมอว่าอย่ามาเป็นลูกน้อง แต่เราเป็นเพื่อนกัน เติบโตไปด้วยกัน มันก็ไว้ใจกันได้ ช่วยกันทำงานได้ จริงๆ ผมเรียนจบแค่ ม.6 แต่ที่ทำอะไรได้หลายอย่าง อาจจะเป็นเพราะผมโชคดีที่ได้รู้จักกับผู้ใหญ่หลายๆ ท่านที่เป็นคนเก่ง ผมไม่อายที่เรียนรู้จากคนเก่ง บางเรื่องที่ผมไม่รู้ แต่ผมเรียนรู้จากคนเก่ง คนที่เชี่ยวชาญ ผมก็ทำได้ และผมมีความฝัน มีความมุ่งมั่นที่จะทำ ผมจึงไม่กลัวที่จะลงมือทำ แต่ถ้าทำแล้วมันจะสะดุดบ้าง ล้มบ้างไม่เป็นไร เพราะการที่เราล้มทำให้เราหยุดเพื่อที่จะสร้างแรงบันดาลใจ หาหนทางใหม่ๆ ที่จะทำให้เราเดินไปถึงเป้าหมาย”
มากไปกว่านั้น เสี่ยทอม แห่งอัมพวา ยังบอกอีกว่า เขาทำธุรกิจไม่ได้หวังกำไรมากมาย เพียงแต่ให้อยู่ได้ ช่วยให้คนในชุมชนมีงานทำ มีส่วนช่วยสร้างสรรค์อัมพวาให้น่าอยู่น่าเที่ยว อันจะนำมาซึ่ง “ความสุข” ให้กับตัวเอง ให้กับสังคม ชุมชนบ้านเกิด และนักท่องเที่ยวที่มาเยือนอัมพวา เท่านี้ก็นับว่าเป็น “กำไรชีวิต” มากแล้ว
เสาร์-อาทิตย์นี้ ใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ลองเลือกไป ตลาดน้ำอัมพวา ใกล้ๆ กรุงเทพฯ แล้วไปเยี่ยมชม “อัมพวาครับ” เดินเหนื่อยก็แวะพักกินของอร่อยๆ ราคาเบาๆ ได้ที่ “สถานีอัมพวาค่ะ” แล้วคุณจะรู้ว่าความสุขเป็นเรื่องใกล้ตัวจริงๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี