แพร-นัดดา ศรีทองดี
เวิร์กกิ้งวูเม่นหลายๆ คน ไม่ได้เก่งแต่เรื่องงานแต่เมื่อต้องเปลี่ยนบทบาทเป็น “ภรรยา” และ “แม่” เธอเหล่านั้นก็แสดงบทบาทหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับ แพร-นัดดา ศรีทองดี ภรรยาของศิลปินนักวาดภาพประกอบชื่อดัง โลเล-ทวีศักดิ์ ศรีทองดี และเป็นคุณแม่ของลูกชายวัยซน น้องโรมัน ศรีทองดี ในขณะที่ทำหน้าที่ ภรรยาและแม่ เธอก็ยังแบ่งปันเวลาให้กับงานศิลปะด้านการถ่ายภาพที่เธอรัก จนเกิดเป็นนิทรรศการภาพถ่ายขาว-ดำ ชุด “ฤดูร้อน บันทึกของแม่บ้านผมสั้น โดย แพร-นัดดา” ที่กำลังจัดแสดงอยู่ตอนนี้ที่ ณ เดอะ แจม แฟคตอรี่คลองสาน
แพร-นัดดา บอกว่า ตัวเองชอบการบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งการเขียนบันทึกนั้นไม่เฉพาะแต่การเขียนเป็นตัวหนังสือ แต่ยังบันทึกผ่านการ
วาดภาพ การถ่ายภาพ จนกระทั่งแต่งงาน ต้องทำหน้าที่ดูแลสามีและลูก ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ชายสองคนสองวัย แทบจะ 24 ชั่วโมง จึงทำให้เวลาในการที่จะทำสิ่งที่รักลดน้อยลงไป โดยเฉพาะลูกชาย น้องโรมัน อายุ 1 ขวบ 10 เดือน ที่อยู่ในวัยกำลังเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว เมื่อเห็นคุณแม่ลงมือเขียนหนังสือ หรือวาดภาพ ก็มักจะขอเข้ามามีส่วนร่วมอยู่เสมอ ดังนั้น สิ่งที่จะทำร่วมกับลูกชายตัวน้อยได้ดีที่สุดคือ การถ่ายภาพ
“แพรชอบการบันทึก ไม่ว่าจะเป็นการเขียน วาด หรือถ่ายภาพ ความทรงจำที่ดีเป็นของมีค่าสำหรับแพร แพรเลือกการถ่ายภาพขาว-ดำด้วยกล้องฟิล์ม เพราะคิดว่ามันเป็นอีกมุมหนึ่งที่แตกต่างจากโลกที่ตาเปล่ามองเห็น เอาเงินเก็บส่วนตัวมาทำห้องมืดที่บ้าน ใช้เวลาที่น้องโรมันนอนกลางวัน มาหัดล้างอัดรูปด้วยตัวเอง แล้วก็จะเลือกกล้องที่สามารถพกติดตัวได้ง่าย พอเห็นอะไรก็สามารถหยิบกล้องมาถ่ายได้ทันที”
สำหรับนิทรรศการภาพถ่ายขาว-ดำชุด “ฤดูร้อนบันทึกของแม่บ้านผมสั้น โดย แพร-นัดดา” คุณแม่ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงาน บอกถึงแรงบันดาลใจในการถ่ายภาพชุดนี้ว่า “มันเกิดขึ้นจากความอยากที่จะเก็บบันทึกเพียงความปกติของชีวิตในตอนนี้ เรื่องที่เรียบง่ายสิ่งที่เห็นอยู่ทุกวัน เส้นทางที่เดินจนคุ้นชิน บ้าน ครอบครัว คนรอบตัวรวมถึงตัวเอง เพราะไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ฤดูร้อนหน้าจะเป็นอย่างไรบ้าง เหมือนเสื้อในตู้ที่อยู่ๆ ก็เก่าโดยที่เราไม่รู้ตัว เหมือนต้นไม้แถวบ้านที่สูงขึ้นตอนไหนก็ไม่รู้ การบันทึกสิ่งธรรมดาๆ เหล่านี้ทำให้แพรเห็นว่าที่จริงแล้วชีวิตไม่ได้เปลี่ยนแปลงทันทีในวันที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยหรือแต่งงาน หรือมีลูก แต่ชีวิตเคลื่อนไหวตลอดเวลา”
แน่นอนว่าอีกหนึ่งแรงบันใจในการบันทึกความทรงจำผ่านภาพถ่าย จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากลูกชายของเธอเอง “เวลาที่แพรเรียกลูกให้มองกล้อง มันสัมผัสได้ว่าเขามองมาที่เราด้วยสายตาที่มอบความไว้วางใจมาก เป็นสายตาที่มองแม่ เพราะฉะนั้นเวลาที่เราดูรูปภาพของเขา เราจึงคิดถึงช่วงเวลาที่เขามองมาที่เรา เป็นความสุขมาก แพรใช้เวลาบันทึกเรื่องราวอันแสนธรรมดาของครอบครัวเราประมาณ 4-5 เดือน ที่ผ่านมา ช่วงเดียวกันนั้นเองแพรมีเพื่อนสนิทเสียชีวิต เรารู้สึกว่าชีวิตมนุษย์นั้นช่างอ่อนแอเหลือเกินเมื่อสะท้อนกลับมาเรารู้สึกว่าชีวิตของเราตอนนี้สมบูรณ์ และอบอุ่นมาก ลูกน่ารักมาก ความใสซื่อเด็กที่อยากเรียนรู้โลก ทำให้ทั้งแพร สามีและลูกมีเรื่องให้คุยกันทุกคืน นอนกอดกันทุกคืน แพรรู้สึกดีใจมากค่ะ ที่ได้บันทึกความทรงจำนี้เพราะเราไม่รู้เลยว่าอนาคตจะเปลี่ยนไปอย่างไร การบันทึกความสุขของปัจจุบัน คือความสุขของแพรค่ะ”
เนื่องจากนิทรรศการภาพถ่ายที่จัดขึ้นอยู่ในช่วงเดือนของวันแม่พอดี แพร ได้เผยความรู้สึกในฐานะที่เป็น ลูก และ เป็นแม่ ในเวลาเดียวกันว่า
“แพรสูญเสียคุณแม่ไปแล้ว มาถึงตอนนี้ที่ได้เป็นแม่บ้าง แพรรู้สึกว่าคุณแม่นั้นช่างเปรียบเสมือนกับนางฟ้า คือเป็นคนที่มีความเมตตาสูงมาก ไม่ว่าลูกจะทำอะไร จะงอแง แม้กระทั่งตัวแพรเองในวัยเด็ก คุณแม่ของแพรก็คงมองแพรด้วยความรู้สึกเมตตามากๆ เช่นกัน”
คนรักการถ่ายภาพและชอบเสพย์งานศิลป์ ร่วมสัมผัสมุมมองของแม่บ้านผมสั้นคนนี้ผ่านเรื่องราวหลังเลนส์ตลอดฤดูร้อนที่ผ่านมาของเธอได้ ตั้งแต่วันนี้-6 กันยายน 2558 นี้ ที่ เดอะ แจม แฟคตอรี่คลองสาน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แฟนเพจ www.facebook.com/TheJamFactoryBangkok
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี