การเที่ยวเชิงสุขภาพได้กลายมาเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากสำหรับคนไทย และชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มนักเที่ยวที่ไม่นิยมการท่องเที่ยวแบบหักโหม สมบุกสมบัน แบบ Extreme เนื่องจากผู้นิยมการท่องเที่ยวแนวนี้ตระหนักดีว่า การท่องเที่ยวเชิง Healthy and Wellness Tourism สามารถช่วยบำบัดสภาพเหนื่อยล้าและเจ็บป่วยของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังช่วยให้จิตใจเบิกบาน พร้อมรับกับสภาวการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างน่าอัศจรรย์ และที่สำคัญคือการท่องเที่ยวเชิงนี้ยังช่วยฟื้นฟูสภาพของร่างกายให้กลับมาแข็งแรงได้อีกด้วย
ดังนั้นจึงไม่ต้องประหลาดใจที่ในระยะ 10 ปีมานี้ เราจะพบว่านักเที่ยวบางกลุ่มเดินทางออกท่องเที่ยวไปพร้อมๆ กับอุปกรณ์การกีฬาสารพัดชนิด เช่น จักรยาน หรือบางรายก็ไปพร้อมกับเสื่อสำหรับเล่นโยคะ หรือบางคนก็ไปพร้อมกับชุดกีฬา
นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยชื่นชอบการนวดเพื่อสุขภาพกลางแหล่งธรรมชาติ ท่ามกลางขุนเขา ริมธารน้ำตก หรือริมชายหาดทราย บางรายชื่นชอบการนวดประคบด้วยสมุนไพร บางคนก็ชอบการอบสมุนไพร บางรายก็ชอบการทำสปาและวารีบำบัด และที่น่าสนใจคือ นักเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมิใช่น้อยชอบการนั่งสมาธิ ชอบการเล่นโยคะตามแหล่งธรรมชาติ โดยทุกคนบอกตรงกันว่า ธรรมชาติที่แสนสงบจะช่วยทำให้ร่างกายและจิตใจของมนุษย์ได้รับการบำบัดอย่างสุดวิเศษ ช่วยปรับสภาวะของร่างกายและจิตใจได้อย่างมหัศจรรย์
เพราะฉะนั้น การท่องเที่ยวในเชิงสุขภาพจึงได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นลำดับ หลายจังหวัดของประเทศไทยพยายามจะนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพกันมากขึ้น ดังเราจะพบว่ามีการจัดนำเที่ยวโดยเน้นรูปแบบทัวร์สุขภาพที่หลากหลาย อาทิ เที่ยวเชิงสุขภาพด้วยโปรแกรมทัวร์แบบแพทย์แผนไทย ทัวร์อาหารสุขภาพ ทัวร์สมุนไพร ทัวร์เกษตรธรรมชาติ ทัวร์วารีบำบัด ทัวร์สปาและกีฬาแบบเบาๆ แม้กระทั่งทัวร์ทำบุญและนั่งสมาธิ รวมถึงทัวร์เชิงการแพทย์และสุขภาพ
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ (Medical Tourism) นับเป็นการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ได้รับความสนใจจากชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างมาก เพราะประเทศไทยมีศักยภาพสูงในด้านการบริการทางการแพทย์ที่ทันสมัยได้มาตรฐานสากล แต่ทว่าค่าใช้จ่ายมีอัตราถูกกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่มีมาตรฐานการให้บริการที่เท่าเทียมกัน
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังอุดมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ครบครัน อาทิ ทะเล ป่าไม้ ภูเขา แหล่งศิลปวัฒนธรรม อาหาร สถานบันเทิงในรูปแบบต่างๆ รวมถึงแหล่งช็อปปิ้งที่ครบครัน ซึ่งสามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการด้านทัวร์สุขภาพได้เป็นอย่างดี
ส่วนคนไทยเองนั้น ก็นิยมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพไม่น้อยหน้าชาวต่างชาติ คนไทยรุ่นใหม่หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพทั้งกายและใจกันมากขึ้น จึงเป็นแรงผลักดันให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพเกิดขึ้นในหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพได้ อาทิ น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน
อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง ภูโคลน อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน อำเภอเมือง จังหวัดระนอง เป็นต้น
จากสถิติพบว่าชาวต่างประเทศเข้ามารับบริการรักษาพยาบาลในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา โดยมีชาวต่างประเทศเข้ามารับบริการรักษาพยาบาลเป็นจำนวนมาก และมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี เช่นในปี 2550 ชาวต่างประเทศเข้ามาใช้บริการรักษาพยาบาลในประเทศไทยมากถึง 1.42 ล้านราย สร้างรายได้ให้ประเทศเป็นมูลค่า 37,300 ล้านบาท คิดเป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัว 26,205 บาท หรือ 1,081 ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ชาวต่างประเทศที่ใช้บริการทางการแพทย์ จำนวน 814,591 คน หรือร้อยละ 57.23 เป็นชาวต่างประเทศที่มาพำนักหรือทำงานในประเทศไทย ขณะที่ร้อยละ 42.77 หรือชาวต่างประเทศจำนวน 608,827 คน เป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางมาเมืองไทย
นอกจากนี้ ธุรกิจบริการรักษาพยาบาลยังช่วยสร้างรายได้ให้กับธุรกิจบริการด้านอื่นๆ รวมถึงกับอุตสาหกรรมต่อเนื่อง อาทิ ธุรกิจยา ธุรกิจอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจบริการอื่นๆ และยังเกิดการสร้างอาชีพกระจายรายได้ และการจ้างงานในสาขาต่างๆ อีกมากมาย
สำหรับคุณ ๆ ที่สนใจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โปรดอย่าพลาดงาน Thailand Health & Wellness Tourism Showcase 2015 ซึ่งจัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยปีนี้จัดงานภายใต้กรอบแนวคิด Anti- Aging the next big thing in Health & Wellness Tourism วันที่ 14-17 กันยายน 2558 ณ ห้องคริสตัล 3 โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพฯ กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย งานประชุมธุรกิจ Business Matching Meeting งาน Trade Conference ประชุมสรุปเพื่อให้ตัวแทนขายจากทั่วโลกได้รับรู้ถึงความพร้อมและศักยภาพของประเทศไทยในฐานะ World Leaderของบริการสุขภาพเวชศาสตร์ชะลอวัยและความงาม (Anti Aging & Aesthetic) การสาธิตบริการตรวจสุขภาพและจัดแสดงผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ในงานนี้จะมีผู้ขาย (Sellers) ชาวไทยที่ทำธุรกิจให้บริการด้านสุขภาพจำนวน 36 ราย เข้าร่วมงาน และผู้ซื้อ (Buyers) จากต่างประเทศ สนใจเดินทางเข้าร่วมงานจำนวน 50 ราย จาก 18 ประเทศ อาทิ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น ออสเตรเลียนิวซีแลนด์ รัสเซีย โอมาน การ์ตา และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เวียดนาม ลาว กัมพูชา เป็นต้น รวมถึงสื่อมวลชนจากต่างประเทศจำนวน 35 ราย เข้าร่วมงาน คาดว่ากิจกรรมในงานนี้จะก่อให้เกิดรายได้จากการซื้อขายกว่า 500 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี