สวัสดีครับ มีหลายท่านสอบถามมาเกี่ยวกับเรื่องปัญหาอาหารกระต่าย วันนี้ผมก็มีข้อมูลดีๆ จากโรงพยาบาลสัตว์เล็กคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาฝากครับ
กระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงชนิดหนึ่งที่คนหันมานิยมเลี้ยงกันมากขึ้น ไม่แพ้สุนัขและแมว เนื่องจากรูปร่างหน้าตาน่ารัก ใช้พื้นที่ในการเลี้ยงไม่มาก อีกทั้งไม่ส่งเสียงดังรบกวน ทำให้พบเห็นคนเลี้ยงกระต่ายตามบ้านเรือน หอพัก ห้องเช่า หรือคอนโดฯอยู่เป็นประจำ การจะเลี้ยงกระต่ายให้มีสุขภาพที่ดี ต้องอาศัยความเข้าใจที่ถูกต้องของเจ้าของในการเลี้ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ “เรื่องของอาหารที่ถูกต้อง”
บ่อยครั้งที่มีกระต่ายมารักษาที่คลินิกสัตว์เลี้ยงชนิดพิเศษของโรงพยาบาล ด้วยปัญหาไม่ยอมทานอาหาร ท้องอืด ท้องเสีย หรือมีฝีตามบริเวณใบหน้า ซึ่งในหลายรายพอหมอสอบถามไปถึงประวัติเรื่องของอาหารการกินแล้ว มักพบว่าเจ้าของหลายรายตอบว่า ส่วนใหญ่อาหารที่กินเป็นอาหารเม็ด บ้างก็เป็นผักผลไม้ ถ้าแปลกหน่อยก็เป็นพวกขนมขบเคี้ยวของคน แต่กลับไม่ค่อยให้ทานหญ้า มาถึงตรงนี้เจ้าของหลายคนคงสงสัยว่า “ทำไมหมอถึงเน้นย้ำให้ทานหญ้า แค่อาหารเม็ดไม่พอหรือ” ซึ่งเจ้าของควรเข้าใจถึงหลักโภชนาการที่สำคัญของกระต่าย
อาหารของกระต่ายควรปริมาณไขมันและคาร์โบไฮเดรตต่ำ และต้องมีใยอาหาร (fiber) ที่สูง เป็นส่วนประกอบ ไม่น้อยกว่า 20-22% โดยใยอาหารมีความสำคัญต่อสมดุลของระบบทางเดินอาหารในกระต่าย ช่วยทำให้ฟันไม่งอกยาวเกินไป กระตุ้นทางเดินอาหารให้บีบตัว เป็นต้นกำเนิดของอุจจาระพวงองุ่น ที่เป็นแหล่งของกรดอะมิโน วิตามิน เกลือแร่ ที่กระต่ายจะเก็บเข้าไปกินใหม่เพื่อสุขภาพที่ดี ซึ่งพวกผัก ผลไม้ หรืออาหารเม็ดสำเร็จรูปส่วนใหญ่ที่มีวางขายในท้องตลาดจะมีปริมาณของเยื่อใยไม่เพียงพอกับความต้องการ ดังนั้นอาหารที่มีใยอาหารสูง จึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของกระต่าย นั่นก็คือ หญ้าชนิดต่างๆ เช่น หญ้าทิโมธี หญ้าแพงโกร่า หญ้าอัลฟาฟา ฯลฯ โดยใน 1 วัน กระต่ายควรได้รับหญ้า เป็นปริมาณร้อยละ 70-75 อาหารเม็ด ร้อยละ 15-20 ผักชนิดอื่นๆ ร้อยละ 5-10
สำหรับอาหารที่ไม่เหมาะสมนั้น เป็นสาเหตุของโรคต่างๆที่สำคัญในกระต่าย ทำให้กระต่ายป่วย ไม่กินอาหาร จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยมีโรคที่พบได้บ่อยๆ ดังนี้
1.การยื่นยาวและการสบกันของฟันผิดปกติ ปัญหาท่อน้ำตาตีบตัน และฝีรากฟัน
รากฟันและหน้าตัดฟันของกระต่ายทุกซี่สามารถงอกยาวได้ตลอดอายุขัยของมัน โดยปกติการงอกยาวของฟันนั้นจะดำเนินควบคู่ไปกับการสึกของฟันจากการเคี้ยวอาหารที่มีเยื่อใยสูง ทำให้ฟันของกระต่ายมีรูปร่าง ความยาวที่ปกติ กลับกันถ้าฟันของกระต่ายไม่ได้ถูกทำให้สึกกร่อนจากการที่กินอาหารที่มีเยื่อใยน้อย ฟันของกระต่ายก็จะงอกยาวเกินไปจนถึงขั้นไปทิ่มแทงเนื้อเยื่อภายในช่องปาก เช่น ลิ้น หรือกระพุ้งแก้มทำให้เกิดความเจ็บปวด ในบางรายที่รุนแรงรากฟันที่ยาวเกินผิดปกตินั้น อาจไปเบียดบังท่อทางเดินน้ำตาให้ตีบตีนทำให้มีน้ำตาไหลออกจากตาตลอดเวลา หรือทิ่มแทงทะลุทำให้เนื้อเยื่อโดยรอบอักเสบเกิดเป็นฝีบริเวณรากฟันได้ ดังนั้นฟันของกระต่ายจึงต้องการการเสียดสีกับอาหารที่มีเยื่อใยสูงเพื่อเป็นการทำให้ฟันสึกไม่ให้ยื่นยาวจนผิดปกติ
2.ภาวะการบีบตัวของทางเดินอาหารลดลง และการอุดตันของทางเดินอาหาร
ปกติการบีบตัวของทางเดินอาหารต้องอาศัยเยื่อใยจากอาหารในการกระตุ้นให้มีการบีบตัวและเคลื่อนอาหารไปตามทาง อาหารที่ไม่เหมาะสมจะทำให้การบีบตัวของอาหารช้าลง เกิดการสะสมของแก๊ส และสมดุลจุลชีพภายในทางเดินอาหารผิดปกติ กระต่ายจะแสดงอาการซึม กัดฟัน ปวดเกร็งท้อง ไม่ทานอาหาร ในรายที่ร้ายแรงอาจถึงขั้นทางเดินอาหารหยุดบีบตัว และมีการอุดตันของทางเดินอาหาร ในที่สุดก็นำไปสู่การเสียชีวิตได้
ความเข้าใจในหลักโภชนาการของกระต่ายเป็นสิ่งสำคัญต่อเจ้าของที่จะเลี้ยงกระต่าย เพราะมีความสำคัญต่อการสร้างสุขภาพที่ดี และป้องกันการเกิดโรคร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นกับกระต่ายที่เราเลี้ยงได้ อย่างไรก็ตามถ้ากระต่ายของท่านมีปัญหาด้านสุขภาพ ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญก่อนที่จะสายเกินไป หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ คลินิกสัตว์เลี้ยงพิเศษ โรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดทำการวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-15.00 น.เสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-11.00 น. โทร.02-2189755
อาจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี